พูดคุย แนะนำ ครูบาอาจารย์สายล้านนา...

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย kang_som, 25 มกราคม 2012.

  1. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807

    น้ำมันงาอะไรรึสุดหล่อ.....
     
  2. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    ผมมีแต่ สี่หู ห้าตา ของครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน

    [​IMG]
     
  3. shogun_o

    shogun_o สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +19
    สวยดีครับ บูชามาเท่าไหร่ครับ ที่วัดยังมีอีกมั๊ย
     
  4. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    2ใบแดงครับ ที่วัดหมดแล้ว........
    แต่ถ้าต้องการเดี๋ยวชี้เป้าให้ครับ.......
     
  5. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,083
    ขอแจมผ้ายันต์โบราณ มหายันต์ แห่ง ล้านนา

    ยันต์ บารมี ๙ ชั้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    </B><!-----> <TABLE class=GoldFR2 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="70%" border=0><TBODY><TR><TD>ชื่อพระ :
    ผ้ายันต์บารมี ๙ ชั้น
    รายละเอียด :
    <TABLE class=BPramoolDesc cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD> ผ้ายันต์บารมี ๙ ชั้น ผืนนี้...ผ้าบาง ครับ...
    ...ขนาด 21นิ้ว. คูณ 47นิ้ว. ....
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผืนนี้ตื้ออยู่ 4 ปี กว่าเพื่อนที่เชียงใหม่จะใจอ่อนแบ่งมาให้
    เจ้าของเดิมเคยนิมนต์พระที่อ่านออก มาช่วยแปลให้ เลยแน่ใจว่าเป็น คาถาอะไร ดีอย่างไร เพื่อนเลยหวงมาก แต่ผมตื้อเก่ง รู้จักกันมา 4 ปี เจอผมกล่อมตลอด 4 ปี กว่าจะยอมแบ่งให้มาหมาดๆนี้เอง ยาวเหยียด เมตรกว่า
     
  6. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807

    งามมากครับ เก่า ขลังได้ใจจริงๆ เป็นของครูบาอาจารย์ท่านใดครับ แล้วแปลอักขระรวมๆ ใช้ด้านไหนครับ...งามจริงๆ ดีใจด้วยครับ
     
  7. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ครูบาผิวน้ำนม
    ครูบาที่ผมพูดถึงนี้คือท่านครูบาบุญปั๋น วัดร้องคุ้ม จ.เชียงใหม่ เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณปี 2538-2539 คณะของผมได้มีโอกาสทัวร์ทำบุญในเขตภาคเหนือ โดยมีผู้นำทำบุญพาไปกราบครูบาอาจารย์ ซึ่งผู้นำท่านนั้นได้บอกกับคณะว่าจะพาไปกราบครูบาผู้มีผิวขาวดั่งน้ำนม แล้วก็ได้พาไปวัดร้องขุ้ม พบครูบาท่านหนึ่ง ผิวท่านขาวมากและดูใสๆอีกต่างหาก ซึ่งผมว่าผิวท่านสวยยิ่งกว่าน้ำนม เพราะผิวขาวออกชมพูใสๆ ในชีวิตที่เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ใดผิวขาวสวยเหมือนท่าน ครูบาท่านนั้นคือท่านครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม จ.เชียงใหม่ นั้นเป็นโอกาสแรกที่ได้พบท่าน<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>

    http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2.248128/
     
  8. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    ขอบคุณมากครับพี่เพชรที่เข้ามาเยี่ยมชม พร้อมข้อมูลครูบาบุญปั๋นครับบบบบ
     
  9. shogun_o

    shogun_o สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +19
    จัดมาเลยครับ:'(
     
  10. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    ปาด ผ้ายันต์ ขอบคุณที่เอามาให้ชม ขอบคุณครับ
     
  11. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,083
    [​IMG]

    รายละเอียดเพิ่มเติมครับ

    มีเรื่องเล่าอยู่ว่า (คนเฒ่าคนแก่เล่ามา)
    ครั้งหนึ่งสมัยครูบาเจ้าศรีวิชัย เดินธุดงค์แถบภาคเหนือ ขณะที่ท่านเดินผ่านทุ่งนาแห่งหนึ่ง ท่านได้สังเกตเห็น (กระท่อม) เถียงนาหรือว่าห้างนา แล้วแต่เจ้าสิเอิ้นหรือเข้าใจเด้อ อิอิ กระท่อมที่ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหลัง แต่ก็เหลือชายคาอีกบางส่วนที่ยังไม่ไหม้ไฟ ท่านคงแปลกใจ ท่านจึงเดินไปดู ท่านก็เห็นหนังสือใบลาน (เป็นคาถา บารมี 9 ชั้น) อยู่ฉบับหนึ่งเหน็บอยู่ที่ชายคาเขียนเป็นภาษาล้านนา (ตั๋วเมือง) ซึ่งเป็นคำไหว้บารมี 30 ทัศที่เราท่องกันอยู่ทุกวันนี้แลฯ

    กำไหว้ ปาระมี 9 จั้น ของครูบาเจ้าศรีวิชัย

    สาธุ สาธุ สาธุ พระปัญญาปารมีสามสิบตั๊ด สาธุพระปัญญาปาระมีวังแวดล้อม วิริยะปาระมีล้อมระวังดี ศีลปาระมีบังหอกดาบ เมตตาปารมีผาบแป๊ทังปืน ทานนะปาระมีหื้อเป๋นผืนตั้งต่อ อุเบกขาปาระมีหื้อก่อเป๋นเวียง สัจจะปาระมีแวดระวังดีเป๋นใต้ ขันติปารมีก๋ายเป๋นหอกดาบบังหน้าไม้และปืนไฟ อธิฐานะปารมีผันผาบไปทุกแห่ง แข็งๆ แรงๆ ผายปราบฝูงหมู่มาร ผีสางพรายเผด ทุกทวีปภพถีบผั้งผายหนี นางธรณีอัศจรรย์ โสสะหมื่นผันอยู่ข้าง น้ำนทีนองกว้างต่อกว้างแตกตีฟองนานองนานอก เป๋นเข้าตอกดอกไม้ถวายบูชาพระแก้วแก่นไม้สะทัน พระพุทธังจุ่งมาผายโผดอนุญาโตดโผดผู้ข้าแต๊ดีหลี แม่ธรณีออกมารีดผมอยู่ที่ข้างธาตุจ้างร้ายข่ายคะจังงาสับดินพ่นน้ำนทีนองผัดผาย คอพรายหักทบท้าวพญามารอ่าวๆปูนกั๋วกราบยอมือขึ้นทูนหัวใส่เกล้า ผู้ข้านี้ได้จื่อว่าลูกศิษย์พระพุทธเจ้าต๋นมีบุญสมภารอันมากนัก พระพุทธเจ้าจึงจัดตั้งปารมีไว้เก้าจั้น ตั้งไว้ตั้งหน้าก่ได้เก้าจั้น ตั้งไว้ตังหลังก่าได้เก้าจั้น ตั้งแต่หัวแผวตีน ก่ได้เก้าจั้น ตั้งแต่ตีนแผวหัวก่าได้เก้าจั้นแสนวา ลูกปืนจักมาเสมอเหมือนฝนแสนห่า ก่จักบ่มาไก้ ข้าเจ้าก่เลยได้ว่า พุทธะคุนัง ธรรมมะคุนัง สังฆะคุนัง พุทธะอินทา ธรรมะอินทา สังฆะอินทา อัสอับอั้นแม่ธรณีผู้อยู่เหนือน้ำ ผู้อยู่ก้ำแผ่นดิน กอนข้าได้ระลึกกึ๊ดถึงคุณพระบิดา คุณพระมารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณพระแก้วตังสามผะกาน คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณแดด คุณฝน คุณลม คุณกุศลราชเจ้าก่ดี คุณพรุะต๋นภาวนาก่ดี คุณนางอุตราก่ดี คุณธรณีเจ้าก่ดี ขอหื้อจุ่งมาจ่วยฮักษาตังก้ำหน้าและก้ำหลังตนตั๋วแห่งข้าพระเจ้าในคืนวันนี้ยามนี้จุ่งแต๊ดีหลีแด่เต๊อะ
    พุทโธ พุทธังรักษา ธัมโมธัมมังรักษา สังโฆสังฆังรักษา
    พุทโธ พุทธัง อะระหัง ธัมโมธัมมังอะระหัง สังโฆสังฆังอะระหัง
    พุทโธ พุทธังกัณหะ ธัมโมธัมมังกัณหะ สังโฆสังฆังกัณหะ
    อายุวรรณโณสุขัง พะลัง.....สาธุ

    [​IMG]


    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width=830 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=tx_4 vAlign=top align=left>[ชื่อพระ] ผ้ายันต์ บารมีเก้าชั้น ครูบาเจ้า ศรีวิชัย. ครูบา อภิชัยขาวปี เขียนหมึกสัก </TD></TR><TR><TD class=tx_4 vAlign=top align=left>[รายละเอียด] ผ้ายันต์ เขียนมือหมึกสัก ลงเขียน พระคาถา "บารมี ๙ ชั้น" อักขระล้านนา เป็นแถวด้านบน เป็นพระคาถาที่ ครูบาเจ้า ศิลธรรม หรือ ครูบาเจ้า ศรีวิชัย ใช้ประจำตัวท่าน ผ้ายันต์ผืนนี้ ครูบา อภิชัยขาวปี ท่านเป็น ศิษย์เอก ครูบา ศรีวิชัย เป็นผู้เขียน ตกทอดมาจาก ลูกศิษย์ผู้ติดตาม ครูบา อภิชัยขาวปี ในอำเภอ สันป่าตอง เเละ ลายมือ ตรงกับ รูปถ่าย ครูบา อภิชัยขาวปี ที่ท่านเขียนไว้ อักขระล้านนาว่า .นะ โม พุท ธา ยะ. ที่สำคัญที่สุด ของผ้ายันต์ ผืนนี้ ช่องว่างตรงด้านล่าง ครูบาเจ้า ศิลธรรม หรือ ครูบาเจ้า ศรีวิชัย เหยียบ " ปาทะ " ไว้ ผืนนี้ ตัวจริง ที่มาแน่นอน...</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2012
  12. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    งามมาก และเข้มขลังสุดๆเลยครับ ได้มีไว้บูชาเป็นมงคลชีวิตที่สุด
     
  13. ศรัทธาพญาเวนไตย

    ศรัทธาพญาเวนไตย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    867
    ค่าพลัง:
    +1,384
    จากคาถาบารมีั้9ชั้น "พญามารอ่าวๆปูนกั๋ว" อ่านอย่างไรครับ ผมท่องได้หมดขึ้นใจ เเต่ติดประโยคนี้เเหละครับ วอนผู้มีความรู้ อ่านว่า พญามารอ่าวอ่าว หรือพญามารอ่าว พญามารอ่าว ครับ ขอบคุณครับ
     
  14. call13

    call13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +2,967
    น่าติดตาม น่าสนใจ มีข้อมูลเล่าสู่กันฟัง
     
  15. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    ครูบาอินถา ฐิตธัมโม

    ครูบาอินถา ฐิตธมฺโม วัดยั้งเมิน อ.สะเมิง เชียงใหม่ เกิด 14 มีนาคม 2464 อายุ 91 ปี


    [​IMG]

    ชีวประวัติโดยย่อ พระครูถาวรมงคลวัตร (หลวงปู่ครูบาอินถา ฐิตธมฺโม)

    พระครูถาวรมงคลวัตร(หลวงปู่ครูบาอินถา ฐิตธมฺโม) ปัจจุบันอายุ 90 ปีบริบูรณ์ เจ้าอาวาสวัดยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เกิดวันพุธ ที่ 14 มีนาคม 2464 ภูมิลำเนาเดิมบ้านหนองหวาย เริ่มบรรพชาสามเณรอายุ 12 ปีที่วัดหนองหวาย ต.ยุหว่า อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นสหายธรรมรุ่นเดียวและรู้จักดีกับครูบาต๋า วัดบ้านเหล่า รุ่นพี่คือครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ท่านขึ้นมาจำวัดที่วัดยั้งเมิน ราวปี พ.ศ.2518 และได้อุปสมบถพร้อมแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2520 โดยมีพระครูสิริธรรมโฆษิต วัดปากกอง อ.สารภี ในฐานะเจ้าคณะอำเภอสะเมิงเป็นพระอุปัชฌาย์ และมีครูบาสม โอภาโส วัดศาลาโป่งกว๋าว อ.สะเมิง มาร่วมงาน เป็นต้น อุปนิสัยของหลวงปู่ครูบาอินถาเป็นพระสงฆ์ที่สมถะ เรียบง่าย ไม่ถือตัว มีเมตตาสูงสุด พูดน้อย ยิ้มนิดๆ สูบบุหรีขี้โยเป็นเอกลักษณ์


    ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sueafai.com/monk003.php
     
  16. Eakaluck

    Eakaluck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +1,974
    พอมีสายเหนือกะเขาบ้างครับพี่เอท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      386.4 KB
      เปิดดู:
      134
  17. ฐนกร

    ฐนกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +7,639
    ขอแนะนำครูบาผาผ่า ตนบุญแห่งแม่สะเรียง ครับ

    เนื่องจากเมื่อก่อนผมได้ทำงานแถวอำเภอแม่สะเรียง และได้นับถือครูบาผาผ่ามาก จึงอยากแนะนำเพื่อนสมาชิกให้รู้จักพระดีอีกองค์ครับ

    [​IMG]

    ครูบาผาผ่าคือใคร

    จากเมืองยวมสู่ลุ่มน้ำสาละวิน เขตแดนพม่า ในบรรดาพระอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี มีศีลาจารวัตรยึดมั่น ในสัมมาปฏิบัติ ถือมังสาวิรัติเคร่งครัดในพระกัมมัฏฐาน มีสมาธิแก่กล้า มีเจโตปริญาณสามารถหยั่งรู้จิตใจของคนอื่น และเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ในถิ่นแคว้นลานนาไทย หรือภาคเหนือก่อนโน่น เห็นมีครูบาผาผ่า หรือ พระครูปัญญาวรวัตร สำนักวัดผาผ่า อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ครูบาเจ้าศรีวิไชย ได้ยกย่องประกาศเกียรติคุณ ทั้งนี้จากการกล่าวขานของชาวพุทธ ทั้งชาวเรา ชาวเขา ในสมัยที่ครูบาเจ้าศรีวิไชยยังมีชีวิตอยู่ ชาวเรา – ชาวเขา แม่สะเรียงจำนวนมากได้หลั่งไหลกันไปทำบุญขอศีลขอพรกับท่านครูบาเจ้าศรีวิไชย ที่เชียงใหม่ และช่วยทำงาน เช่น สร้างทางขึ้นดอยสุเทพเป็นต้น และการคมนาคมในสมัยนั้นแสนทุระกันดาร ไม่มีถนนให้รถราวิ่งสะดวกอย่างปัจจุบันนี้ จากอำเภอแม่สะเรียงไปเชียงใหม่ ต้องเดินเท้า ใช้เวลาเดิน ๕ - ๗ วัน เดินขึ้นเขาลงห้วย ได้รับความลำบากยากเข็ญเป็นที่สุด
    ครูบาเจ้าศรีวิไชยได้เห็นความลำบากของพี่น้องชาวพุทธ อำเภอแม่สะเรียง ที่ต้องเดินทางไกลมาด้วยความลำบากเช่นนั้น จึงได้บอกว่า ต่อไปไม่จำเป็นจะต้องมาทำบุญขอศีลขอพรกับอาตมาถึงที่นี่ก็ได้ มีอะไรก็ให้ไปหา “ ตุ๊น้อง ” ที่ วัดดอยล้อม ที่เมืองยวม โน้นก็ได้ เพราะท่านก็มีบุญบารมีแก่กล้าทุกอย่างเหมือนกัน เพียงแม่ตุ๊น้องไม่ชอบแสดงตนเท่านั้น คำว่า “ ตุ๊น้อง ” หมายถึงท่านครูบาผาผ่าฯนั่นเอง นับแต่นั้นมา บรรดาชาวพุทธ ทั้งชาวเรา – ชาวเขา อำเภอแม่สะเรียง ต่างพากันไปทำบุญให้ทานขอศีล ขอพรกับท่านครูบาผาผ่ามากขึ้น
    สมัยเมื่อ ๒๐ ปีก่อนโน้น การคมนาคมจากอำเภอแม่สะเรียงไปยังหมู่บ้านผาผ่า แสนทุระกันการ ไม่มีทางรถยนต์ไปถึงเหมือนปัจจุบันนี้ เราจะต้องเดินทางไปอีกด้วยเท้าเปล่าประมาณ ๑๕ กิโลเมตรเศษ แต่ประชาชนทั้งใกล้และไกล ทั้งชาวเรา – ชาวเขา ต่างก็มีอุตสาหะเดินทางไปทำบุญ ขอศีลพรจากท่านครูบาฯโดยมิได้ขาด มีบางคนบางพวกก็ไปขอยารักษาโรค ขอน้ำมนต์ ขอวัตถุอันเป็นมงคลเพื่อความสุขความสวัสดีแก่ตนและครอบครัว
    ชาติกำเนิด ครูบาผาผ่าฯ นามเดิมชื่อ สวน นามสกุล คำภีระ เกิดที่หมู่บ้านผาผ่า ตำบลแม่คะตวน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๓๒ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๒ ปีฉลู บิดาชื่อนายปั่น มารดาชื่อนางธิ มีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม ๔ คน
    อันธรรมดาผู้มีบุญญาธิการมักจะมีอุบัติเกิดผิดแผกกว่าคนอื่น ๆ เราจะไม่ขอเปรียบเทียบเช่น พระพุทธเจ้า ซึ่ง ประสูติที่สารวโนยานไม้รังคู่ โดยพระมารดาประทับยืนประสูติ จึงขอเปรียบเทียบกับนักบุญแห่งล้านนาไทย คือท่านครูบาเจ้าศรีวิไชย ขณะคลอดมีเสียงฟ้าร้องอึกคนึงไปทั่วทิศ ทั้งๆ ที่ไม่มีเค้าฝน ท่านจึงได้นามเมื่อเป็นเด็กว่า “ อ้ายฟ้าฮ้อง ” ท่านครูบาผาผ่าก็เช่นเดียวกัน ท่านเกิดในขณะที่มารดาอุ้มท้องแก่ไปเก็บผักในสวนตอนเช้าเพื่อนำมาปรุงอาหาร ท่านก็คลอดจากครรภ์มาโดยง่ายดายไม่มีอาการทุรนทุราย จึงได้ชื่อว่า “ เด็กชายสวน ” เด็กชายสวน เป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อเกเร มีเมตตาธรรมแต่เยาวัย ไม่ทานเนื้อสัตว์ตัดชีวิต อายุ 17 ปี จึงได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรโดยมี ครูบาเต๋ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบรรพชาแล้วได้ศึกษาคำภีร์มูลกัจจายน์พระสูตรและพุทธมนต์คาถา และพระกัมมัฏฐาน จนมีความรู้ความสามารถและมีจิตเป็นสมาธิแก่กล้าแต่เยาวัย
    สามเณรสวน ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 21 ปี ณ พัทธสีมาวัดผาผ่า ครูบาตุ้ย วัดห้วยสิงห์เป็นพระอุปัชณาย์ พระอธิการอินต๊ะวัดบ้านใหม่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้นามฉายาว่า “ ปัญญาวโร ” แปลว่าผู้มีปัญญาอันประเสริฐ เมื่ออุปสมบทแล้วก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดผาผ่า สืบแทนท่านครูบาเต๋จ๊ะมาจนสิ้นอายุขัย
    เมื่อท่านครูบาฯได้ถึงแก่มรณภาพไปแล้ว ปรากฎว่ามีธนบัตรใบละหนึ่งบาทเก่า ๆ อยู่เพียง ๑๐๐ บาทเศษ ท่านครูบาฯได้รักษาศีล วินัย อย่างเคร่งครัดมิได้ด่างพร้อย มีอยู่บ่อยครั้งท่านครูบาฯได้หลบความวุ่นวายในวัดที่มี
    คนไปกวนใจ หนีขึ้นเขาเข้าป่าจำศีลภาวนาปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน ไม่ฉันอาหารเป็นเวลา ๓ - ๗ วัน จนเป็นที่ร่ำรือกันว่า ท่านครูบาฯได้สำเร็จญานสมาบัติมีเมตตาเปี่ยมล้น ท่านจึงเปรียบเสมือนสังฆราชสุข วัดพลับ หรือหลวงพ่อเงินวัดบางคลานแห่งโพทะเล
    ด้านการปกครองสงฆ์ ท่านครูบาฯก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล และเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตตำบลแม่คะตวนมาเป็นเวลาอันยาวนานและได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ “ พระครูปัญญาวรวัตร ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๑ และท่านได้ถึงแก่มรณะภาพเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๐๔ รวมอายุได้ ๗๒ ปี
    แม้ว่าท่านครูบาฯจะได้ถึงแก่มรณภาพไปแล้วก็ตาม แต่คุณความดีและบารมีอภินิหารยังปรากฏเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ มีสาธุชนเป็นจำนวนมาก เมื่อทราบประวัติเกียรติคุณแล้ว ต่างก็แสวงหาวัตถุอันเป็นมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับท่านครูบาฯ
    ในขณะที่ท่านครูบาฯยังมีชีวิตอยู่ ไม่เคยมีการสร้างพระผง หรือเหรียญของท่านเลย นอกจากผ้ายันต์และตะกรุดที่มีคนขอท่านก็ทำให้เป็นรายบุคคลไปหลังจากท่านถึงแก่มรณภาพแล้วจึงมีคณะศิษย์ได้จัดสร้างรูปเหมือน พระผง และเหรียญของท่านออกเผยแพร่ เพื่อเป็นอนุสรณ์น้อมรำลึกถึงคุณความดีและประกาศเกียรติคุณของท่าน
    ส่วนประสบการเรื่องเล่าด้านอภินิหารจะขอนำมาเล่าอีกทีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p1.jpg
      p1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.2 KB
      เปิดดู:
      1,014
  18. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    [​IMG]

    อัตชีวประวัติ พอสังเขป

    พระกฤษดา สุเมโธ เดิมอาศัยอยู่ที่บ้านห้วยม่วง เลขที่ ๕๗ หมู่ ๓ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน บิดาชื่อ นายอุทัย มารดาชื่อ นางถิรนันท์ นามสกุล เอกกันทา

    ในช่วงที่มารดาอุ้มท้องก่อนกำหนดคลอดหนึ่งวัน ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ ตรงกับวันพระ ในตอนใกล้รุ่ง มารดาฝันว่าได้ลูกแก้วมณี มีความสดใสสวยงามมาก ลอยเข้ามาหา แล้วมารดาก็รับแก้วมณีดวงนั้นไว้ในอก พอสะดุ้งตื่น มารดาก็เริ่มมีอาการปวดท้องเล็กน้อย จนถึงกำหนดคลอดอีกวันหนึ่ง ซึ่งตรงกับ วันศุกร์ที่ ๗ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๖ (ใต้) แต่เป็นเดือน ๘ ของทางเหนือ เวลา ๒๓.๐๐ น. โยมมารดา ได้ถือกำเนิดทารกเพศชาย มีผิวผรรณ วรรณะเหลืองสุก คล้ายดอกจำปา โดยมีญาติผู้ใหญ่ของท่าน เป็นผู้ทำคลอดในบ้านของท่าน โดยผู้ใหญ่ท่านนี้ชื่อว่า พ่อน้อยยืน พันกับ ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ ด้วยในช่วงนั้น จะหารถไปส่งโรงพยาบาลในตัวจังหวัดก็ลำบาก รถยนต์ก็ไม่ค่อยมี หนทางก็ไกลหลายสิบกิโลเมตร บวกกับว่าในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ทางเหนือเริ่มมีฝนตก ทำให้ลำบากมากในการที่จะไปโรงพยาบาล ในวันที่ท่านคลอดก็เกิดฝนตกหนักมา ฟ้าแลบฟ้าร้อง มีลมกรรโชกแรงมาก และตอนนั้น ในหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้กัน ต้องจุดตะเกียงน้ำมันก๊าด หรือไม่ก็เทียนไข เพื่อส่องสว่างในยามค่ำคืน

    หลังจากที่ท่านคลอดมาแล้ว โยมบิดาได้ตั้งชื่อว่า เด็กชายกฤษดา เพราะถือฤกษ์ที่มารดาฝันว่าได้แก้ว และในช่วงที่คลอดเกิดฝนตกหนักพอดี หลังจากท่านคลอด และอาบน้ำอุ่นแล้ว ฝนก็อันตธานหยุดตก เป็นอัศจรรย์ ท่านเป็นทารกที่คลอดง่าย ไม่ร้องไห้เหมือนเด็กคนอื่น และที่น่าแปลกตรงที่ว่า ลายฝ่าเท้าของท่าน มีรูปคล้ายดอกบัวตูม และรูปหอยสังข์ซ้อนกันอยู่อย่างเห็นได้ชัดเจนมาก โดยเฉพาะรูปหอยสังข์ และรูปดอกบัวตูมที่ฝ่าเท้าด้านขวาเห็นจนถึงปัจจุบัน โยมบิดาจึงได้ตั้งชื่อท่านตามนิมิตดังกล่าวมา

    หลังจากที่ท่านได้เจริญเติบโต เป็นเด็กที่มีความขยัน กตัญญู และมีความคิดเฉลียวฉลาด เรียนรู้อะไรได้เร็ว ตลอดถึงการพูดจาเหมือนผู้ใหญ่ ช่างเจรจา อ่อนน้อม ถ่อมตน เป็นที่เอ็นดู สำหรับผู้พบเห็น แต่เป็นเด็กที่เลี้ยงยากมาก ในด้านของสุขภาพ ไม่สบายบ่อยมากเป็นทุก ๆ ปี และได้ศึกษาชั้นประถมต้นที่โรงเรียนวัดห้วยยาบ และช่วงนั้นก็เริ่มมีใจรักในพระศาสนา ด้วยที่ว่า คุณปู่เป็นคนชักชวนให้ตามไปทำบุญ รักษาศีล ในช่วงเข้าพรรษา ทางเหนือจะนิยมนอนวัดกัน เพื่อจะประกอบการถือศีลภาวนา ครั้งแรกที่ได้ไปทำบุญกับคุณปู่ ตอนที่นั่งในพระวิหาร พิจารณามองพระประธาน ดูองค์ท่านสง่างามมาก เหมือนท่านยิ้มให้ จึงเกิดปิติความศรัทธาหลายอย่าง ทุกครั้งที่ไปวัด ท่านชอบมองพระประธานนาน ๆ เสมอ และอยากจะบวชในบวรพุทธศาสนา และมีอีกอย่างหนึ่งในช่วงที่เป็นเด็กได้ศึกษาวิชาทางสมุนไพรและสรรพวิชาเหมือนกับคุณปู่ เพราะว่าท่านเป็นหมอพื้นบ้าน เป็นที่นับหน้าถือตาของคนในหมู่บ้านนั้น และหมู่บ้านใกล้เคียง เกี่ยวกับการรักษาโรคต่างๆ ได้

    หลังจากนั้นที่ได้ศึกษาจากโรงเรียนชั้นประถมจนจบแล้ว ตอนนั้นอายุได้ ๑๓ ปี ได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรภาคฤดูร้อนที่พัทธสีมาวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๒ เวลา ๑๓.๐๐ น. โดยมีพระครูโสภณรัตรสาร เจ้าคณะอำเภอบ้านธิ เป็นพระอุปปัชฌาจารย์ และหลังจากได้รับการบรรพชาแล้วก็จำพรรษาอยู่วัดห้วยยาบและช่วงนั้นก็ได้ศึกษานักธรรมบาลีจากสำนักเรียน โรงเรียนโสภณวิทยาทั้งแผนกสามัญและปริยัติควบคู่กันไป จนครบหนึ่งปี สำหรับการที่อยู่จำพรรษาวัดห้วยยาบ และแล้วในปี ๒๕๓๓ ก็ได้มาจำพรรษาวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) เพื่อสะดวกในการศึกษาเล่าเรียนต่างๆ เพราะต้องขึ้นรถประจำทางมาโดยตลอด ในปีนี้เอง ได้พบกับครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไซใต้ ต.ห้วยขาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ในตอนคารวะช่วงปีใหม่เมือง คือมองเห็นท่านและเกิดความศรัทธาปสาทะ อย่างบอกไม่ถูก และท่านก็เป็นพระอาวุโสที่มีอายุพรรษาสูงมากในอำเภอและพอเคยได้ยินกิตติศัพท์ความสามารถของครูบาอินตา มาจากคุณปู่และชาวบ้านมาบ้างแล้ว จึงถือโอกาสแวะเวียนไปมาบ่อยๆ จนเป็นที่คุ้นเคยกับครูบาอินตา ซึ่งท่านก็ให้ความรักและเอ็นดูดุจลูกหลานมาโดยตลอด ท่านอบรบสั่งสอนทุกด้าน โดยเน้น สมถภาวนา ในด้านการนับลูกประคำและแนวทางการกำหนดลมหายใจเข้าออก นอกจากนั้นยังได้เริ่มเรียนอักขระล้านนา ควบคู่ไปด้วย ตลอดถึงบทสวยคำภีร์ต่างๆ ของล้านนาที่ได้มาจากพ่อน้อย พ่อหนาน อาจารย์ต่างๆ ที่พอมีอยู่ในสมัยนั้น ไม่เข้าใจสิ่งใดหรือติดขัดเรื่องใด หลวงปู่ครูบาอินตาท่านได้แนะนำบอกกล่าวจนเข้าใจตลอดมา จึงเป็นเหตุให้ผูกพันท่านมากเป็นพิเศษ จะว่าไปแล้ว ในสมัยตอนเป็นเณรอยู่วัดห้วยไซเสียส่วนมาก แต่ก็ได้ไปกลับวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) อยู่เป็นประจำ เพราะต้องช่วยงานทั้งสองวัด มิให้ขาดตกบกพร่องใดๆ

    การศึกษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องหลายอย่าง และฝึกเรียนเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก โดยเฉพาะกัณฑ์กุมาร กัณฑ์มัทรี เทศน์ได้ไพเราะมาก ถือว่ามีชื่อเสียงมากในสมัยที่ยังเป็นสามเณร มีกิจนิมนต์เทศน์ทั่วภาคเหนือ จนกระทั่งท่านมีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ พร้อมที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา โดยมีพระอุปปัชฌาย์ คือ พระครูโสภณรัตรสาร เจ้าคณะอำเภอบ้านธิ พระกรรมวาจารย์ คือพระสิงห์คำ ขันติโก (มรณภาพ) และ พระอนุสาวนาจารย์ คือพระอธิการวิลา อัคคจิตโต เจ้าคณะตำบลห้วยยาบ (ลาสิกขา) อุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ตรงกับวันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๙ เวลา ๑๕.๓๘ น. โดยพระอุปปัชฌาย์ให้ฉายาทางพระภิกษุว่า "สุเมโธ" ซึ่งแปลว่า เป็นผู้มีความรู้ดี หลังจากที่ได้อุปสมบทแล้วไม่นาน เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันในสมัยนั้นก็ได้ลาสิกขาไปเป็นเหตุให้หน้าที่ทุกๆ อย่างภายในวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ตกแก่ท่าต้องรับผิดชอบทั้งหมด ตั้งแต่อายุ ๒๐ ปี พรรษาแรก หลังจากอุปสมบท โดยทำหน้าที่รักษาการแทนเจ้าอาวาสมาโดยตลอด จนถึงอายุครบ ๒๕ ปี พรรษาที่ ๕ ทางจังหวัดได้แต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จนถึงปัจจุบัน และได้เทศน์สุ่งสอนพุทธศาสนิกชนทั้งหลายตลอดมา และได้พัฒนาถาวรวัตถุ เสนาสนะต่างๆ ภายในวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) และวัดวาอารามใกล้เคียง ที่มีขอให้ท่านเป็นประธานในการก่อสร้างถาวรวัตถุมากมายหลายวัด ต่างตำบาลต่างอำเภอ ออกไปจนสำเร็จลุล่างไปด้วยดีทุกประการ ซึ่งในแต่ละครั้งต้องใช้ทุนทรัพย์ในการก่อสร้างหลายล้านบาท แต่ท่านมิได้ย่อท้อแต่ประการใด พร้อมทั้งพัฒนาทั้งในด้านจิตใจให้ความรู้ด้านธรรมะแก่สาธุชนทั่วไปโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ พัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาในด้านถาวรวัตถุ สิ่งก่อสร้างต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.khubakrissda.com/
     
  19. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    พอจะมีของครูบากฤษดาท่านบ้างครับ เห้นท่านยังพรรษาไม่มาก หนุ่มๆแบบนี้ ลองไปกราบท่านดูครับถ้ามีโอกาสผมแนะนำเลย ผมเองได้มีโอกาสไปกราบท่านอยู่เรื่อยๆ ครับปีใหม่นี้ก็ไปอีก เพราะบ้านแฟนอยู่ไม่ไกลจากวัดท่านเท่าไร

    [​IMG]
     
  20. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,807
    ตะกรุดกาสะท้อน ครูบากฤษดา ​


    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...