''พวกที่ซ่อมแซมพระนี่ได้เปรียบนะ เกิดเป็นนางงามจักรวาลได้ง่าย ๆ เลย''

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 8 สิงหาคม 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,021
    ถาม : อานิสงส์การซ่อมพระละครับ ?

    ตอบ : พวกที่ซ่อมแซมพระนี่ได้เปรียบนะ เกิดเป็นนางงามจักรวาลได้ง่าย ๆ เลย

    ถาม : ผมพยายามมานั่งปิดอยู่เรื่อย ๆ ครับ

    ตอบ : (หัวเราะ) อยากเกิดเป็นผู้หญิงเหรอ ทรงเมตตาบารมีอย่างหนึ่ง ซ่อมแซมของเก่าให้เป็นของใหม่โดยเฉพาะของเคารพ อย่างเช่น พระพุทธรูปหรือโบสถ์วิหารอะไรพวกนี้ พวกนี้เกิดมาใหม่รูปร่างหน้าตาสวยงามกันทั้งนั้น

    ถาม : เผื่อโดนจับไปเป็นดาราก็ซวยอีก (หัวเราะ)

    ตอบ : ก็ตั้งใจซิว่าเราเล่นเพื่อเป็นอาชีพของเราเท่านั้น กิเลสมันมีกันทุกคนนั่นแหละตราบใดที่เรายังไม่ได้เป็นอรหันต์ คราวนี้ว่ามันสำคัญตรงที่เรารู้ว่าไม่ดีเราก็ควรจะรีบ ๆ ปล่อย แต่เห็นมันยึดกันทั้งนั้นแหละ






    [​IMG] หลวงพี่ เล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    http://www.palungjit.org/board/showpost.php?p=103056&postcount=10

    ที่มา : เว็ปกระโถนข้างธรรมาสน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2013
  2. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป
    [​IMG]

    จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 1
    โดย..พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร)
    วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี

    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ การสร้างพระพุทธรูป กับการถวายปัจจัย อย่างไหนมีอานิสงส์ดีกว่าคะ…?
    หลวงพ่อ : การสร้างพระพุทธรูป จัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในเรื่องกรรมฐานจัดเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก ถ้าถวายปัจจัยถวายเป็นของสงฆ์ จัดว่าเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา จัดเป็น จาคานุสสติกรรมฐาน เกิดมาชาติหน้าก็รวย
    การสร้างพระพุทธรูปถวาย ด้วยอำนาจพุทธบูชา ทำให้มีรัศมีกายมาก เป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    "พุทธบูชา มหาเตชะ วันโต"
    "การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก"
    แต่ถ้ามีอำนาจ แต่ขาดสตางค์ก็อดตายนะ ใช่ไหม…แต่งตัวเป็นจอมพล แต่ไม่มีสตางค์ในกระเป๋า แย่นะ…
    อีกแบบหนึ่ง มีสตางค์มากๆ แต่ขาดอำนาจราชศักดิ์ ก็โดนโจรปล้นอีก ฉะนั้นทำมันเสีย 2 อย่างเลย ดีไหม…?


    ผู้ถาม : ดีค่ะ…แต่ได้ยินเขาว่า ถ้าสร้างพระพุทธรูปนี่ควรสร้างเป็นพระประธาน จึงจะมีบุญมาก
    หลวงพ่อ : ก็เขียนไว้ซิ สร้างพระประธาน องค์เล็ก องค์ใหญ่ ก็เขียนไว้ ก็เป็นพระพุทธรูปเหมือนกัน เราสร้างแล้ว ก็ได้บุญแล้ว ใครไปโยนทิ้งก็ซวยเอง

    ผู้ถาม : ถ้าหากว่าจะย้ายพระประธานไปบูชาเป็นพระประธานวัดอื่นจะได้ไหมคะ…?
    หลวงพ่อ : เรื่องของบูชา สำหรับที่วัดนี้ ถือว่าเขาถวายมาเพื่อบูชา ตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าพระย้ายไปที่อื่นนอกเขต ถือว่าย้ายเจดีย์ ทางวินัยท่านปรับอาบัติ และถ้าของนั้นเขาถวายสงฆ์ เขามีเจตนาเฉพาะจุดนั้น ถ้าเราเอาไปถือว่าขโมยของสงฆ์ อันดับแรก เขา ลงบัญชีอเวจี ไว้ก่อน ของสงฆ์นี่แม้แต่เศษกระเบื้องถ้านำไปก็ ลงบัญชีอเวจี เลย

    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าคะ การสร้างพระพุทธรูป ทำด้วยโลหะ กับทำด้วยปูน อย่างไหนจะดีกว่ากัน เจ้าคะ..?
    หลวงพ่อ : ถ้าเป็นเจตนาของฉันนะ ชอบให้ทำด้วยปูนมากกว่า ปั้นด้วยปูนแล้วก็ปิดทอง เพราะอะไรรู้ไหม…เพราะพระปูนไม่มีใครขโมย พระโลหะเผลอหน่อยเดียวคนตัดเศียรแล้ว ดีไม่ดีเอาไปทั้งองค์
    ฉะนั้นปูนดีกว่า มีอานิสงส์เท่ากัน ราคาถูกกว่า ทนทานและรักษาง่ายกว่า
    การสร้างพระพุทธรูปนี่เป็น พุทธบูชา เป็นพุทธานุสสติ
    ในกรรมฐาน 40 กอง ท่านบอกว่ากำลัง พุทธานุสสติ เป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่น
    ก็เห็นจะจริงเพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ใช่ไหม…
    ทีนี้ถ้าเราต้องการสร้างให้สวย ตามที่เราชอบเห็น แล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอ ก็จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าหากโยมเป็นว่าพระที่ทำด้วยโลหะสวยกว่า ชอบมากกว่า โยมก็สร้างแบบนั้น

    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ถ้าหากว่าเดินไปเช่าไปเช่าตามร้าน กับการจ้างเขาหล่อให้แล้วเททองเอง อานิสงส์จะได้เท่ากัน ไหมคะ….?
    หลวงพ่อ : กุศลน้อยกว่าที่เขาทำสำเร็จแล้ว เพราะว่าเราต้องเหน็ดเหนื่อย ดีไม่ดีหัวเสีย ที่เขาทำเสร็จแล้วน่ะ เราก็เลือกดูเอาตามชอบใจใช่ไหมล่ะ วิธีการแบบนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยนี่ ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย บางทีได้ตัวร้อนตัวเหนื่อยนี่มันตัดเลย
    ทำบุญทุกอย่าง ทำให้จิตสบาย กายสบาย อันนี้ถือว่ามีผลสูง
    ถวายสังฆทานนี่มีค่าสูงมาก การที่นิมนต์พระมาเลี้ยงข้าวที่บ้าน 4-5 องค์ อานิสงส์เป็นสังฆทานเหมือนกัน
    แต่ดี ไม่ดี มันน้อยกว่าอย่างนี้ เพราะยุ่งกว่า ดีไม่ดีคนแกงบ้าง ต้มบ้าง เราไม่ชอบใจก็โมโห ไอ้ตัวโมโหนี่แหละมันตัด ใช่ไหม..?

    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ถ้าเรามีพระบูชาเราควรจะหันหน้าไปทางทิศไหนคะ…?
    หลวงพ่อ : พระบูชาที่นิยมกัน เขาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ถ้าหันไปทาง ทิศใต้ กับทิศตะวันตก สตางค์ไม่เหลือใช้ ลองดูก็ได้

    ผู้ถาม : เป็นเพราะเหตุใดคะ…?
    หลวงพ่อ : อันนี้ฉันไม่รู้ละ รู้แต่ว่าสมัยหลวงพ่อปาน ถ้าลูกศิษย์ท่านหันหน้าพระพุทธไปทาง ทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ท่านบอกว่าควรหันไปทาง ทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ

    ผู้ถาม : แล้วอย่างพระพุทธรูปที่บอกว่ายังไม่ เบิกพระเนตร หมายความว่าอย่างไรคะ…?
    หลวงพ่อ : ถ้ายังไม่เบิกพระเนตร แสดงว่ายังไม่มีลูกตา พระองค์ไหนมีลูกตาแล้ว พระองค์นั้นเบิกพระเนตรแล้ว ใช่ไหม.."

    ผู้ถาม : (หัวเราะ)
    หลวงพ่อ : ฉันว่ามันเป็นพิธีสมัยก่อนโน้นละมั้ง คือเขาปั้นเป็นพระพุทธรูปแล้ว ยังไม่ได้ทำลูกตา เลยหาช่างมาทำลูกตามากกว่าเวลานี้ก็เลยเอาวิธีการนั้น พระที่วันฉันไม่ต้องเบิกพระเนตร เห็นท่านมีตาทุกองค์ ใครเขาถามว่าเบิกพระเนตรหรือยัง..ฉันไม่ทำละ มีแล้วนี่..ควรจะเบิกเนตรเราให้ดี เท่าเนตรท่านดีกว่า ใช่ไหม…?

    ผู้ถาม : แล้วถ้าหากว่าเรามีพระพุทธรูป แต่พระเนตรท่านปิดอย่างนี้ต้องเบิกพระเนตรไหมคะ…?
    หลวงพ่อ : เอาละซิ ขืนไปเบิกเข้าตาท่านฉีกแน่ บาป ต่อไปชาติ หน้าตาเหลือก

    ผู้ถาม : (หัวเราะ) คือท่านหลับตานั่งสมาธิค่ะ
    หลวงพ่อ : เขาทำหลับตาก็ปล่อยให้หลับตา ทำสมาธิก็ต้องหลับตาใช่ไหม…?

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ การถวายพระพุทธรูปองค์เล็กๆ กับถวายพระประธานองค์ใหญ่ๆ พระประธานในโบสถ์นะครับ จะมีอานิสงส์เหมือนกันหรือเปล่าครับ..?
    หลวงพ่อ : เหมือนกัน คือเขียนเหมือนกัน เขียนว่า "อานิสงส์ ถวายพระพุทธรูป" ….แต่ว่าเราไปเทียบกันไม่ได้นะ สุดแล้วแต่กำลังใจ ถ้าคนที่เขามีฐานะน้อยเขามีเงินจริง ๆ แค่สร้างพระพุทธรูป ขนาด 3 นิ้ว ทำด้วยปูนปลาสเตอร์ แต่ว่ากำลังใจเขามั่นคงฐานะ มันแค่นั้น ก็มีอานิสงส์สูง ถือว่าเขาทำดีที่สุดของฐานะอยู่แล้วใช่ไหม
    สร้างพระประธานในโบสถ์ อานิสงส์ก็คือ สร้างพระพุทธรูป ถ้าหากว่าเจ้าของ คิดว่าสร้างเพื่ออวดชาวบ้าน ก็รู้สร้างองค์เล็กๆ ไม่ได้ เพราะคิดด้วยจิตบริสุทธิ์

    ผู้ถาม : แล้วถวายพระประธานเพื่อแก้บนเล่าครับ คือว่าลูกชายง่องๆ แง่งๆ ใจไม่ค่อยดี ก็คิดว่าถ้าหากลูกชายแข็งแรงดี จะถวายพระประธานประจำอุโบสถสักองค์หนึ่ง จะแตกต่างกับถวายพระประธานเนื่องในการไม่แก้บนไหมครับ….?
    หลวงพ่อ : ต้องดูเจตนาก่อน เราแก้บน แต่ตั้งเจตนาให้ถูกนะ ถือว่าสร้างพระพุทธรูปไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อสักการะของคน และพระ มันจะมีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ถ้าคิดว่านี่เพราะลูกเราไม่ตาย เพราะการถวายพระพุทธรูปอย่างนี้อานิสงส์น้อยมาก เพราะเรามีการแลกเปลี่ยน
    เราบนก็จริงแหละ แต่คิดว่าการสร้างพระพุทธรูปนี่ สร้างไว้เป็นที่สักการะของคนและพระเณร ก็ถือว่าเราสร้างไว้ในพระพุทธศาสนา ไม่ถือเป็นการแลกเปลี่ยน ถ้าคิดว่าการแก้บนมันเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ว่าเราบนไว้จริง แต่ว่าเจตนาเราตั้งไว้อีกหน่อยหนึ่ง

    ผู้ถาม : เรื่องพระประธานผ่านไป ทีนี้เรื่องพระแตก มีบางคนเขาบอกว่า ห้อยพระที่แตกหรือหัก ลูกเมียจะทะเลาะกัน พระศุกร์จะเข้าพระเสาร์จะแทรก บางคนถึงขนาดเอาเศียรพระหัก ๆ แตก ๆ ไปได้ตามต้นโพธิ์ ตามวัด ความจริงเป็นยังไงครับหลวงพ่อ…?
    หลวงพ่อ : ถ้าจะให้แน่คุณก็ลองห้อยดูก่อน ใครได้พระสมเด็จแตก ๆ มาให้ฉันทีเหอะ ฉันเอาหมด…
    ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก มันจะด่ากันเองน่ะ เลยไปโทษพระใช่ไหม…
    แต่ว่าที่เห็นเขาถือกันก็คือ พระพุทธรูปถ้าชำรุดเขาไม่บูชาไว้ที่บ้าน
    อันนี้ไม่มีตำรา อาจจะมีประสบการณ์ก็ได้นะ
    แต่พวกที่โบราณเขาเขียนบอกไว้ต้องระวังหน่อย บางทีมีประสบการณ์ แต่หาเหตุมาไม่ได้ก็ต้องเชื่อเหมือนกัน อย่างสมัยหลวงพ่อปาน ถ้าลูกศิษย์ท่านหันหน้าพระพุทธไปทางทิศตะวันตก หรือทิศใต้ อันนี้ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน แต่สตางค์ไม่เหลือใช้ ท่านบอกว่าควรหันไปทางทิศตะวันออก หรือทิศเหนือ ทีนี้หากเราเห็นว่าชำรุด เราตกแต่งให้ดี ก็คงจะดีมั้ง

    ผู้ถาม : หลวงพ่อขอรับ ได้ทราบข่าวว่าหลวงพ่อจะ สร้างแท่นพระสำหรับพระพุทธรูปข้างพระอุโบสถวัดท่าซุงนั้น อยากจะทราบว่าการสร้างแท่นพระมีอานิสงส์อย่างไรขอรับ..?
    หลวงพ่อ : สร้างแท่นก็เหมือนกับสร้างพระพุทธรูป คือแท่นพระพุทธรูปเขาบกพร่องอยู่ เราทำให้เต็มอย่างนางวิสาขา หรือพระสิวลี อานิสงส์ไม่ใช่เล็กน้อยนะ อานิสงส์ใหญ่มาก คนจะรวยแล้วนะ วาสนาบารมีจะสูง สร้างแท่นพระ หนุนพระให้สูงน่ะ แล้วพระพุทธเจ้าด้วยนะ เราฐานะก็จะดีขึ้น

    ผู้ถาม : ดิฉันและน้องๆ ได้สร้างพระพุทธรูปปิดทองฝังเพชร ขนาด 30 นิ้ว ถวายเป็นพุทธบูชา ไปไว้ที่วัดท่าซุง พอถวายแล้ว หลวงพ่อให้พรว่า "ขอให้รวยทุกคน รวยเท่าพระพุทธเจ้านะลูก" กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า รวยเท่าพระพุทธเจ้าเขารวยแบบไหนเจ้าคะ...?
    หลวงพ่อ : จะเอาแบบไหนล่ะ จะเอาแบบทรัพย์มาก หรือจะเอาแบบกิเลสหมด..?

    ผู้ถาม : ตอนนี้เอาทรัพย์ก่อนก็แล้วกันค่ะ เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี
    หลวงพ่อ : พระพุทธเจ้านี่รวยมาก เพราะกิเลสหมดนะ คือว่าพระพุทธเจ้าใครบอกไม่มีทรัพย์สินน่ะไม่ถูกหรอก ที่นั่งอยู่ที่นี่ ทรัพย์ที่นำมาให้เป็นของพระพุทธเจ้าทั้งหมดนะ ฉันไม่คิดว่าเป็นของฉัน พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่ไหนไม่เคยจน อย่างวิหารของนางวิสาขาเขาสร้างราคาเท่าไร ก็รวมความว่าพระพุทธเจ้ามีทรัพย์สินมาก ราคาเป็นล้าน ๆ โกฏิ เอารวยแบบนั้น ก็แล้วกันนะ

    หลวงพ่อฯ ท่านจะให้พรอย่างนี้เสมอว่า "รวย รวย รวย"

    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  3. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    เมื่อเห็นอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป ที่องค์หลวงพ่อฯ ท่านอธิบาย แล้ว....

    ก็มาดู....อานิสงส์ซ่อมพระพุทธรูป....กันบ้างที่....
    http://www.thaisquare.com/Dhamma/afterdeath/chapter117.htm


    ในชาติก่อนซ่อมพระพุทธรูปที่ปรักหักพัง ตายแล้วมาเกิดเป็นคน จะมีความสาวความสวยไม่เปลี่ยนแปลงจน อายุ ๑๒๐ ปี

    "....พูดถึงคนสวยชั้นยอด ว่ากันแค่ร่างกายภายนอก อย่ามองเข้าไปถึง กระเพาะ ตับ ไต ไส้ ปอด ภายในร่างกายเพราะมันเต็มไปด้วยความสกปรกน่าเกลียด ไม่มีความสวย ในที่นี้หมายถึงรูปร่างภายนอกไม่เปลี่ยนแปลง คลอดบุตรคนแรกสวยขนาดไหน ก็เป็นสาวขนาดนั้น จนกระทั่งถึงวันตาย"

    ตัวอย่างก็คือ พระนางวิสาขามหาอุบาสิกา ท่านสวยด้วยอำนาจเบญจกัลยาณี ตามที่ท่านเจ้าคุณราชเมธี วัดประยูรวงศาวาส ท่านแต่งเป็นคำกลอนไว้ว่า....

    งามผม สมพักตร์ ลักขณา
    งามโอษฐา จิ้มลิ้ม ดูพริ้มเพรา
    งามทนต์ ยลปลั่ง ดังสังข์ขัด
    ผิวทัด กณิการ์ งามราศี
    คลอดบุตร สักเท่าไร วัยยังดี
    หญิงเช่นนี้ ใครได้มา งามหน้าเอย

    คำว่า "งามผม สมพักตร์ ลักขณา" ก็เพราะว่าผมจะเรียบอยู่ตลอดเวลา ถ้าต้องการให้เป็นคลื่นก็จะเป็น และก็เรียบโดยไม่ต้องหวี ไม่ต้องแต่ง และก็จะยาวไม่มาก ถ้ายาวไปถึงเอวก็จะช้อนงอนขึ้นไม่ยาวลากดิน ผมก็ไม่เหม็นสาบเหม็นสาง ไม่ต้องสระไม่ต้องล้าง

    "โอษฐา จิ้มลิ้ม ดูพริ้มเพรา" ก็เพราะว่าริมฝีปากแดงระเรื่อ ไม่แดงมากนัก แล้วเรียบไม่มีริ้ว ไม่มีรอย ปากสวย

    "งามทนต์ ยลปลั่ง ดังสังข์ขัด" ฟันจะเรียบ แลดูเป็นเงาเหมือนมุก น่าชม ไม่ต้องใช้แปรงสีฟัน ไม่ต้องขัด ไม่ต้องแต่ง

    "ผิวทัด กณิการ์ งามราศี" ขึ้นชื่อว่าผิวไม่มีไฝไม่มีฝ้า ถ้าขาวก็ขาวเนื้อละเอียดดี ถ้าดำก็ดำนวลๆ เรียกว่าพอสวยสำหรับในสมัยที่เขาต้องการ

    "คลอดบุตร สักเท่าไร วัยยังดี" หมายความว่าเวลาที่คลอดบุตรคนแรกอายุเท่าไร ท่านคลอดบุตรคนแรกอายุ ๑๖ ปี แล้วก็เลยเป็นสาวแค่ ๑๖ อยู่แบบนั้น ร่างกายไม่เปลี่ยนแปลงอีกต่อไปจนกระทั่งอายุ ๑๒๐ ปี พระนางวิสาขามีบุตรหญิง ๒๐ คน แล้วบุตรหญิงของท่านคลอดบุตรมาอีกคนละ ๒๐ คน ระหว่างที่บรรดาหลานๆ เป็นสาวคราว ๑๕-๑๖ ปี ท่านวิสาขานั่งอยู่ท่ามกลางหลาน ท่านชีวกโกมารภัจนำพระเจ้าปเสนทิโกศลไปดู อยากจะทราบว่าพระนางวิสาขาคนไหน ก็ดูไม่ออกเพราะสาวเท่ากัน เรียกว่าท่านสาวเท่าอายุ ๑๖ ตลอดกาล

    อานิสงส์ ที่พระนางวิสาขามหาอุบาสิกามีความสาวความสวยไม่เปลี่ยนแปลง ก็เพราะว่าในชาติก่อนท่านซ่อมพระพุทธรูปที่ปรักหักพัง ทรุดโทรม คือมีผิวแตกทองลอกไปเสียแล้ว ท่านซ่อมพระพุทธรูปด้วยกุศลเจตนาจริงๆ

    เกิดมาชาตินี้จึงกลายเป็นคนสวย....

    และการที่ท่านมีเครื่องประดับประกอบไปด้วยแก้วเพชรนิลจินดา และทองคำ เสื้อคลุมตั้งแต่ศีรษะถึงเท้า มีนกยูงรำแพน มีแก้วมณีตั้ง ๒๐ ทะนาน และมีแก้วประพาฬ แก้วอินทนิล อะไรต่ออะไรอีก เสื้อตัวนั้นไม่มีด้ายเลย ที่ทำเป็นด้ายก็ทำด้วยเงิน หรือเป็นทองคำ ก็เพราะอาศัยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนาในอดีตชาติ...."

    <!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  4. นิรมิต

    นิรมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +171
    http://84000.org/anisong/index.shtml
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="92%" border=0><TBODY><TR><TD width="48%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="4%"> </TD><TD vAlign=top width="48%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>
    สารบัญ 21-40
    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR><TR><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...