เรื่องเด่น อาหารและการสร้างสง่าราศีแก่ตน จากคำสอน หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เพชรฉลูกัน, 18 พฤษภาคม 2017.

  1. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    ลป.เดินหน.กลาง.JPG

    อาหารและการสร้างสง่าราศีแก่ตน
    จากคำสอน หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร
    เนื่องจากเห็นภาพแบบนี้ในเน็ต เห็นแล้วก็เกิดอาการคัน อยากสอดอยากยุ่งกับชาวบ้านสักนิด เรื่องการนำเอาเครื่องมือมาเป็นภาชนะใส่อาหารแบบนี้ เมืองนอกเขาว่า “ฮิปสเตอร์” อะไรนั่น มันเท่ห์ดูแปลกตาน่าสนใจ หากถามผมกินไหมใส่มาเท่ห์แบบนี้ บอกเลยผมไม่แด๊กครับ ผมถือของผม ใครไม่ถือก็แด๊กได้ครับตามสบาย เรื่องการนำเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำงาน มาใส่อาหารหรือใช้ตักอาหารกินเช่นนี้ ตามศาสตร์โบราณถือว่าเป็นเสนียดจัญไร หรือเข้าตำราที่เรียกว่าเป็น **ธรณีสาร** ไม่เป็นมงคลกันผู้กิน อีกอย่างสมัยนี้เห็นนำเอาครกมาเป็นภาชนะใส่ส้มตำ นำเสริฟในร้านอาหารต่าง ๆ แบบนี้เป็นธรณีสารเช่นกัน

    เมื่อเวลาผมไปร้านอาหารหากเห็นร้านไหนนำเอาครกใส่ส้มตำมาเสริฟ ผมจะบอกให้เขาไปเปลี่ยนใส่จานมา เพราะผมไม่กินใส่ในครกเด็ดขาด เหตุผลก็มีอยู่แต่หากมาอธิบายเกรงจะยาวเกิน ซึ่งเรื่องเหล่านี้หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร บรมครูท่านเคยสอนเอาไว้ ท่านว่าการสร้างมงคลทั้งหลาย เราจำต้องสร้างด้วยตนเองก่อน ต้องเรียน ต้องรู้ ใช่จะไปรอขอให้ใครมาเสกให้ตัวเราดีเราขลัง เพราะความดี และมงคล ตลอดจนความเข้มขลัง เราต่างหากต้องสร้างสะสมให้ตนเองก่อนเป็นปฐมบท

    อีกเรื่องหากผมไปร้านอาหารบ้าน ๆ ตามต่างจังหวัด หากเห็นร้านไหนนำเอาสุ่มใส่ไก่หรือสุ่มจับปลา นำมาทำเป็นโคมไฟหรือมาแขวนตกแต่งในร้าน โดยที่เราต้องเดินรอดสิ่งเหล่านั้น ผมจะไม่เข้าเลยเพราะไม่มีทางเข้าอื่นผมจะหาร้านใหม่ ด้วยสุ่มใส่ไก่หรือสุ่มจับปลาเป็นของอาถรรพ์ ท่านห้ามไว้ว่าอย่าเอามาครอบหัวครอบตัว หรือเดินรอดผ่านไปก็จะเสื่อมสง่าราศี อีกอย่าง คือ ฝาชีปิดกับข้าว อันนี้ก็เช่นกัน หากมีลูกมีหลานอย่าให้นำเอามาครอบเล่นหัวกัน เพราะจะเสื่อมปัญญา เสื่อมสง่าราศี เป็นเสนียดแก่ตนเองโดยไม่รู้ตัว หากเชื่อถือก็นำไปใช้ที่บอกให้ไม่ได้คิดเงินไม่มีอะไรต้องเสีย มีแต่ผมที่มานั่งเขียนให้เมื่อยมือเล่นไปวัน ๆ ลองไปพิจารณากันดู เพราะนับวันเรื่องเหล่านี้หาผู้จะมาบอกต่อกันแทบไม่มี

    หากใครจะว่าผมเพ้อเจ้อบ้ามาถือมากความก็ตามแต่ เรื่องพวกนี้เป็นศาสตร์โบราณยังมีมาก ฅนโบราณเขาเชื่อถือปฏิบัติมาจนเป็นเจ้าฅนนายฅน สร้างสง่าราศีเจริญในชีวิตกันมามากมาย ผมเองเจอกับตัวและถือปฏิบัติมาตลอด ผ่านเรื่องร้ายมรสุมชีวิตต่าง ๆ ผ่านมาได้จนวันนี้ เชื่อว่าหลักใหญ่ คือ ความพยายาม และเชื่อว่าอีกส่วนหนึ่งมาจากสิ่งที่มองไม่เห็นเหล่านี้แน่นอน ใครจะว่าไงช่างพูดกันไปว่ากันไปตามสบาย ซึ่งศาสตร์เหล่านี้หลวงปู่เดินหนสอนไว้นักหนา เคี่ยวเข็ญให้จดจำเอาไว้สั่งให้ปฏิบัติมาก็เห็นผลดีมาตลอดจริง ท่านว่าการสร้างมงคลหรือราศีให้ตนเองนี้สำคัญ หากสงสัยว่าราศีมีแล้วดียังไง ? ตัวอย่าง ฅนบางฅนพูดอะไรคุยกับใคร ชนทั้งหลายสนใจนิยมอยากเข้าหาพูดคุย รู้สึกน่าสนใจเชื่อถืออยากสนทนา แต่ผิดกับบางฅน เมื่อไปคุยกับใครพูดแทบตายเขาหันไปทางอื่น ไม่มีใครสนใจหรืออยากจะคุยด้วยนัก แบบนี้เรียกไม่มีสง่าราศีไม่มีมงคลในตัว
    หลวงปู่สอนเสมอว่า

    **ฅนเราหากอยากจะเหนือฅน ต้องถือต้องทำต้องจริงจัง ต้องเดินล้ำไปเหนือกว่าเขา ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไม่ใช่จะได้มาโดยง่าย ต้องสั่งสมต้องทำสม่ำเสมอในการสร้างราศีแก่ตน**
    เพราะสง่าราศีนี้เมื่อถือปฏิบัติสร้างสมไว้ดีแล้ว เมื่อมีในบุคคลใดดีแล้วคำว่า
    **ตกต่ำทรุดหนักไร้ผู้เหลียวแล จะไม่มีแก่บุคคลนั้นเลย**

    อย่างน้อยต้องมีทางออก มีผู้มาช่วย หรือเทวดาดลให้พบทางออก เรียกว่าหากมีราศีดี ใช่ว่าจะเป็นที่นิยมแก่มนุษย์ แม้นเทพเทวดาก็ยังเมตตาอดไม่ได้ต้องช่วยเหลือ

    การสร้างราศีมีหลายอย่าง เช่น รู้จักยัดมั่นรักษาให้มีศีลในตน เรียกว่าอย่างเลวที่สุดต้องมี ๒ ข้อ จะข้อไหนก็ได้แต่ต้องมี อย่างน้อย ๒ ข้อ ก็เพื่อรักษาตนให้เป็นผู้ที่ยังมีศีล **เป็นมนุษย์ คือ ผู้ประเสริฐ** ยังตนให้ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน อีกประการก็ คือ การสวดมนต์ไหว้พระ อันนี้ก็เสริมสง่าราศีและมงคลแก่ตนเอง หลวงปู่สอนเสมอว่าการสวด **บทชินบัญชร** ทุกเช้า-ค่ำ เป็นการเชิญบารมีพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์แผ่มาประสิทธิ์แก่ผู้สวด สิ่งอันเป็นมงคลจะมาสถิตคุ้มกายตั้งแต่ กระหม่อมจอมขวัญจนถึงปลายเท้า จะกินข้าวกินน้ำ เสกน้ำล้างหน้า ใช้คาถานี้บทเดียวครอบคลุมได้หมด
    การสร้างราศีและมงคลจริง ๆ ยังมีอีกมาก ค่อย ๆ เขียนค่อยบอกกันไปเพราะยังมีอีกมากมาย หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ท่านมักสอนให้ศิษย์รู้จักพึ่งตนเอง ใช่แต่คอยไปหาหมอผีหมอดู หมอทำเสน่ห์เล่ห์กล ท่านว่าพุทธศาสตร์ อำนาจแห่งพระรัตนะตรัย สูงที่สุดแล้ว พึ่งได้จริงอย่าโลเลสงสัย ครูบาอาจารย์เมื่อล่วงลับแล้วท่านก็ยังรับรู้ เราจะพึ่งพาท่าน เราต้องทำจิตให้ถึงท่านได้ก่อน อย่างน้อยให้จิตสงบพอรับกระแสธรรมจากท่านก็ยังดี บทสวดมนต์ทั้งหลายดีทั้งสิ้น หากแต่รู้จักนำมาใช้ในชีวิตให้ได้ จะเกิดผลจริงไม่ต้องไปพึ่งพาหมอดูหมอเดาอะไรที่ไหน ….


    ที่มา:

    ฅนขลัง คลังวิชา
     
  2. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,180
    วิธีการบูชาหลวงปู่อิเกสาโรอย่างถูกต้องที่สุดดังนี้

    การบูชาหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ที่ถูกต้องมี

    • ธูปที่ใช้บูชาหากจะให้ดีใช้ ธูปแขกหอม หรือธูปเมี๊ยะ (ธูปจีนสีดำก้านแดง) หากไม่มีธูปอะไรก็ได้ จุด ๕ ดอกเพื่อบูชา

    • ดอกไม้ท่านโปรดดอกมะลิ ดอกจำปี จำปา ดอกไม้ขาว

    • ของถวายท่านหากมีเนื้อวัว เนื้อควาย ห้ามเด็ดขาด

    • ท่านโปรดตะโก้, น้ำแข็ง , ขนมดอกสะโหน, บวชขนุน, บวชเผือก

    • หลวงปู่ไม่ฉันหมากพลู บุหรี่ สายูบ ทุกชนิดภายหลังท่านไม่รับแล้ว

    • อาหารเผ็ดร้อนท่านไม่โปรดท่านฉันไม่ค่อยเผ็ด


    คาถาบูชาหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร (บทแท้)

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ ).

    นะโมโพธิสัตโต หลวงปู่อิเกสาโร นามะ

    สุขะ พละ สุขะ บารมีโย สุขะ นิพพานัง

    สุขัง อะโหสิ พินธุโกโห ตัง ตะวัง โหตุ สัพพะทา ฯ.

    (สวด ๙ จบ)

    คาถานี้ท่านมอบให้ศิษย์ไว้ในยุคปลายก่อนการจากลา เป็นบทสวดบูชาท่านโดยตรง คาถาบูชานี้ท่านประกาศิตและประสิทธิ์ให้ข้าพเจ้าไว้สมบูรณ์ ไม่ใช่ได้มาแบบครูพักลักจำ มอบประสิทธิ์ต่อให้ทุกท่านทที่เคารพในองค์หลวงปู่ทุกท่านนำไปสวดบูชา เพื่อเกิด สิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ตลอดจนเคหะสถานบ้านเรือนที่พัก ก่อนสวดจุดธูป ๕ ดอก บอกกล่าวหลวงปู่ในวันพฤหัสฯ ข้างขึ้นก่อนจึงจะดี
     
  3. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    อนุโมทนา สาธุ ขอรับ
     
  4. ครูเรือง

    ครูเรือง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2010
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +686
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
    ไม่อ่านก็ไม่รู้นะ (ประโยชน์ของการอ่าน)
     

แชร์หน้านี้

Loading...