การหล่อพระ จะนำเศษโลหะสัมฤทธิ์ที่เหลือมาหล่อพระกริ่งแม่สอนลูก และพระชัยพ่อสอนลูกเก็บไว้เป็นระยะๆทุกครั้งที่มีการหล่อพระประธานต่างๆ เพื่อรอสมโภชน์ฉลอง ในภายหลังครับ
อนุโมทนาสาธุกับบุญกุศลเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยครับ ขอให้พระพุทธศาสนาดำรงมั่นอยู่ตราบสิ้นกาลนาน อานิสงส์บุญกุศลใดจักพึงบังเกิด ขออุทิศให้แก่มารดาบิดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติมิตรบริวารในทุกภพทุกชาติ ตลอดจนถึงเทวดา เปรต เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับรู้และอนุโมทนาโดยทั่วหน้ากัน ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ท่านที่มีสุข ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเทอญฯ พระสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ [IMG] [IMG] [IMG] [IMG] [IMG] [IMG] [IMG] ;aa10
ไปดูที่ไหนคะ จะไปกราบหลวงปู่วันเสาร์ 2/7 นี้ไหมคะ ประมาณเกือบๆทุ่มมังคะ อยากไปเหมือนกันครับ แต่ติดงานสัมมนาครับ เลยไปไม่ได้ครับ สาธุอบด้วยครับ
ปัญญาทางโลก ไม่มีศีลเป็นตัวคุม จึงเป็นปัญญาแบบมือใครยาว สาวได้สาวเอา หรือปัญญาแบบตัวใครตัวมันไม่ต้องคำนึงหรือนึกถึงศีลธรรม แบบคนฉลาดที่ขาดศีลธรรมเอาเปรียบคนที่โง่กว่าตน จึงเป็นการกระทำที่เบียดเบียนผู้อื่นอยู่เสมอ ทำให้โลกวุ่นวาย มีปัญหาอยู่เสมอ ส่วนปัญญาทางธรรมในพระพุทธศาสนามีข้อบังคับ หรือข้อบ่งชี้ชัดเจนว่า จะต้องเป็นปัญญาที่เกิดจากสมาธิ อันมีศีลเป็นเครื่องควบคุม จึงจะเป็นสัมมาปัญญา หรือปัญญาที่ถูกต้องตามพุทธ หรือจะพูดว่าปัญญาทางโลกเป็นเพียงแค่สัญญาหรือความจำก็ได้ อ่านต่อ หุหุหุ กระทู้แนะนำ มาฝากครับ ปัญญาทางโลกกับปัญญาทางธรรม http://board.palungjit.com/showthread.php?t=171405 วันนี้วันเกิดผมขอทำดีโดยการแจกกระทู้เหมือนเดิม หุหุหุหุห
คิหิสุข หรือ กามโภคีสุข มี ๔ อย่าง อันความสุข แบบคฤหัสถ์ ชัดแจ่มแจ้ง มีสี่อย่าง จะแสดง แทงให้เห็น สุขแบบนี้ ต้องสะสม บ่มบำเพ็ญ พึงละเว้น จากความชั่ว กลั้วอบาย หนึ่งมีทรัพย์ ด้วยขันแข็ง แรงหยาดเหงื่อ ( อัตถิสุข ) โดยไม่เบื่อ ไม่ระอา แม้ค้าขาย ไม่เอาเปรียบ ด้วยวิธี ที่แยบคาย ไม่แหนงหน่าย กับงานดี มีให้ทำ ข้อที่สอง สุขด้วยการ เจือจานให้ ( โภคสุข ) ญาติผู้ใหญ่ ควรอุ้มชู เลี้ยงดูล้ำ หมั่นทำบุญ เพื่ออุดหนุน ค้ำจุนธรรม ใครระกำ ควรต้องช่วย ด้วยสมควร ข้อที่สาม แสนสุขใจ ไม่มีหนี้ (อนณสุข ) การกินอยู่ แต่พอดี สุขีล้วน การเป็นหนี้ เหมือนกุ้งฝอย ลอยในอวน จิตปั่นป่วน ความสุขใจ ย่อมไม่มี ข้อที่สี่ ทำสิ่งใด ให้สุจริต ( อนวัชชสุข ) ทั้งความคิด การพูดจา อย่าป้ายสี สิ่งใดชั่ว ไม่เกลือกกลั้ว มั่วราคี ควรประพฤติ แต่กรรมดี มีศีลธรรม นี่คือสุข ที่ควรสร้าง อย่างชาวบ้าน แต่สุขนี้ ใช่ยาวนาน ชื่นบานล้ำ ต้องสร้างบุญ หนุนบำเพ็ญ เป็นประจำ จึงพ้นกรรม นำสุขี ที่ยั่งยืน
สุขของคฤหัสถ์ หรือ คิหิสุข หรือ กามโภคีสุข ๔ (สุขของชาวบ้าน, สุขที่ชาวบ้านควรพยายามเข้าถึงให้ได้สม่ำเสมอ, สุขอันชอบธรรมที่ผู้ครองเรือนควรมี ) ๑. อัตถิสุข (สุขเกิดจากความมีทรัพย์ คือ ความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ว่าตนโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงความขยันหมั่นเพียรของตน และโดยชอบธรรม) ๒. โภคสุข (สุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์ คือ ความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ว่าตนได้ใช้ทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบนั้น เลี้ยงชีพ เลี้ยงผู้ควรเลี้ยง และบำเพ็ญประโยชน์) ๓. อนณสุข (สุขเกิดจากความไม่เป็นหนี้ คือ ความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ว่าตนเป็นไท ไม่มีหนี้สินติดค้างใคร) ๔. อนวัชชสุข (สุขเกิดจากความประพฤติไม่มีโทษ คือ ความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ว่าตนมีความประพฤติสุจริต ไม่บกพร่องเสียหาย ใครๆ ติเตียนไม่ได้ ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ) บรรดาสุข ๔ อย่างนี้ อนวัชชสุข มีค่ามากที่สุด
คำอธิษฐาน อโหสิกรรม ให้กลายเป็นทรัพย์ อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้รวย http://board.palungjit.com/showthread.php?t=171852