พระพุทธรูปทุกองค์จะมีเทวดารักษาอยู่ประจำ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 19 สิงหาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,177
    ถาม : พระพุทธรูปแต่ละองค์นี่ พระพุทธเจ้าแต่ละองค์ท่านคุมอยู่หรือเปล่าครับ ?

    ตอบ : ไม่ พระพุทธรูปนี่จะมีเทวดารักษา แล้วเทวดาแต่ละองค์อานุภาพท่านไม่เท่ากัน องค์ไหนที่บารมีมากก็สามารถสงเคราห์คนได้มาก คนก็จะนับถือมาก อย่างบ้านเราเมืองเราพระพุทธรูปมีเป็นแสนเป็นล้านแล้วทำไมมีที่ชาวบ้านเขาเลื่อมใสจริงๆ อยู่นับองค์ได้

    ถาม : แล้วก็ต้องพุทธาภิเษกก่อนซิครับ ?

    ตอบ : ถึงไม่พุทธาภิเษก เทวดาท่านก็รักษาอยู่แล้ว ถ้าเป็นพระพุทธรูป แต่ว่าการพุทธาภิเษกจะเป็นลักษณะว่า จับตัววางตาย ว่าองค์ไหนมีหน้าที่รักษา เพราะว่าถึงเวลาพุทธาภิเษกพระท่านมาก็จะให้ ท้าวสหัมบดีพรหม กับพระอินทร์รับผิดชอบว่าจะจัดเทวดาองค์ไหนรักษา แต่ถ้าหากว่าท้าวสหัมบดีหรหมหรือพระอินทร์ท่านมาเองท่านก็จัดการเอง

    ถาม : แล้วของที่อยู่ในพิธีด้วยเหรอครับ ?

    ตอบ : เหมือนกัน ลักษณะเดียวกัน ถึงเวลาแล้วก็จะมีการเจาะจงว่าคุณรักษาชิ้นนี้ ของคุณรักษาชิ้นนี้ ไม่ต้องห่วงหรอกต่อให้ทำมา ๑๐ ล้านชิ้นเทวดายังได้ไม่ถึงครึ่งชั้นเลย

    ถาม : แล้วพระพุทธรูปนี่มีทุกองค์เลยเหรอคะ เทวดาน่ะ ?

    ตอบ : ถ้าเป็นพระพุทธรูปเทดวาเขารักษาอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเป็นพวกพระเครื่องพวกอะไรติดตัวนี่ต้องทำพิธีต่างหาก เพราะว่าพระพุทธรูปถ้าหากว่าบูชาไว้อยู่กับบ้าน อานุภาพของการคุ้มครองปกปักรักษาจะอยู่เฉพาะแค่นั้น แต่ถ้าหากว่าเรื่องของพระเครื่องติดตัวนี่จะเป็นการตัดเคราะห์กรรมให้ด้วย เพราะจากเคราะห์หนักก็จะเป็นเบา จากเคราะห์เบา ก็จะหายมันต้องมีพิธีกรรมต่างหากออกไป

    ถาม : ถ้าหากว่ามีเทวดารักษาแล้วทำไมผมถึงโดนตัด.....(ไม่ชัด)....ล่ะครับ ?

    ตอบ : เทวดาเขามีหน้าที่รักษาพระนี่หว่า ไม่ได้มีหน้าที่ห้ามไม่ให้คนตัด คือถ้าหากว่ามันไม่เกินวิสัยจริงๆ ท่านก็จะช่วย

    ถาม : ที่จริงก็น่าจะสงเคราะห์นะครับ ?

    ตอบ : ก็ขอไม่ถูกนี่ ขอไม่ถูกจะไปให้ทำไมเล่า

    ถาม : แต่ว่าคนเขาเดือดร้อนอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ?

    ตอบ : การสงเคราะห์มันก็มีการจำกัดเขตเหมือนกัน อย่างเช่นว่าถ้าหากว่าบุคคลที่มีบารมีอยู่ มีการหนุนเสริมกันอะไรกัน ก็พอจะช่วยลดกระแสกรรมของเขา เพิ่มความสุขของเขาได้ คราวนี้บุคคลที่ประกอบไปด้วยบารมีอย่างหลวงพ่ออกไปจากสถานที่นั้นซะแล้ว ก็เป็นอันว่าเลิกช่วย

    ถาม : งั้นหมายถึงว่าในการที่เราขอบารมีพระท่านช่วยสงเคราะห์ นี่จริงๆ แล้วบุคคลที่ขอต้องมี...?

    ตอบ : ต้องมีทุนเดิมอยู่พอดี เพราะว่าอย่างนี้เปรียบเทียบให้ฟังเมื่อครู่นี้ว่า ถ้าหากว่ามีน้ำอยู่แค่นี้ช่วยไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าขาดอยู่แค่นี้เติมนิดเดียวเต็มพอก็ช่วยสงเคราะห์กันได้

    เป็นพระเป็นเจ้ามันลำบากลูก ไม่ใช่รับของอะไรส่งเดชไปอย่างเดียวมันต้องให้แน่นอนก่อน บางคนเขาเอาของไปทิ้งไว้ในกุฏิมันก็กองอยู่ตรงนั้นแหละ เพราะว่าเขาไม่ได้บอกว่าให้ ต้องมาไล่หาว่าคนไหนเป็นเจ้าของ แล้วไปถามเขาว่าเอามากองไว้ทำไม มันไปหยิบของเขาส่งเดชก็ไม่ได้ถ้าเกิดเขาไม่ได้ให้ เราตั้งใจเอาก็ซวยเลยน่ะซิ

    ถาม : วิสาสะก็ไม่ได้เหรอครับ ?

    ตอบ : เขามีไว้ว่า

    ๑. ต้องรู้จักกันมา

    ๒. เคยเห็นกันมา

    ๓. เคยพูดกันมา


    ๔. หนักหน่อย รู้ว่าถ้าเราเอาแล้วเขาไม่ว่าอะไร ข้อสุดท้ายนี่แหละที่จะพาเราขาดความเป็นพระหรือเปล่า ? แต่ว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงไม่ให้วิสาสะ ท่านบอกทำอย่างนั้นเลวเกินไปโอกาสพลาดมันมี ไปวิสาสะเอาของที่เขาไม่เต็มใจให้ก็เรียบร้อยแล้ว ขาดความเป็นพระไปเลย

    ถาม : แต่ถ้าเราอนุญาตให้แล้วแต่ว่าจะเอาอันไหนยังไงนี่ได้ใช่มั้ยคะ ?

    ตอบ : ได้จ้ะได้ แต่ยังไงก็ควรจะให้บอกกันต้องดูตัวอย่างสมเด็จพระวันรัตน์วัดเทพศิรินทร์ สมัยท่านเป็นเจ้าคุณพระศาสนโสภณ มารับสังฆทานแต่ละที พอโยมประเคนเสร็จให้แน่นะ ? (หัวเราะ) แน่เจ้าค่ะ ไม่เอาคืนนะ ? ไม่ล่ะเจ้าค่ะ ให้แล้วจริงๆ ใช่มั้ย ? ใช่เจ้าค่ะ เออ....แล้วค่อยเอา ท่านต้องย้ำแล้วย้ำอีกเพื่อความมั่นใจ เพราะถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ท่านพร้อมที่จะคืนนั่นแหละ น่ารักมากเลยองค์นั้นน่ะ แต่ว่าใครไปอยู่ใกล้ชิดอะไรเอาให้ดีๆ นะ ถ้าคิดผิดจังหวะนี่ท่านใส่หงายท้องเลย คิดอะไรรู้หมดท่านรู้จริงนะองค์นั้นน่ะ ตอนนี้อายุมากแล้วไม่ค่อยสบายอยู่เรื่อย

    ในจำนวนพระสมเด็จพระราชาคณะที่เป็นธรรมยุติ สมัยก่อนก็จะสนิทสนมกับหลวงพ่อสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผาติการาม เคยอยู่ใกล้รับใช้ท่านบ้าง แล้วก็มาสนิทกับท่านเจ้าคุณพระศาสนโสภณ ตอนนี้ขึ้นเป็นสมเด็จพระวันรัตน์ บางทีก็บอกกับคนบอกว่า สมเด็จ ๘ องค์ ถ้าเว้นสมเด็จพระสังฆราชนี่นิมนต์ได้ ๕ องค์ คนเขายังงงๆ ว่าสมเด็จจะมีฝ่ายละ ๔ องค์ เราเป็นมหานิกายน่าจะนิมนต์ได้เฉพาะพระมหานิกายใช่มั้ย ? แต่เปล่าหรอกอาศัยความสนิทสนมส่วนตัวนี่นิมนต์ได้ ๕ องค์ คือเกินไปอีก ๑ คือที่สนิทชิดเชื้อกับท่านนี่ท่านเป็นธรรมยุติ




    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมีนาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...