นอกใจคนรัก งานถนัดของหนุ่ม ๆ

นอกใจคนรัก งานถนัดของหนุ่ม ๆ





<DD>นักวิชาการบางคนให้ทัศนะว่า มนุษย์นั้นไม่ใช่สัตว์ที่มีผัวเดียวเมียเดียว (Monogamous) แต่เป็นสัตว์หลายผัวเมีย (Polygamous) ซึ่งผมคิดว่าอาจมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่มนุษย์นั้นก็มีพัฒนาการทางสมองมาถึงขั้นที่มีอารยธรรม และมีศีลธรรมแล้ว จึงไม่น่าจะทำอะไรไปด้วยแรงขับ (Drive) ตามสัญชาตญาณเท่านั้น

<DD>ผู้หญิงหลายคนเคยตั้งคำถามกับผมว่า ผู้ชายทุกคนจะคิดนอกใจเมียถ้ามีโอกาสใช่ไหม เรื่องนี้ผมยืนยันได้ว่าไม่เป็นความจริง ผู้ชายแท้ๆ ที่ไม่ยอมมีเมียเลยก็ยังมี และผู้ชายที่มีเมียแล้วก็ยังอาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

<DD>ประเภทแรก จะไม่มีวันมีเมียน้อยเป็นอันขาดเพราะพื้นฐานทางบุคลิกภาพเป็นอย่างนั้น ประเภทนี้คงมีน้อยหน่อย

<DD>ประเภทที่สอง จะไม่มีเมียน้อยโดยตั้งใจ แต่อาจมีได้โดยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และโอกาส บางครั้งมีแล้วก็มักเสียใจในสิ่งที่ทำไป

<DD>ประเภทที่สาม จะแสวงหาโอกาสอยู่ตลอดเวลา เพื่อสนองกิเลสของตนและสร้างความภูมิใจในตนเอง พวกนี้มักไม่มีความรู้สึกผิด

<DD>จากการศึกษาวิจัยมีผลปรากฏออกมาว่า ชนชั้นทางสังคมมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ของตน กล่าวคือ กลุ่มที่มีพฤติกรรมดังกล่าวมากที่สุดเป็นคนในระดับเศรษฐกิจ และสังคมต่ำสุด และสูงสุด ส่วนคนในระดับกลางกลับเป็นพวกที่มีพฤติกรรมดังกล่าวน้อยกว่า หรือเรียกได้ว่ามีความอนุรักษ์นิยม (Coservative) สูงกว่า

<DD>กลุ่มอายุที่มีพฤติกรรมนอกใจคู่ของตนนั้น ความจริงแล้วก็เกิดได้ทุกอายุตั้งแต่เริ่มแต่งงานไปจนวัยชรา ยิ่งมีระดับเศรษฐกิจ และสังคมต่ำก็ยิ่งมีคู่ตั้งแต่อายุน้อยและนอกใจตั้งแต่อายุน้อย ตลอดจนเลิกกันตั้งแต่อายุยังน้อย ในกลุ่มคนชั้นกลางนั้น จากประสบการณ์ของผมเอง (หมายถึงที่มีคนมาปรึกษาผมนะครับ ไม่ใช่ประสบการณ์จากการมีเอง) พบว่ามีได้บ่อยที่สุดในกลุ่มอายุ 40-50 ปี ทั้งนี้พอจะอธิบายได้ด้วยเหตุผลดังนี้คือ

<DD>ผู้ชายในวัยนี้เป็นวัยที่ได้สร้างเนื้อสร้างตัวมานานพอสมควร หรือกำลังมีความสำเร็จในหน้าที่การงานจนเรียกได้ว่ารุ่งเรืองยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา คนเราเมื่อเริ่มมีเงินมีทอง, มีความมั่นคงในชีวิตก็ปรารถนาที่จะได้รับการเอาอกเอาใจ , มีความต้องการเป็นนายมากกว่าจะต้องคอยเอาใจคนอื่น ประกอบกับความรู้สึกเบื่อหน่ายที่เกิดขึ้นจากความจำเจซ้ำซากที่อยู่ร่วมกับคู่ของตนมานาน ทำให้ขาดความตื่นเต้นในชีวิต รวมทั้งด้านเพศสัมพันธ์ด้วย

<DD>ผู้หญิงในวัยนี้เองก็เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของสังขารอย่างเห็นได้ชัด ความสาวความสวยที่เคยมี ก็เริ่มสร้างซาไปตามกฎของธรรมชาติ บ้างก็ไม่ค่อยได้สนใจจะแต่งเนื้อแต่งตัวเท่าใดนัก บ้างก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับหน้าที่การงานซึ่งก็อาจกำลังรุ่งเรืองมากเช่นกัน บ้างก็สาละวนอยู่กับเรื่องของลูกซึ่งกำลังเติบโตเป็นหนุ่มสาว ความสดชื่นหวานซึ้งหรือความเอาใจใส่ต่อสามีก็มักลดน้อยถอยลงไป พร้อมกับความรู้สึกต่อสามีในฐานะที่เป็น "ตาแก่ที่บ้าน" ก็อาจเพิ่มความตึงเครียดในบ้านหรือมีการกระทบกระทั่งกันบ่อยขึ้น ผู้หญิงบางคนก็ออกจะจุกจิกขี้บ่น หรือควบคุมบังคับกับสามีมากเกินไป ทำให้สามีเสียความรู้สึกในด้านความภาคภูมิใจในตนเอง และอาจยิ่งพยายามหาสิ่งอื่นมาชดเชยมากขึ้น

<DD>ปัจจัยภายในครอบครัวทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการที่ผู้ชายจะมีเมียน้อย เมื่อมีองค์ประกอบอีกอย่างหนึ่งคือ บุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ครบถ้วนเพียงพอที่จะมีเหตุการณ์ขึ้นได้ทันที

<DD>ผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยนั้นมิใช่ว่าทุกคนจะมีลักษณะเหมือนกันไปหมด ความจริงแล้วแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันตามสมควรเพื่อความสะดวกแก่การเข้าใจ ผมขอแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามสภาพจิตใจดังนี้

<DD>ประเภทแรก เป็นพวกที่ตกเป็นเมียน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พวกนี้อาจเป็นคนที่ซื่อหรือถูกหลอกได้ง่าย ตอนที่ได้สามีก็คิดว่าเขายังโสดหรือหย่าร้างแล้ว เมื่อรู้ความจริงก็มักเกิดความทุกข์มาก

<DD>ประเภทที่สอง เป็นพวกที่รู้ครึ่งไม่รู้ครึ่งบางทีก็จำใจยอม เพราะหลงรักเขา หรือเสียท่าไปแล้ว บางคนก็ยอมเป็นเมียเก็บด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ พวกนี้มักมีความทุกข์พอสมควรแต่ไม่ค่อยก่อความวุ่นวาย, รู้จักสงบเสงี่ยมเจียมตัว

<DD>ประเภทที่สาม เป็นพวกที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขามีเจ้าของแล้ว แต่ก็ถือคติว่า "แย่งเมียเขาเสียศักดิ์ศรี แต่แย่งผัวเขาได้ละก็ดี เหมือนมีการันตีที่แน่นอน"

<DD>พวกนี้ไม่ค่อยมีความละอายและความรู้สึกผิด แต่กลับภาคภูมิใจในตัวเองเหมือนเป็นการพิสูจน์ว่าตนเองมีค่าควรแก่การสนใจ จึงทำให้เขามาลุ่มหลงตนได้ พวกนี้มักพยายามทำตนให้เป็นข่าวสังคมเพื่อให้ตนได้ออกหน้าออกตา บางรายก็ประสพผลสำเร็จ คือ ทำให้เขามาเลี้ยงดูยกย่อง, ย้ายบ้านมาอยู่กับตน บางคนถึงกับเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสกุลก็ยังมี

<DD>ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่เป็นตัวเสริมให้พฤติกรรมการมีเมียน้อยเกิดขึ้นคือ ท่าทีของสังคม ในบางประเทศเรื่องแบบนี้ผู้ชายไม่สามารถทำได้อย่างเปิดเผย ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ถ้าถูกจับได้จะต้องเสียหายหนัก แต่ในบางประเทศกลับทำกันอย่างโฉ่งฉ่าง เหมือนเป็นการยอมรับกันว่าเป็นของธรรมดา การกระทำ "เลียนแบบคนดัง" จึงอาจเกิดขึ้นได้ง่าย นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่คุณผู้หญิงทั้งหลายให้ความสนใจ อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วปล่อยให้แก้ปัญหากันเอง สังคมจะมีความสงบเรียบร้อยเป็นระเบียบได้ต้องไม่ปล่อยให้มีการละเมิดสิทธิกัน จะมีคนใหม่ก็น่าจะหย่ากับคนเก่าให้เรียบร้อยก่อนจะเหมาะสมกว่า โดย...นพ.เกษม ตันติผลาชีวะ

</DD>

 

เคยอ่านมุมมองเรื่องเมียน้อยของประเทศอะไรซักประเทศนี่แหละ น่าจะแถวเอเชียตะวันออก ไม่แน่ใจว่าเกาหลีหรือเปล่า เค้ามองว่าคนที่มีเมียน้อยอ่ะ เป็นคนที่โง่อะ คือแสดงว่าเมียตัวเองไม่ดีพอจึงไปหาคนอื่น มองว่าคนนั้นหาเมียดีๆไม่เป็น(ตาไม่ถึงว่างั้นเถอะ)

ข้อมูลไม่ confirm อิอิ