คำว่า "ตัดร่างกาย" ในขณะก่อนตาย เราจะต้องทำจิตใจอย่างไร ? ทำไงถึงละสังโยชน์ได้ ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 11 ตุลาคม 2006.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,021
    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ


    เดือนเมษายน ๒๕๔๕


    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    ถาม : คำว่า "ตัดร่างกาย" ในขณะก่อนตาย เราจะต้องทำจิตใจอย่างไร ?

    ตอบ : ทำเหมือนกับตอนเป็นนั่นแหละ ถ้าคิดจะตัด คือว่าจริง ๆ แล้วตอนก่อนตายส่วนใหญ่จะมีอาการเวทนาคือการเจ็บป่วยอย่างแรงกล้า มันเป็นการตัดกิเลสไปในตัวหมดอยู่แล้ว พอเวทนาขึ้นมาอย่างแรง กิเลสมันก็เกิดไม่ได้ กำลังเจ็บป่วยร้องโอดโอยอยู่ คิดจะไปรักใคร คิดจะไปโกรธใครล่ะ หลงก็หลงไม่ไหวก็เห็นอยู่แล้วว่าร่างกายเจ็บป่วยขนาดนี้ เราก็แต่เพิ่มความคิดเราไปนิดเดียวว่า ถ้าหากว่าตายตอนนี้เราจะไปนิพพานง่ายที่สุด เพียงแต่คนที่จะคิดขนาดนั้นได้ บุญเก่าต้องสร้างมาพอทีเดียว

    ถ้าหากว่าทำมาไม่พอมันก็มืดบอด นึกไม่ออกคิดไม่ได้อยู่นั่นแหละ เพราะฉะนั้นตุนบุญไว้ให้เยอะ ๆ เอาไว้วินาทีสุดท้าย แล้วคิดออกไปนิพพานได้ก็กำไรมหาศาลแล้ว ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นตั้งแต่ก่อนตายหรอก
    ถาม : อ้อ....แค่ตรงนั้นคิดออก และพูดออก ก็คือถึงเลย ?

    ตอบ : แค่นั้นแหละจ้ะ ไปเป็นเทวดาได้ก็กำไรบานแล้ว ถ้าขนาดนั้นนี่ถูกรางวัลที่ ๑ ที่ ๖๐ คู่เลยมั้ง ไม่ใช่...๖๐ คู่ มันกี่คู่นะ ๖๐ ล้านน่ะ

    ถาม : ทำไงถึงละสังโยชน์ได้ ?

    ตอบ : ก็ตั้งใจละจริง ๆ ซิจ้ะ ไม่ใช่ไปนั่งมองมันเฉย ๆ ทำจริง ๆ จ้ะ สังโยชน์สำคัญที่สุดข้อที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ว่าเห็นว่าตัวเราเป็นของเราละให้ได้ ถ้าหากว่าเราเป็นที่ตัวนี้แล้ว ตัวที่ ๒ วิจิกิจฉาความลังเลสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าเราเข้ามาถึงระดับนี้ไม่เรียกว่าลังเลแล้ว ถ้าลังเลจะไม่เข้ามา ก็ถือว่าเป็นกำไรอยู่ในตัว ก็ไปเน้นหนักอีกนี่ ข้อที่ ๓ ทรงเรื่องของศีล พยายามรักษาสิกขาบทต่าง ๆ ให้บริสุทธิ์จนกระทั่งมันชินเป็นส่วนหนึ่งอันเดียวกับตัวเรา ไม่ล่วงศีลด้วยตัวเอง ไม่สนับสนุนคนอื่นล่วงศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นล่วงศีล ถ้าทำได้ขนาดนี้โดดไปคว้าตรงท้ายเลยตั้งใจว่าไปเมื่อไหร่จะไปนิพพาน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมันจะไปติดตรงนั้นจะไปติดตรงนี้

    ถ้าเราตั้งใจจะไปนิพพาน ตัวอวิชชาที่จะทำให้เรายึดติดในร่างกายนี้ในโลกนี้ ก็เป็นอันว่าโดนตัดไปด้วย ทำจริง ๆ อันดับแรกรักษาศีลให้บริสุทธิ์ อันดับที่ ๒ พยายามสร้างสมาธิให้ตั้งมั่นให้ได้อย่างน้อยปฐมฌาน เพื่อจะได้มีกำลังตัดกิเลสพอศีลบริสุทธิ์ สมาธิตั้งมั่นปัญญาก็จะเกิด ถ้าหากว่าปัญญายังไม่เกิด ยังไม่เห็นรู้ตามความเป็นจริง ยังไม่เข็ดยังไม่กลัวมัน ก็จะเกิดอยู่ร่ำไป
    ฉะนั้นถ้าถามว่าตัดอย่างไร เดี๋ยวหามีดมา สิ่งไหนที่มันพอตามันก็จะพอใจด้วย จำไว้ อย่างลืมว่าถ้าเราเกิดฉันทะความพอใจขึ้นมา ราคะยินดี อยากมี อยากได้มันก็จะเกิด ฉันทะบวกกับราคะ ภาษาพระเขารวมกันแล้วเรียกว่า อวิชชา เข้าใจหรือยังจ๊ะ เห็นอะไรแล้วพอตา พอใจก็เจ๊งเลย


    http://www.palungjit.org/board/showpost.php?p=258060&postcount=1

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...