การค้นพบครั้งใหม่!!! มนุษย์สามารถปลูกอวัยวะได้!!!!

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>การค้นพบครั้งใหม่!!! มนุษย์สามารถปลูกอวัยวะได้!!!!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#b4c1d6><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=center> </TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>นักวิทยาศาสตร์ฝันที่จะแยกเซลล์ไร้เดียงสาเหล่านี้ออกจากเอ็มบริโอของมนุษย์

เมื่อชีวิตเริ่มถือกำเนิดขึ้น เซลล์หนึ่งเซลล์จะแบ่งตัวออกเป็นสอง จากสองเป็นสี่ ทวีจำนวนขึ้นจนกลายเป็นลูกกลมๆ ที่ประกอบด้วยเซลล์มากมายซึ่งจะเติบโตเป็นมนุษย์ต่อไป นักวิทยาศาสตร์ฝันที่จะแยกเซลล์ไร้เดียงสาเหล่านี้ออกจากเอ็มบริโอของมนุษย์ เพื่อนำมากระตุ้นในสภาพปลอดเชื้อให้พัฒนาไปเป็นเซลล์กว่า 200 ชนิดซึ่งประกอบขึ้นเป็นร่างกายมนุษย์ ทั้งเซลล์ตับ สมอง ผิวหนัง กระดูก และเส้นประสาท อันเป็นกระบวนการอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในครรภ์มารดา
ความใฝ่ฝันดังกล่าวจะนำไปสู่การปฏิวัติทางการแพทย์เพื่อซ่อมแซมอวัยวะหรือเนื้อเยื่อที่เสียหาย โดยไม่ใช้ชิ้นส่วนแปลกปลอมอย่างปั๊มอินซูลินหรือข้อต่อไทเทเนียม หากเป็นอวัยวะทดแทนที่มีชีวิตและปลูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งนับเป็นก้าวแรกสู่ยุคใหม่ของการแพทย์แบบใช้อวัยวะทดแทน (regenerative medicine)
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>สามารถแยกเซลล์จากเอ็มบริโอเหลือใช้ของคลินิกเจริญพันธุ์

ทว่าเส้นทางการปฏิวัติย่อมต้องมีอุปสรรคขวากหนาม เมื่อเจมส์ ทอมสัน นักวิทยาศาสตร์ผู้เงียบขรึมจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซินที่แมดิสัน เสนอรายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 1998 ว่า เขาสามารถแยกเซลล์จากเอ็มบริโอเหลือใช้ของคลินิกเจริญพันธุ์ หรือคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และสร้างสายสเตมเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิด (stem cell) จากเอ็มบริโอมนุษย์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก
ทอมสันและนักวิทยาศาสตร์อื่นๆกลับได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองที่เกินความคาดหมาย เพราะแทนที่จะได้รับการเชิดชูในหน่วยงานวิจัยที่รัฐบาลสนับสนุนเช่นที่ควรจะเป็นในสภาวการณ์ทั่วไป การค้นพบของเขากลับต้องเผชิญกับกระแสต่อต้านอันเชี่ยวกรากทางศาสนาและการเมือง ผู้คนหลายระดับ ตั้งแต่คนธรรมดา นักการเมืองไปจนถึงรัฐบาล ล้วนอยากรู้ว่าจะหาเอ็มบริโอที่จำเป็นต้องใช้มาจากไหน และจะต้องใช้สเตมเซลล์เท่าไรในการรักษาผู้ป่วยนับล้านๆคน ไม่นานนัก ประเทศต่างๆทั่วโลกก็กระโจนเข้าสู่วังวนแห่งการถกเถียงเรื่องนี้
ผู้ที่ดูจะเป็นเดือดเป็นร้อนกว่าใครคือกลุ่มที่เห็นว่าเอ็มบริโอถือเป็นสมาชิกผู้อ่อนแอที่สุดของสังคม และกลุ่มที่ยืนกรานว่าการนำเซลล์จากเอ็มบริโอมาใช้ประโยชน์ก็ไม่ต่างจากการกินคน พวกเขาเตือนให้ระวังถึงโลกยุคใหม่ที่มี "ฟาร์มเอ็มบริโอ" และ"โรงงานโคลนมนุษย์" ผุดขึ้นมาเพื่อสร้างอะไหล่อวัยวะ ทั้งยังเห็นว่า นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้สเตมเซลล์ของผู้ใหญ่ ซึ่งได้แก่ เซลล์อายุน้อยในไขกระดูกและอวัยวะอื่นๆ รวมทั้งสายสะดือของทารกที่มักถูกทิ้งไปหลังคลอด ในการวิจัยแทนได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>สเตมเซลล์ของผู้ใหญ่อาจบำบัดโรคบางโรคได้ แต่ไม่สามารถพัฒนาเป็นเซลล์สารพัดชนิดได้เหมือนกับสเตมเซลล์จากเอ็มบริโอ

ฝ่ายสนับสนุนแย้งว่า สเตมเซลล์ของผู้ใหญ่อาจบำบัดโรคบางโรคได้ แต่ไม่สามารถพัฒนาเป็นเซลล์สารพัดชนิดได้เหมือนกับสเตมเซลล์จากเอ็มบริโอ พวกเขาอธิบายว่าคลินิกเจริญพันธุ์ต่างๆมีเอ็มบริโอเหลือใช้ นอนรอกำจัดอยู่เต็มตู้แช่แข็ง ทั้งยังบอกด้วยว่า หากตัวอ่อนเหล่านี้ได้รับบริจาคมาด้วยความเต็มใจ การปฏิเสธที่จะนำมันมาใช้ในการวิจัยเพื่อหาวิธีรักษาผู้ป่วยจากโรคร้ายก็น่าจะเป็นการขาดจริยธรรมเช่นกัน
แต่ประโยชน์ทางการแพทย์ของสเตมเซลล์จากเอ็มบริโอกลับไม่เป็นที่กังขา ดูอย่างโรคหัวใจซึ่งเป็นฆาตกรอันดับหนึ่งในสหรัฐฯ สเตมเซลล์จากเอ็มบริโออาจพัฒนาเป็นเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งจับกลุ่มและบีบตัวเป็นจังหวะพร้อมกันอย่างน่าประหลาดแม้เมื่ออยู่ในจานเพาะเนื้อเยื่อ และเมื่อนำเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจนี้ฉีดให้กับหนูและหมูที่เป็นโรคหัวใจ มันจะเข้าไปทดแทนเซลล์ที่เสียหายหรือตาย และช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น การศึกษาลักษณะเดียวกันอื่นๆ ยังชี้ให้เห็นว่า สเตมเซลล์มีศักยภาพในการรักษาโรค เช่น เบาหวาน และอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตอนนี้แล๊บวิทยาศาสตร์ สามารถ ทำ เนื้อสังเคราะห์ ขึ้นมาจากเนื้อเยื่อได้แล้ว ต่อไปในอนาคต คงได้กิน เนื้อที่ไม่ต้องฆ่าสัตว์อีกแล้ว คนก็จะเปลี่ยนพฤติกรรมไป

 

-เคยดูสารคดีเหมือนกันครับ ที่เค้าแยกเนื้อเยื่อกระดูกแล้วเอาไปเพาะ
เนื้อเยื่อเฉพาะส่วนเห็นออกมาเป็นแขนเลยครับ แต่เทคนิคนี้ยังไม่สม
บูรณ์เห็นเค้าว่ายังต้องใช้เวลาพัฒนาอีกหลายปีแต่ก็นับเป็นความก้าว
หน้าที่ดีครับ อีกหน่อยถ้าทำได้สมบูรณ์คนพิการก็จะได้ประโยชน์เยอะ
เลย

 

พัฒนาไปเป็นเซลล์กว่า 200 ชนิดซึ่งประกอบขึ้นเป็นร่างกายมนุษย์ ทั้งเซลล์ตับ สมอง ผิวหนัง กระดูก และเส้นประสาท

ถ้าสามารถพัฒนาเป็นเหมือนอะไหล่อวัยวะได้ คนป่วยจำพวกนี้น่าจะมีชีวิตรอดมากขึ้นนะครับ
ตับแข็ง ตับวาย ตับโต ตับอักเสบ มะเร็งตับ
ความจำเสื่อมเนื่องจากเซลล์ประสาทถูกทำลาย? อุบัติเหตุสมอง
ผิวหนังโดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวก การแพ้ยาบางอย่าง อุบัติเหตุต่าง ๆ
คนพิการจะน้อยลง และมนุษย์จะมีอายุยืนมากขึ้น