เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ขออนุญาติเล่านิดหนึ่งค่ะ

เมื่อคืนหลังจากสวดมนต์แล้ว นั่งสมาธิแป๊บหนึ่ง บริกรรมไม่กี่ครั้ง ได้ยินเสียงคล้ายกับได้ยินเสียงในกระโหลก ร้องเพลงไทยน่ะค่ะ แต่เหมือนเพลงโบราณ แล้วที่อยู่ก็มีแต่คนต่างชาติ ได้ยินเป็นพัก ๆ บางครั้งก็ชัด บางครั้งก็แค่งุ้งงิ้ง ๆ น่ะค่ะ

แต่ปกติจะได้ยินแต่ งุ้งงิ้ง หลายวันแล้วคะ มาเมื่อคืนได้ยินเป็นเพลงไทยโบราณ ผู้หญิงร้อง เสียงก็เพราะดี ตอนแรกก็กลัว หลัง ๆ ฟังใหม่ พอตั้งใจมากก็ไม่ได้ยินค่ะ

 

คนอุดรครับ แต่ก่อนเรียนและทำงานกรุงเทพ รวมๆก้อ 8-9 ปีครับ
ตอนนี้ทำงานที่ราชภัฏคร้าบบบ
ยังงัยคงได้เจอกันแน่ๆ คร้บ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

จักร6 ของคุณKURO ทำงานได้ดีแล้วนี่ครับ

การได้ยินเสียงทิพย์ เป็นกำลังส่วนหนึ่งของ่จักรา 6 ด้วย ไม่แปลกหรอก

 

ผมไปต่างบจังหวัดเพื่อทำงาน..นานเกือบอาทิตย์ จึงห่างจากเวบไป นาน
กลับมาวันนี้..ว่า จะเขียนต่อ จาก คราวที่แล้ว
พอเปิด ก็ตกใจ..หายไป เกือบอาทิตย์..
จำได้ ว่า ครั้งสุดท้าย จบอยู่ที่หน้า9..ตอนนี้ มาถึงหน้า 19 แล้ว
จึงต้องไล่อ่านดู ช้าๆๆ..ใช้เวลา กว่า ชั่วโมง
พบว่า มีผู้ที่ มีจิตพิเศษ หลายท่าน..ช่วยกันมาเล่าประสบการณ์แปลก..
มาให้ พวก เราได้ ฟังกัน..มี ทั้ง ชยา/ราควอซ/ วิษณ-/ กูล/ และ ลุงเม้าท์เป็นหลัก
ที่ ล้วนทำให้ กระทู้ มีชีวิต.
ก็ต้องขอบคุณ ที่ ช่วยกันทำให้ กระทู้..ไม่ตาย

อ่านเสร็จ ก็ว่า จะเล่า เรื่อง ที่ ค้างไว้ต่อ
ก็หมดแรง..เพราะ ที่ ผ่านมานอนไม่พอ
จึงต้อง ยกยอดๆไปก่อน
ผมมีเรื่องที่ จะเล่า น่า จะมากกว่า 60 เรื้อง
นี่เพิ่งผ่านไปได้ แค่ 6 เรื่อง เท่า นันเอง
วันพรุ่ง ถ้ามีโอกาส จะมาเล่า ต่อ
สวัสดีครับ

 

พม่ายังไงก็เป็นพม่า

 

แน่นอน ตายแล้วเกิดใหม่ ก็ยังนิสัยเดิม

แล้วไปยุ่งอะไรกับเค้า..... ปล่อยไปเถอะ ถ้ามายุ่งกับเรามากๆก็ทุบหัวมันไปสักทีสองที

ว่าแต่กลับจากเชียงใหม่นี่ทำไมมาเล่าแบบด้วนๆละ..
รออ่านอยู่นะ อยากรู้บทสรุปนะ

 

โอ๋ๆ คุณทิกเกอร์อย่าน้อยใจไปเลยนะคะ บีเองเมื่อเริ่มเข้ามาเจอบอร์ดนี้ใหม่ๆ ก็รู้สึกเช่นเดียวกันค่ะว่าเหมือนเข้ามาอยู่อีกโลกนึงจริงๆ หน้าจอนี้คือช่วงเวลาหนึ่งที่เราจะหยุดนิ่งเพื่ออ่านเรื่องสนุกๆ และเรื่องปาฏิหาริย์ก็เหมือนขนมหวานล่อให้ทำสมาธินั่นแหละค่ะ บีคิดว่า มันแยกกันไม่ออก ทุกสิ่งย่อมเกื้อกูลกัน หากคนที่เชื่อเรื่องปาฏิหาริย์และลองศึกษาดูแล้วก็จะพบว่าส่วนใหญ่เกิดจากการปฏิบัติสมาธิตามรอยพระพุทธองค์ค่ะ คนที่ได้ญาณพิเศษต่างๆ มาตั้งแต่เกิดนั้น มีน้อยมาก และหากไม่ปฏิบัติดีๆ แล้ว ย่อมถูกเอาคืนค่ะ

ตอนแรกบีก็ว่า คนพวกนี้คุยอะไรกันเนี่ย แต่ว่าก็มีบางเรื่องที่สะกิดต่อมสงสัยเราขึ้นมา ก็เลยลองถามออกไป แต่ปรากฏว่าเกินคาดค่ะ พวกเขาต่างพยายามมาตอบให้เรา บางคนอดทนพิมพ์เป็นหน้าๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้ ความมีน้ำใจตรงนี้แหละที่ทำให้บีติดหนึบอยู่กับบอร์ดนี้ ไม่ยอมไปไหน เพราะในเรื่องของความสนุกสนานที่เกือบจะต๊อง มีความงดงามของมิตรภาพแฝงอยู่ค่ะ อยู่ที่นี่บีได้เจอกัลยาณมิตรเพียบเลยค่ะ

ดังนั้น บีเชื่อค่ะว่า คุณทิกเกอร์ก็รู้สึกเหมือนบีที่เข้ามาในนี้เป็นครั้งแรกค่ะ ^^;aa13

 

.....................อ่านแล้วรู้สึก มีปีติมากเลยครับคุณ บี .........เพราะในเรื่องของความสนุกสนานที่เกือบจะต๊อง มีความงดงามของมิตรภาพแฝงอยู่ค่ะ อยู่ที่นี่บีได้เจอกัลยาณมิตรเพียบเลยค่ะ ......ชอบตรงนี้จังครับ ... 555;aa36

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

อนุโมทนาครับ


เมื่อจิตใจดี ย่อมเห็นแต่สิ่งดี ในทุกๆสิ่ง ไม่ได้เห็นแค่สิ่งฉาบทาลวงตาภายนอก

 

มาเล่าต่อเรื่องเชียงใหม่แล้วกันครับ

ตอนผมไปแรกๆนั้นแทบตายพลังตกเนื่องจากกรรมที่ทำไว้ถึงแม้จะทำไปเพราะหน้าที่ก็ไม่

สามารถหลุดจากสิ่งที่ก่อได้ แต่เนื่องด้วยเรียกว่ายังมีบุญซึ่งเร็งทำพอมีอยู่บ้างเลยได้เจอ

กับพระท่านหนึ่งในจิตและท่าน ก็เมตาช่วยเนื่องจากผมนั้นนับถื่อฮินดูปรกติไหว้พระไม่ได้ไหว้

แล้วมีอาการ ทุกครังไปเลยไม่ไหว้ แต่เจอท่านนี้ทำไมไหว้ได้ก็เลยลองดูปรากฎว่ามีบุญที่เรา

เคยทำไว้เกี่ยวพันกันมาบ้างอย่ากระนั้นเลยผมจึงอุทิศบุญให้ท่านอีกจะได้เกี่ยวพันกันมากขึ้น

5-5-5 นอกเรื่องไปนิด เคยมีคนให้ผมดูองค์ในให้ถ้าผมเห็นเป็นพระผมจะไม่สามารถบอกได้

เลยว่าท่านชื่ออะไรเพราะสิ่งที่เห็นจะคล้ายกันหมดคือมีผิวกายสุกสว่างหน้าตาดียังกะพระเอก

หนังไม่เหมือนที่เราเห็นท่านตอนมีชีวิตอยู่ ผมจึงไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร องค์ที่มาช่วยผมก็

เหมือนกัน ถามท่านท่านก็ไม่บอก บอกอยู่อย่างเดียวว่าเดี๋ยวเอ็งก็รู้ ก็ดีครับไม่รู้จะได้ไม่เกร็ง

เจออะไรจะได้กล้าถาม พอเช้าวันที่สองผมต้องไปนั่งรถต่อไปยังที่ อ.ปาย เพราะจริงๆ

แล้วกะจะไปที่นั้นเป็นเป้าหมายหลัก แต่สภาพตอนที่ไปขึ้นรถตัวเองเหมือนผู้หญิงท้องแก่ใกล้

คลอดรู้สึกอีเล็กเข็กขละ ไปหมดเลยจะแย่อยู่แล้วต้องพกถุงด้วยเพื่ออวกระหว่างท่าง ขนาด

อัญเชิญบารมีสิ่งศักสิทธ์ที่เรานับถึอคลุมทั้งตัวแล้วนะ ยังแย่เลยถ้าไม่ทำสงใสแย่ไปแล้ว ใน

ขนะนั้งรถออกจากเชียงใหม่คนขับรถ ขออ้อมไปเติมน้ำมันหน่อย ผมก็ได้เจอพระท่านนั้นอีก

ท่านก็ได้มาเป็นไกด์ให้ตลอดทางเลย ฝังอาจจะสนุกแต่จริงๆไม่สนุกหลอกที่มีคนมาชี้จุดใน

สิ่งที่เราทำไว้เมื่อก่อนเป็นยังไง เช่น เนี่ยที่นี่เอ็งเคยมาเผา ตรงนี้เอ็งมาตั่งค่ายไว้ ตรงนี้เป็น

ที่ข่มนาม(ในที่นี้หมายถึงการที่เราสังหารศตรูคือฆ่าทิ้งทั้งหมดแล้วตัดหัวกองเอาไว้นะ ว่า

อย่าขัดขืนนะเดียวจะเป็นแบบนี้) ถ้ามีไกด์แบบนี้คงไม่สนุกเท่าไร ผมเลยรู้เลยว่าทำไมเราถึง

โดนแทบตายแต่เมื่อกำหนดจิตดูเราก็ได้ชดใช้ในส่วนนี้บ้างแล้ว แต่ในส่วนผีพวกนี้คือเค้ายัง

ยึดติดในชาติพบของตัวเอง ไม่ไปตามเวลาของตัวเองเราจึงยังมีกรรมผูกพันต่อกันอยู่ ผม

เลยยังต้องเจออีก แต่ก็ดีที่เรียกหลวงพีดีกว่าเพราะตอนแรกผมก็เรียกอย่างนั้นเพราะผมก็ดู

ท่านไม่แก่เลย ท่ายก็ยิ้มไม่ว่าอะไรด้วย (ไว้พอตอนรู้ว่าท่านเป็นใครถึงกะเครียด) หลวงพีก็

เป็นไกด์พูดคุยกับผมได้คุยธรรมมะและสอนวิธีคิดต่างๆมากมาย และแนะนำว่าให้เราไปกราบ

พ่ออยู่หัวซะ แหม่พูดเหมือนอาจารย์เป๋ะเลยก็ว่าถ้าถึงที่ปายจะไป วัดน้ำฮู้ไหว้

สมเด็จพระเนรศวซะหน่อยจากที่อาจารบอกว่าที่ปายมีวัดเดียวก็เลยคิดว่าหาง่าย พอไปถึงมี

ตั่งหลายวัดแนะยังไงดีหาไม่เจอแต่พอมาถึงปายอาการก็ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ก็เลยได้ออกเทียว

ดีจริงๆ ที่นี่ไม่มีผีพม่ามากวนใจเลย เทียวทั้งวันได้ไปโป่งน้ำร้อนที่ปายด้วยขึ้นไปพอเข้าเขต

เท่านั้นก็เจอยักษ์ตัวใหญ่มากมารอต้อนรับเราก็ไม่รู้จัก แต่เคยได้ยิมมาจากอาจารย์ว่าท่าว

หิรัญพนาสูรย์ เป็นผู้ดูแลป่าเขาทั้งหมด เราจึงไหว้ท่านและบอกท่านให้คุ้มคลองดูแล ท่านก็

ได้แต่พยักหน้าแล้วก็หายไป เทียวทั้งวันแต่ไม่เจอวัดน้ำฮู้เลยทำไงดีเดี๋ยวกลับไปเชียวใหม่

ตายแน่เลย กะจะถอดใจว่าไม่เจอแล้วพอดีเพื่อนผมที่ไปด้วยมันดันไปเจอคนรู้จัก ก็ได้เเนะ

นำที่ท่องเทียวก็เลยไปกันปรากฏไปเจอวัดน้ำฮู้เฉยเลยก็เลยได้มีโอกาสไปไหว้ สมเด็จพระ

เนรศวพอก่าวเท้าเข้าไปที่ศาลท่านๆท่านก็ทักเลย ว่าหากูเจอจนได้นะผมก็ได้แต่อมยิ้มไม่ได้

สะแดงอาการอะไรมากเดียวผู้ที่มาด้วยจะสงใสว่าเราเป็นอะไร ตอยไหว้ท่านท่านก็เอา

กระบอกน้ำนะรดหัวเราเย็นมากครับถึงกระดูกเลย แต่ไม่เหมือนเย็นแบบอากาศเย็นนะ ต่างกัน

นิดนึง แล้วผมเลยเล่าเลยว่ามาแล้วเจออะไรบ้างเจอพวกทหารพม่ามายังไง ผมเลยขอพรว่า

ไม่ว่าชาติไหนๆขอให้ผมชนะมันทุกชาติไปอย่าได้ต้องแพ้มันอย่าให้มันทำอันตรายใดๆให้

เกิดแก่เราได้ ท่านก็ยิ้มแล้วก็พูดบอกเรื่องราวอีกสองสามเรื่อง แล้วเราก็ลากลับก่อนกลับผม

เิกิดนึกอย่าไงไม่รู้ว่าให้เดินไปด้านหลังเดินไปก็มเจอ เจดีมีป้ายเก่าเขียนว่าอะไรไม่รู้เลยเข้า

ไปอ่านใกล้ๆพอเดียนเข้าไปใกล้ก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นไม่รู้เป็นเพราะอะไรพอเข้าไปอ่านป้ายชัดๆก็

เลยรู้ว่าเป็นเจดีพระนางสุพรรณ์กัลยาเป็นที่ประดิษฐานเกศาของพระพี่นางพระเนรศวนี่เอง

แล้วจากนั้นผมจึงได้เดินไปหลังเจดีอีกก็มีกุฏิพระอยู่หลังนึงก็ไม่ได้คิดอะไรพอดีเจอหลวงพี่ที่

ผมเจอที่เป็นไกด์ให้ผม ท่านอยู่ในกุฏิผมก็เลยกะจะไปไหว้และถามท่านว่าท่านตกลงเคยเป็น

พระอยู่ที่นีหรือจะได้รู้วะทีว่าเป็นใครพอเดินไปใกล้ถึงกะเครียดเลยเพราะเป็นกุฏิครูบาศรีวิชัย

ที่ท่านเคยพำนักตอนอยู่ที่นี่ ท่านเห็นผมก็เลยพูดว่าเอ็งรู้แล้วนะว่าข้าเป็นใคร ผมเครียดเลย

เรียกเป็นหลวงพี่มาตลอดทางเลย เลยไหว้ขอพรขออภัยต่างๆ ท่านก็เมตาครับ จากนั้นก็ไป

เทียวต่อมาทั้งทีเอาให้คุ้มปรากฏว่าอาการต่างๆหายหมดสบายตัวมากเลยครับ เลยตรวจดู

กายทิพย์เราปรากฏว่ามีดายสะพายหลังอยู่สองเล่ม สงใสได้มาตอนไปไหว้สมเด็จพระเนรศว

พอวันกลับต้องย้อนไปที่เชียงใหม่เพื่อกันกรุงเทพ พอรถเข้าเขตเชียงใหม่ปุ๋บอาการก็มาอีก

แล้วแต่ตอนนี้เป็นไม่หนักเหมือนตอนแรกครับ ครั้งนี้พอทนได้ พวกผีพม่าเจอผมก็ไม่กล้าเข้า

ใกล้เหมือนที่ผ่านมาดีใจมากเลยเทียวเชียงใหม่อีกวันแล้วก็กลับครับ

ไปงวดนี้ได้เจอพบเห็นอะไรที่ดีกับตัวผมเองเยอะมากได้คิดอะไรที่ไม่เคยคิดได้คำสอนดีๆไว้

กะตัวได้ความสามารถบางอย่างเพิ่มเติม สรุบไว้โอกาศหน้าจะลองไปทัวล์ที่อื่นบ้างจะได้เจอ

อะไรดีๆแปลกๆอีกครับ

เห็นอาจาร์จะจัดทัวร์คนตาทิพย์อีกรอตั้งแต่กลางปีแล้วอยากไปยังไม่ได้จัดเลยถ้าจัดจองตั่วคน

แรกครับ

 

สนุกจิงๆ ค้าบบบ..

 

ดีใจครับ
ที่ได้รับรู้ในสิ่งที่ตนเองไม่สามารถรู้ได้เลย
ขอบคุณในคุรุทุกท่านครับ
รออ่านอีกครับ

 

เรื่องเล่าน่าสนใจ + ซานุกมั๊กมากค่ะ รออ่านต่อ ๆ ^^'


.

 

ตอนอยู่แถวนวมินทร์ที่บ้าน3ชั้น มีเสียงเดินชั้นบนอยู่บ่อยๆทั้งที่อยู่แค่2คน ตอนน้องสาวเข้ามานอนผมไม่อยู่ นอนหลับอยู่น้องเล่าความฝันว่า มีสาว2-3คนมายืนที่ชานชั้น2กระซิบกันว่าอย่าเสียงดังเดี่ยวน้องสาวตื่น สักพักก็มีคนเข้ามาซ่อมทีวี ซึ่งที่จริงทีวีเสียอยู่พอดีแต่น้องไม่รู้ น้องยังได้ยินเขาบอกอีกว่าให้คอยดูว่าน4ทิศหากออกดอกเมื่อไหร่จะมีชื่อเสียง เมื่อน้องเจอผมจึงถามว่ามีคนตายไหม บอกไม่มี แล้วว่าน4ทิศผมก็เพิ่งรู้จักก่อนหน้าวัน2วันเอง ที่ขำก็ทีวีเสียนี้สิรู้จริงนะ กูล

 

5 ธันวา ปีที่แล้ว กับฝันหนึ่งชั่ววูป

เรื่องที่ 3 ครับ หมดเรื่องนี้แล้วผมก็คงหมดมุข กลับเป็นผู้อ่านที่แสนดีต่อไปนะครับ อิอิ

ปีที่แล้ว ช่วงวันที่ 3 ผมนั่งดูเวปพลังจิตธรรมดาๆเนี่ยแหละครับ
วันนั้นเปิดกระทู้ดูภาพสำหรับฝึกปลงอสุภะ ดูแล้วเกิดอารมณ์ปลงได้มากมาย
จนเกิดความตั้งมั่นว่า ต่อไปเราจะปลงเรื่องกายสังขารเหล่านี้ และได้ลบอะไรๆ
ที่ไม่ดีออกไปจากคอมพิวเตอร์เสียจนหมดเลยครับ
ช่วงวันที่ 4 มีพี่สาวแสนดีหนึ่งคุรุที่ผมสนิทสนมด้วย ได้ชวนผมกับสหายธรรมอีก 2- 3 ท่าน ไปวัดพระแก้ว เนื่องจากพี่เขาบอกว่าจะมีทวยเทพมาอวยพรในหลวงของเรา ผมก็เลยไปครับ วันแรกยังไม่มีอะไรเท่าไร
เพราะพี่เขาบอกว่าหลักๆ จะเป็นวันที่ 5 เพราะฉะนั้น วันที่ 5 พวกเราก็เลยมาใหม่อีกที หลังจากที่ไหว้พระแก้วรับพรแล้ว พวกเราก็ตรงไปโลหะปราสาท ไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่นั่น แล้วหลังจากนั้น ก็ไปไหว้พระต่อที่ บ้านคุณตรีพักตร์ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่เขาบูชาอยู่ทุกวันครับ

ขากลับ ผมมาขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ ได้ขึ้นรถตอนประมาณ 3 ทุ่มครับ
ก่อนหน้านั้นสักสัปดาห์หนึ่ง ผมได้ทำโทรศัพท์มือถือหล่นหายบนรถเมล์ เนื่องจากหลับแล้วไม่รู้สึกตัว ตั้งแต่นั้นมา พอผมขึ้นรถเมล์ ผมก็พยายามจะไม่หลับ
แต่วันนั้น ตอนนั้นขึ้นรถไปแล้วก็ไม่ได้ง่วงด้วยนะครับ แต่จ่ายเงินให้พนักงานเสร็จ เอาหัวพิงกระจกปุ๊ป ผมหลับทันที เหมือนสวิชต์ถูกปิดเลยครับ

แล้วก็ฝันทันทีเหมือนกัน

ผมไม่ได้เห็นอะไรมากมายในฝันครั้งนี้ นอกจากมือ ที่ยื่นออกมาจากความมืด
ยื่นมาหาผม มือนั้นกำอยู่เหมือนกับว่าใต้ฝ่ามือนั้นมีอะไรอยู่รอให้เรายื่นมือไปรับ ผมก็เลยยื่นมือไปรับ แล้วมือนั้นก็วางทาบมาบนมือผม พร้อมกับปล่อยของที่อยู่ในมือออกมาวางบนมือผม แล้วมือนั้นก็หายไปในความมืดอีกที

สิ่งที่อยู่ในมือผมนั้น เป็นแหวนโบราณวงใหญ่ หัวเป็นพลอยเม็ดใหญ่มาก
ประมาณว่านิ้วโป้งผมใส่คงหลวม แต่ก็เล็กเกินกว่าจะใส่เป็นกำไล
ในขณะที่ผมกำลังชื่นชมความงามของแหวนอยู่นั้น ก็มีเสียงทุ้มๆดังขึ้นมา อย่างชัดเจนว่า แหวนวงนี้ชื่อ "รัตนศรี มณีโชติรส"

แล้วผมก็ตื่นครับ พร้อมกับความงง
รถเมล์ยังวิ่งไปจากจุดที่ผมขึ้นได้ไม่ถึงไหน

อะไร ใคร ยังไง จากใครล่ะเนี่ย เห็นแต่แขนอีกต่างหากนะท่าน
คำถามมากมายเกิดขึ้น หลังจากตื่นแล้ว ผมเลยรีบโทรไปสอบถามกับพี่ๆคนอื่น(หลังจากลงรถเมล์แล้วนะครับ คุยเรื่องนี้บนรถเดี๋ยวคนอื่นได้ยินจะตกใจ เหอๆ)

สุดท้ายก็ได้ไปถามอาจารย์อาชวินท่านก็บอกว่า จากท่านท้าวเวสสุวรรณนั่นแหละ จะเป็นพลังด้านปัญญา และดูเหมือนว่า หลังจากที่ผมรับแหวนมาแล้ว ผมจะเอาแหวนวงนั้นเก็บไว้ในสมองเลยละครับ เพราะหลังจากนั้น เวลาผมถ่ายภาพออร่า ออร่าตรงส่วนหัวผมจะเป็นอีกสีหนึ่ง ผิดกับสีออร่าช่วงตัวผมเลยครับ

หลังจากที่ได้แหวนเนี่ยแหละครับ เวลานั่งสมาธิ ผมถึงได้มีอาการหูดับบ้าง นั่งหลับตาแต่มองเห็นพื้นได้บ้าง ตลกหน่อยก็เห็นพื้นที่เรานั่งเป็นพื้นที่ไหนก็ไม่รู้(แต่ไม่ใช่พื้นที่เรานั่ง ณ ปัจจุบัน)บ้าง นั่งๆสมาธิในกลดกับเพื่อนแล้ว เราเห็นหน้าเพื่อนที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ในกลดข้างๆบ้าง แล้วก็จะเริ่มฝันแปลกๆบ่อยๆว่ากำลังเปิดหนังสือเล่มเก่าๆโบราณๆอ่านบ้างนะครับ

ประมาณนี้แหละครับ เปรียบเทียบกับพี่ชยาแล้วธรรมดากว่าเยอะ อิอิอิ

 

ขอบคุณ คุณบี ค่ะ...

สำหรับตัวเอง ก่อนหน้านี้ ไม่เคยศึกษาอะไรแต่ลองทบทวนดู เหตุการณ์บางอย่างที่ผ่านมา อย่างเช่น การดูออร่า... เมื่อก่อนจะคิดว่า.. ใช้สายตาตัวเองมากไป ตามันเลยเบลอๆ... พอมาอ่านวิธีการดู

อ้อ..!!~ มันเป็นแบบนี้นี่เอง... มันเรียกว่า "ออร่า"

 

อีกเรื่องนึง ขอเรียกว่าเป็นประสบการณ์เด็กไม่รู้เรื่อง ก็แล้วกัน...


เมื่อตอนเป็นเด็ก... รู้สึกว่าจะอยู่ในช่วง ม.ต้น

มีพระ 2 รูป (ไม่รู้จักชื่อ) กับ ผู้ชายแก่ คนนึง... ชื่อ "ตาเหมอ" มาซื้อยาที่บ้าน

พระรูปนึง ถามฉันว่า... "เคยนั่งสมาธิมั้ย"

ฉันตอบไปว่า... "ไม่ค่อยได้นั่ง.." (จะนั่งสมาธิก็ตอนวิชาพุทธศาสนา)

พระท่าถามประมาณว่า .. "ลองนั่งดู จะเห็นลูกแก้วกลางหน้าผาก"

ก็เลยลองนั่งดู... พระท่านคงมีจิตวิทยากับเด็ก เลยทำท่าเหมือนถือลูกแก้วแล้วโยนเข้ามาในหัวของฉัน

แล้วฉันก็นั่งสมาธิ...เพียงครู่เดียว... ฉันมองเห็นกลมๆแสงกลางหน้าผาก..
พระท่านจะถามเรื่อยๆว่า ..


"มองเห็นรึยัง เห็นสีอะไร ลองนึกให้ลูกแก้วเปลี่ยนสี"


ฉันก็ทำตาม... ซึ่ง!!! ............ เป็นไปตามที่คิด.. เหลือเชื่อ!!

จากนั้นพระท่านก็ถามว่า .. อยากรู้มั้ยว่าชาติที่แล้วเกิดเป็นอะไร!!
"อยากรู้"...ฉันตอบไป... และด้วยความเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็น

พระท่านบอกว่า "ให้ลองถามลูกแก้วดู "

ฉันทำตาม.... นอกจากจะเห็นแสงสีขาวนวล ๆ กลางหน้าผากแล้ว ฉันลองถามลูกแก้วถึงชาติที่แล้ว...

พระท่านถามว่า ฉันเห็นอะไร .. เห็นหรือยัง....

ในตอนนั้นฉันเห็น... ป่า.. มีต้นไม้.... และมีลิง ...
ฉันตอบไปว่า "เห็นลิง"...

ก่อนที่พระ 2 รูป และตาเหมอจะไป...

ท่านบอกวิธีภาวนา... และวิธีมองเห็นลูกแก้ว..และบอกว่า อย่าให้ลูกแก้วเป็นสีแดง ...มันจะมีเหตุไม่ดี


ด้วยความที่ฉันเป็นเด็ก เลยไม่ได้สนใจอะไร .. และฉันเองในตอนนั้นเห็นว่า เรื่องการทำสมาธิเป็นเรื่องไม่น่าสนใจ ในชีวิตวัยรุ่น


ฉันทิ้งสิ่งที่พระท่านสอนมาไว้ข้างหลัง...


เมื่อฉันนึกขึ้นได้ ฉันมานั่งทำสมาธิ แต่... ลูกแก้วนั้นหายไป..


พยายามแค่ไหนก็มองไม่เห็น......


ฉันเลยไม่ได้ปฏิบัติอีก

.....

เวลาผ่านไปไม่นาน.. ฉันได้พบพระรูปนั้น และ ตาเหมอ ที่บ้านฉันอีกครั้ง

พระท่านถามฉันว่า ได้นั่งสมาธิรึป่าว...

ฉันบอกว่า .. นั่งบ้าง ... แต่ลูกแก้วหาย...

พระท่านเลยหัวเราะ.... แล้วถามว่า...


"ไปทำหายที่ไหนหล่ะ อยากได้คืนมั้ย เดี๋ยวเอามาคืน"


ฉันนั่งสมาธิต่อหน้าท่าน... ซักครู่นึง ฉันบอกพระท่านว่า... มองไม่เห็นลูกแก้ว


พระท่านเลยทำท่าจับลูกแก้วโยนเข้ามาที่หัวฉันเหมือนเดิม...


เหลือเชื่อ!!!~ ฉันมองเห็นลูกแก้วเหมือนเดิม...


เออ แปลกดี .. ตอนพระไม่อยู่ ดันไม่เห็น..ซะงั้น



......



เรื่อง ของตาทิพย์....


ฉันไม่รู้หรอกว่า พระ 2 รูป กับตาเหมอ เป็นใคร มาจากไหน อยู่ที่ไหน...คิดแค่ว่า คงมาซื้อยาที่บ้าน



ตาเหมอ พูดกับฉันว่า...

"เวลากลับมาจากโรงเรียนแล้วชอบวางกระเป๋าไว้ตรงบันได ไม่เอาไปเก็บบนห้อง"


ตอนนั้นฉันคิดว่า... ที่ตาเหมอรู้ เป็นเพราะป้าบอก... ฉันหันมาถามป้าว่า


"ป้าบอกเหรอ".....


ป้าบอกว่าไม่ได้พูด.. ยังไม่ได้พูดเรื่องอะไรเลย...



อ้าว!!~ แล้วตาเหมอ รู้ได้ไง แต่ฉันไม่เชื่อหรอกว่าป้าไม่ได้พูด... ป้าต้องพูดสิ..!! ถ้าป้าไม่พูดตาเหมอจะรู้ได้ไง


มาถึงวันนี้ .. ไม่ต่ำกว่า 10 ปี.. ฉันไม่ได้นั่งสมาธิ .. ไม่ได้ภาวนา.. ไม่ได้มองเห็นลูกแก้ว..

เพราะไม่ได้สนใจที่จะปฏิบัติ


และครั้งนึง ฉันเคยส่งโทรจิตไปหาตาเหมอด้วยนะ...


นึกคิดเอาเองว่าตาเหมอคงได้กระแสจิตจากฉัน .. และนึกเองว่า ตาเหมอก็คงส่งโทรจิตกลับมาหาฉันเช่นกัน



แต่อนิจจา!!~



ลูกแก้วของฉันได้หายไป ฉันจะไปรับโทรจิตของตาเหมอได้จากที่ไหน .... จะไปเปิดตู้เย็นรับ ก็ไม่ได้...


และไม่รู้ว่าฉันจะได้ลูกแก้วคืนอีกมั้ย....ของมีค่า ช่างไม่รู้คุณค่า...


เป็นลิง ได้แก้ว ... จริงๆ~

 

.............................อนุโมธนา กับ คุณ ..
...ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ ด้วยน่ะครับ ;aa25;aa13

 

เรื่องเล่าตอนดึกๆครับ พอดีวันนี้ไปทำงานแล้วต้องนั่งรอเวลา กำลังเซ็งๆเลยพอดีเห็นช้าง

ผ่านมาก็ลองมองดูเล่นๆด้วยตาที่สามปรากฏว่าเห็นเป็นเทวดานั่งอยู่บนหัวช้างตอนแรก

ไม่ิไ้ด้คิดอะไร เพราะการเห็นเทวดาก็เห็นเป็นเรื่องปรกติ ตัวแรกผ่านไปพอตัวที่สองก็เห็นอีก

คราวนี้ชักแน่ใจแล้วว่าใช้แน่คือช้างทุกตัวจะมีเทวดาอารักษ์ ใครจะทำอันตรายนั้นยากแล้ว

การที่คนโบราณว่าลอดท้องช้างแล้วจะโชคดีเพราะอย่างนี้นี่เอง แต่มีอย่างนึงคือพอผมกลับ

มาก็เลยไปหาภาพช้างเผือกดูปรากฏว่ามี่เทวดาอารักหลายองค์มากกว่าปรกติ มิน่าถึงไม่ใช้

ใครก็จะมีกันได้จริงๆ

ต้องทำความเข้าใจนิดนึงสำหรับผู้เข้ามาใหม่การเปิดตาที่สามหรือมีตาทิพย์เกิดจากหลาย

กรณี ทั้งบุญเก่าเเละการฝึกสมาธิ รายละเอียดไปหาอ่านได้จากกระทู้การเปิดตาที่สามครับ

แต่จะบอกอย่าหนึ่งว่าการเห็นด้วยตาที่สามนั้นถ้าคนที่ตาเปิดแล้วจะเห็นเหมือนกันหมดคือถ้า

ดูผีก็จะเห็นผีเหมือนกันมีรูปร่างเหมือนกัน เหมือนตาเนื้อ เอาง่ายๆคือถ้าเห็นช้อนก็คือเห็น

ช้อนเหมือนกัน ดังนั้นเรื่องที่มาเล่ามานั้นส่วนใหญ่คนที่เปิดตาแล้วจะเจอเรื่องคล้ายกันครับ

แต่ถ้าคนที่อ้างว่าตาเปิดเห็นโน่นเห็นนี่มาเจอคนที่มีตาที่สาม คนที่มีตาที่สามจะรู้ว่าเค้า

โกหก จะพูดหรือไม่พูดอีกเรื่องนึงครับ

 

สนุกจิงๆ พะยะค่ะ