ค้นพบวิธีลดน้ำหนักใหม่ล่าสุด ฉีดฮอร์โมนลดความอยากอาหาร

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย phuang, 28 กรกฎาคม 2005.

  1. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>ค้นพบวิธีลดน้ำหนักใหม่ล่าสุด ฉีดฮอร์โมนลดความอยากอาหาร </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#b4c1d6><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=center> </TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ค้นพบวิธีลดน้ำหนักใหม่ล่าสุด ฉีดฮอร์โมนลดความอยากอาหาร
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2548 03:55 น.

    รอยเตอร์/บีบีซีนิวส์ - นักวิทยาศาสตร์อังกฤษเผยได้พัฒนาวิธีการรักษาแบบใหม่ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ลดน้ำหนักลงได้ด้วยการทำให้พวกเขารู้สึกอิ่ม

    นักวิจัยจากวิทยาลัย อิมพีเรียลคอลเลจในกรุงลอนดอน เชื่อว่าการฉีดฮอร์โมนออกซินโทโมดิวลิน จะช่วยจัดการปัญหาโรคอ้วนที่กำลังแพร่ระบาดในโลกได้ เพราะเมื่อฉีดมันเข้าไปแล้วมันจะทำให้ร่างกายหยุดความอยากอาหาร ส่งผลให้คนเรากินน้อยลง

    "การค้นพบว่าฮอร์โมนออกซินโทโมดิวลินมีผลในการช่วยลดน้ำหนักอาจจะเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้นสูงในสังคม" ศาสตราจารย์สตีฟ บลูม หัวหน้าคณะวิจัยกล่าว

    ผลการศึกษากับอาสาสมัคร 26 คน นาน 4 สัปดาห์ พบว่าอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดฮอร์โมนนี้เป็นประจำทุกวัน ก่อนการรับประทานอาหาร 30 นาที จะมีน้ำหนักลดลง 2.3 กิโลกรัมโดยเฉลี่ย เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ซึ่งลดลงเพียง 0.5 กิโลกรัม และไม่พบว่ามีผลข้างเคียงใดจากการฉีดสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย

    ทั้งนี้ โดยปกติ สารออกซินโทโมโดลินจะถูกสำไส้เล็กผลิตออกมาในขณะบริโภคอาหาร ฮอร์โมนนี้จะทำให้สมองหยุดความต้องการอยากอาหารกิน

    ในการศึกษา อาสาสมัคร 14 คนจะถูกฉีดสารออกซินโทโมดิวลินก่อนอาหารทุก 3 มื้อ ขณะที่ 14 คนได้รับน้ำเกลือในอัตรความถี่เดียวกัน โดยทั้งหมอและอาสาสมัครต่างไม่รู้ว่าตัวเองอยู่กลุ่มใด

    ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ได้รับสารออกซินนอกจากจะมีน้ำหนัดลดมากกว่าแล้ว การศึกษาชินนี้ยังพบว่า การฉีดสารออกซินโทโมดิวลินจะช่วยลดปริมาณสารเลปติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ควบคุมการใช้พลังงานของร่างกาย และยังลดระดับฮอร์โมนแอนดิโพสที่กระตุ้นในการสร้างเนื้อเยื่อไขมันซึ่งเป็นที่รวมของเซลล์ไขมันด้วย

    ศาสตราจารย์บลูม และเพื่อนักวิจัย ซึ่งรายงานผลการศึกษาลงในวารสารไดอาบีตส์ ระบุว่า วิธีการนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และจำเป็นที่จะต้องทำการวิจัยเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตาม เขาได้ก่อตั้งบริษัทชื่อเธียกิสขึ้นแล้ว เพื่อพัฒนาวิธีการบำบัดดังกล่าว และคาดว่าจะสำเร็จภายใน 5 ปี ข้างหน้า โดยเบื้องต้นมีเป้าหมายสำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินและมีปัญหาด้านสุขภาพ แต่เมื่อพัฒนาขึ้นสำเร็จแล้วก็หวังว่ามีประโยชน์ในวงกว้างมากขึ้น

    ทั้งนี้ ขณะนี้คณะนักวิจัยได้พัฒนาการบำบัดแบบวันเดียวขึ้น และกำลังพยายามคิดค้นการนับสารชนิดเข้าสู่ร่างกายด้วยการพ่นเข้าทางจมูก

    ตามสถิติขององค์การอนามัยโลก ผู้ใหญ่จากทั่วโลกจำนวนมากกว่า 1,000 ล้านคนมีนำหนักเกิน ในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 300 ล้านคน เป็นโรคอ้วน และจะเพิ่มเป็น 333 ล้านคนภายในปีนี้

    การคำนวนว่ามีน้ำหนักเกินหรืออ้วนนั้นใช้สูตรดัชนีมวลรวมกาย( body mass index ) ซึ่งคำนวณได้จากน้ำหนักตัว (หน่วยกิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูงยกกำลัง 2 (หน่วยเมตร) ถ้าผลลัพทธ์ออกมาเกิน 25 แสดงว่ามีน้ำหนักเกิน และหากเกิน 30 ถือว่าอ้วน

    การมีน้ำหนักเกินเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคข้ออักเสบ ตลอดจนโรคอื่นๆ การรักษาโรคที่เกี่ยวพันจากความอ้วนนั้นใช้เงินมากกว่าการรักษาอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ที่เกิดจากวัย การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...