เอาชนะมะเร็งเต้านม

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย MBNY, 19 เมษายน 2005.

  1. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,511
    เอาชนะมะเร็งเต้านม

    Beating Breast Cancer



    [​IMG]






    ถ้าไม่ใช่กรรมพันธุ์ งั้นอะไรล่ะ ลองมาดูอาหาร และโภชนาการดีๆ
    ที่ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม ได้กันเถอะ


    เหมือนกับกรณีของ Alvis Wrentmore นักแสดงสาว และนางแบบที่อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส ในระหว่าง การตรวจสอบเต้านมเมื่อเดือนมิถุนายน 2541 เธอมีอายุ 36 ปี และตรวจพบก้อนเนื้อผิดปกติน่าสงสัย หลังจากที่ ไปพบแพทย์ ก็ได้รับการยืนยันว่ามันเป็นเนื้อร้ายของมะเร็ง นั่นเอง ตอนนั้นฉันกลัวมากเหลือเกิน เพราะเธอไม่แน่ใจ ว่ามะเร็งนี้ จะมีผลต่อชีวิต ความสัมพันธ์ของเธอและคนอื่นๆ หรืออาชีพของเธอยังไงบ้าง

    มาวันนี้ 1 ปีให้หลัง Wrentmore อยู่อย่างสุขภาพดี โดยปราศจากมะเร็งและเธอก็ไม่ต้องเลิกอาชีพนางแบบของ เธอด้วย แม้ว่าการรักษาทั้งหมดจะใช้วิธีเคมีบำบัดและการฉายแสง เธอก็ยังถือว่าการที่เธอมีโภชนาการที่ดีและเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตทำให้เธอพิชิตมะเร็งได้ ฉันเลิกทานอาหารพวกเนื้อแดง เนื้อไก่ นมเนย แป้งและข้าวที่ ขัดสีจนขาว อาหารที่ผ่านการสังเคราะห์และกรรมวิธีต่างๆน้ำตาลและแอลกอฮอล์ หลังจากที่ได้รับความรู้เกี่ยวกับ

    อาหารและโภชนาการแล้ว เธอจึงเริ่มมีกฎเกณฑ์ และระเบียบในการรับประทาน การควบคุมอาหาร มากขึ้นจนถึงทุกวันนี้ เธอเน้นพวกปลา ผักผลไม้ และน้ำผลไม้สด ที่มีวิตามิน C, E, Co-Q10, Omega 3S, Selenium, Flaxseed oil (น้ำมันเมล็ดฝ้าย) Decaffeinated green tea (ชาเขียว ที่ปราศจากคาเฟอีน) และ Alpha lipoic acid (กรดไขมัน alpha lipoic)

    นอกจากนี้ เธอยังปลอบใจตัวเอง และลดความเครียดด้วยการฝึกโยคะ ฝึกการกำหนดลม หายใจ นั่งสมาธิสร้างภาพและทัศนคติที่ดีในแง่บวก

    Wrentmore ตอนนี้อายุได้ 37 ปี ถือว่าตัวเองเป็นคนหนึ่งที่รอดชีวิตมาได้ จากโรคร้ายที่ผู้หญิงส่วนมากจะกลัวกัน ในปีนี้มีผู้หญิงอเมริกันประมาณ 184,000 คน ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม และเกือบทุกคนต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด การฉายแสง และเคมีบำบัด ผู้หญิงมากกว่า 44,000 คน จบชีวิตลงด้วยโรคนี้

    การรักษาโดยใช้ยาแบบดั้งเดิมที่เคยทำกันมานั้น ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้เพียงเล็กน้อย ในปี พ.ศ. 2537 และ 2538 นักค้นคว้าวิจัยระบุว่ามียีนส์ ของมะเร็งเต้านม 2 ตัว ที่ทำให้ง่ายต่อการเป็นโรคนี้ แต่การค้นพบสาเหตุของมะเร็งเต้านมในสมัยก่อน รวมทั้งการรักษาก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะจากวารสารรายงานการวิจัยจากสถาบัน วิจัยมะเร็งแห่งชาติเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า ยีนส์ที่ทำให้เกิดมะเร็งนี้ พบในคนไข้ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมแค่เพียง 4-6% เท่านั้น

    ถ้ายังงั้นอะไรล่ะ ที่เป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม โดยทั่วไปก็เป็นสาเหตุเดียวกับที่ทำ ให้เกิดมะเร็งชนิดอื่นๆ ก็คือ การเปลี่ยนแปลงลักษณะของ DNA ตัวควบคุมโครงสร้างการทำงานและการเจริญเติบโตของเซลล์ ทางชีววิทยาเมื่อระบบเหล่านี้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ก็จะมีการแบ่งตัวของเซลล์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ลักษณะผิดปกติเช่นนี้จะก่อให้เกิดมะเร็งขึ้น นักวิจัยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มาจากอนุมูลอิสระ โมเลกุลที่เสี่ยงและอันตรายถูก สร้างขึ้นในร่างกาย และพบในมลภาวะเป็นพิษ หลายปีผ่านไปเซลล์จะสะสมความผิดปกติ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น

    Francis L. Martin นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันวิจัยมะเร็งจากห้องแล็ป Haddow ณ Sutton ประเทศอังกฤษ พบว่าเซลล์หน้าอกอาจจะไวเป็นพิเศษ จึงทำให้เป็นปัญหาเพราะว่าประกอบไปด้วยไขมัน 70-90 % ซึ่งง่ายต่อการถูกทำลายโดยเฉพาะ

    ปัจจัยต่อความเสี่ยง

    ถ้าพันธุกรรมไม่ค่อยมีผลมากเท่าไหร่ที่ก่อให้เกิดมะ-เร็งเต้านม งั้นอะไรล่ะ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงเหล่านี้ มีหลายอย่างด้วยกัน บางอย่างอาจแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนแปลงและควบคุมเรื่องอาหารการกิน รวมทั้งวิธีการดำเนิน ชีวิต ปัจจัยความเสี่ยงเหล่านี้ได้แก่ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ปริมาณแอลกอฮอล์ น้ำหนัก การสูบบุหรี่ และความเครียด


    <TABLE borderColor=#ff6699 cellSpacing=0 cellPadding=12 width="80%" border=1><TBODY><TR><TD>ฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนนี้จำเป็นต่อสุขภาพและการสืบพันธุ์ แต่ก็ทำให้มะเร็งเต้านมเจริญเติบโตได้เช่นกัน จากการศึกษาในวารสารของสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติพบว่า ผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงจะมีโอกาสเป็น มะเร็งเต้านมได้มากกว่าผู้หญิงทั่วไปที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำกว่าถึง 4 เท่า การรับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น จึงเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านม นอกจากนี้ ในยาฆ่าสัตว์ต่างๆ และพลาสติกอย่างอ่อนที่มีเอสโตรเจนเป็นสารประกอบ ก็มีส่วนทำให้ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมนั้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน


    แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนขึ้นตามลำดับ นักวิจัยได้รายงานผลการศึกษาในวารสาร ของสมาคมอายุรศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งพบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเลือดเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า

    น้ำหนักเพิ่ม ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นภายหลังอายุ 18 ปี มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเป็นมะเร็งเต้านม จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักเพิ่ม 45 ปอนด์ หรือมากกว่านั้น มีโอกาสที่จะเป็น มะเร็งมากกว่าผู้หญิงที่น้ำหนักเพิ่มไม่เกิน 5 ปอนด์ ถึง 2 เท่าทีเดียว

    บุหรี่ ไม่ใช่แค่มะเร็งปอดเท่านั้น ผู้หญิงที่สูบบุหรี่วันละ 2 ซองขึ้นไป มีแนวโน้มว่าจะตายด้วยโรคมะเร็งเต้านมถึง 75% ซึ่งเป็นผลการค้นคว้าวิจัยของ Eugenia E. Calle จากสมาคมวิจัยโรคมะเร็งในแอตแลนตา

    ความเครียด จากการศึกษาค้นคว้า ในวารสารแพทย์ อังกฤษพบว่า ความเครียดทางจิตใจอย่างรุนแรง ก่อให้เกิด ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมถึง 5% ความเครียดทำให้การผลิตฮอร์โมนเปลี่ยนไป และอาจนำไปสู่การก่อให้เกิด เซลล์มะเร็งขึ้น โดยสรุปแล้ว ทุกคนสามารถลดปัจจัยเสี่ยงได้ โดยการควบคุมและดูแลการรับประทานอาหารที่ช่วย ป้องกัน ซึ่งจะทำให้อัตราของเซลล์ที่จะถูกทำลายลดน้อยลง และช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาวของมะเร็งเต้านมได้ด้วย




    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สารอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงของ มะเร็งเต้านม



    [​IMG]


    นักค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ได้แนะนำว่ามีความเป็นไปได้ที่จะลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมได้โดย เน้นไปทางอาหาร และหลักเกณฑ์อาหารที่กำหนดเพิ่มเติม ซึ่งประกอบไปด้วยสารที่ช่วยป้องกันมะเร็ง และช่วย สกัดกั้นปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจน ลองมาดูซิว่ามีอาหารและสารอะไรบ้างที่ช่วยได้


    <TABLE borderColor=#ff99ff cellSpacing=0 cellPadding=4 width="80%" border=1><TBODY><TR vAlign=top><TD width=100>ผักและผลไม้ </TD><TD>ผักและผลไม้อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง จากการศึกษาวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ นายแพทย์ Shumin Zhang, M.D., SC.D ทางด้านสาธารณสุขของ Harvard พบว่าผู้หญิง ที่รับประทานผักและผลไม้มากกว่า 5 ครั้ง ในแต่ละวันจะช่วยลดความเสี่ยงในการเจริญของ มะเร็งเต้านม ก่อนเวลามีประจำเดือนได้ถึง 23% ในขณะที่การศึกษาครั้งก่อน โดย Jo L. Freu- denheim, Ph.D. จาก State University of New York ที่ Buffalo พบว่าการจำกัดอาหารโดย รับประทานผักมากๆ ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้ 56%


    ข้อแนะนำ ทานผักและผลไม้ให้ได้อย่างน้อย 5 ครั้งในแต่ละวัน




    </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=100>วิตามิน E





    </TD><TD>จากหลักที่ว่าสารต่อต้านมะเร็งละลายได้ในไขมัน วิตามิน E สามารถช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระที่จะไปทำลายไขมันในเซลล์ทรวงอกลงได้ จากการวิจัยของชาวญี่ปุ่น พบว่าถ้าขาดตัวทำละลาย หรือ เอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อป้องกันโรคมะเร็งแล้ว ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมก็จะเพิ่ม สูงขึ้น จากการวิจัยในสัตว์ นายแพทย์ Kunihiko Ishii, M.D. พบว่าถ้าให้วิตามิน E เสริม สามารถชดเชยการขาดตัวทำละลาย และช่วยลดความเป็นไปได้ในการเกิดมะเร็งเต้านม วิตามิน E ช่วยให้มีความสามารถในการดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น จนอาจจะยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งได้


    ข้อแนะนำ ควรได้รับวิตามิน E จากธรรมชาติ 400 IU ต่อวัน




    </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=100>แคโรทีน </TD><TD>Aisha O. Jumaan, Ph. D ได้แสดงผลรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การรับประทานอาหารที่อุดม ไปด้วยเบต้าแคโรทีนในระยะยาวเป็นประจำสม่ำเสมอ ซึ่งพบในแครอทและผักโดยทั่วไป จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมหลังมีประจำเดือนได้ จากผลการศึกษาและทดลองในสัตว์ Boon P. Chew, Ph.D. แห่งมหาวิทยาลัยของรัฐวอชิงตัน ณ Pullman พบว่าถ้ามีการเสริม Lutein ซึ่งพบมากในผักจำพวกบร็อคโคลี่และกะหล่ำปลี สามารถช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมในหนูได้ ซึ่งสรุป ผลได้จากมีเนื้องอกในหนูที่ให้สารนี้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับตัวที่ไม่ได้ให้ ส่วนจากการศึกษาจากสัตว์อีกประเภท โดยให้ lycopene ซึ่งพบในมะเขือเทศนั้น ก็ช่วยระงับการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน


    ข้อแนะนำ ควรรับประทานเบต้าแคโรทีน 8 mg., Lutein 6 mg., Lycopene 4 mg. เสริมเป็นประจำทุกวัน




    </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=100>ไขมันชนิดดี </TD><TD>บางรายงานการศึกษาแสดงให้เห็นว่าอาหารที่มีไขมันสูงจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม แต่การค้นคว้าอื่นๆ อีกหลายๆ กรณีพบว่าไม่เป็นเช่นนั้น นั่นก็ขึ้นอยู่กับประเภทของไขมันที่ได้รับ จาก การวิจัยหลายต่อหลายครั้งพบว่ากรดไขมัน Omega-6 ในข้าวโพด Safflower oils และน้ำมัน ถั่วเหลือง อาจก่อให้เกิดการเจริญของมะเร็งเต้านม ในทางกลับกันกรดไขมัน Omega-3 ที่พบ ในปลาและเมล็ดฝ้ายนั้นจะช่วยป้องกัน ส่วนน้ำมันมะกอกซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega-9 นั้น ปรากฏว่าช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งได้


    ข้อแนะนำ : รับประทานปลา (ที่ไม่ผ่านกรรมวิธีการทอด) อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์และใช้น้ำมันมะกอกเป็น หลักในการปรุงอาหาร สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แนะนำให้ทานน้ำมันตับปลาในรูปแคปซูล 1-3 กรัม ต่อวัน ส่วนผู้ที่ทานมังสวิรัติอาจเสริม ด้วยการบริโภคน้ำมันเมล็ดฝ้ายและน้ำมันมะกอก




    </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=100>อาหารที่มีกากและเส้นใย </TD><TD>ผักและผลไม้ที่มีกากและเส้นใยอาหารมากมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้ เส้นใยอาจช่วยลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลง ซึ่งเป็นผลมาจากการวิจัยมะเร็งของ Basil A. Stoll, Ph.D, จากโรงพยาบาล St.Thomas กรุงลอนดอนในระหว่างนั้น และกลุ่มของสาร ประกอบที่เรียกว่า Indoles ที่พบในบร็อคโคลี่และดอกกะหล่ำจะช่วยในการแตกตัวของฮอร์โมน เอสโตรเจนให้อยู่ในรูปของฮอร์โมนที่ไม่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง


    ข้อแนะนำ ผักผลไม้ก็ยังสำคัญและเป็นประโยชน์ พืชผักที่เป็นแหล่งของอาหารจำพวกกากใยได้แก่ มะเขือเทศ ผักใบเขียว และอาหารพวกธัญญาหาร ถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ




    </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=100>ถั่วต่างๆ และนมถั่วเหลือง </TD><TD>ผู้หญิงเอเชียมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่าผู้หญิงอเมริกัน เนื่องจาก บริโภคอาหารประเภทนมถั่วเหลืองมากกว่า นักค้นคว้าวิจัยพบว่าในนั้นมีสารป้องกันมะเร็ง 2 ตัว คือ Genistien และ Daidzein นักวิจัยระบุเหตุผลว่า Isoflavones คือ เอสโตรเจนอย่างอ่อน ที่ติดกับเซลล์ และคอยยับยั้งผลกระทบจากการงอกขยาย ไม่ให้มากจนเกินไป จากการทดลอง ในสัตว์โดย Coral A. Lamartiniere, Ph.D. แห่งมหาวิทยาลัย Alabama พบว่าถ้าได้รับ Genistein ในช่วงตอนต้นของชีวิตอาจ ช่วยลดโอกาสของการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านมในระยะยาวได้


    ข้อแนะนำ บริโภค 40 mg. ต่อวันหลังอาหาร ที่สำคัญคือ เต้าหู้ ซุปเต้าหู้ Tempeh นมถั่วเหลือง ถั่วเหลืองสด




    </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=100>Co-Q10 </TD><TD>มีหลักฐานยืนยันเป็นที่แน่ชัดว่า Co-Q10 สามารถช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันการเกิดขึ้นใหม่ของมะเร็งเต้านมได้ เมื่อเร็วๆ นี้ นักค้นคว้าวิจัยชาวฝรั่งเศสได้รายงานว่า ผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคนี้มี ระดับ Co-Q10 ในเลือดต่ำกว่าผู้หญิงที่มีสุขภาพดี Knud Lockwood.M.D. หมอรักษามะเร็งเต้านม ณ Copenhaken ประเทศเดนมาร์กกล่าวว่า Co-Q10 ในปริมาณที่สูง (390 mg. ต่อวัน) ป้องกันการเป็นซ้ำของโรคนี้ได้ </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=100>Silymarin </TD><TD>Rejesh Agarwal, Ph.D. แห่ง AMC ศูนย์ค้นคว้าวิจัย มะเร็งที่ Denver ได้แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แต่ความเชื่อ เท่านั้นที่สนับสนุนประโยชน์ของ Silymarin สารต่อสู้กับมะเร็ง ซึ่งสกัดจากสมุนไพร (herb milk thistle) Aasrwell และเพื่อน ร่วมงานของ Rejesh ได้อธิบายในวารสารการวิจัยมะเร็ง ไว้ว่า Silymarin ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ โดยการสกัดกั้นการสังเคราะห์ DNA </TD></TR><TR vAlign=top><TD width=100>การวิจัยใหม่ๆ </TD><TD>ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม เมื่อเร็วๆ นี้ ในวารสารชีววิทย รายงานว่าสารสกัดจาก เมล็ดองุ่น ที่เรียกว่า Activin อาจช่วยยับยั้ง หรือทำลายเซลล์มะเร็งเต้านมได้ ในขณะที่ ช่วยเพิ่มการเจริญของเซลล์ปกติทั่วไป แต่ก็ยังต้องมีการค้นคว้าที่ มหาวิทยาลัย Nebraska ใน Omaha ต่อไป เพราะการศึกษาในหลอดทดลอง แทนที่จะ ทดลองกับคนไข้จริงนั้นมีค่า แต่ผลที่ได้จาก การทดลองไม่ได้แปลว่าจะได้ผลจริงกับสิ่ง มีชีวิต เช่น มนุษย์ </TD></TR></TBODY></TABLE>




    </B>




    ที่มา : http://www.livewellguide.com
     
  2. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    เป็นผู้หญิงก็ลำบากค่ะ พี่แม่บ้านเป็นโน่นเป็นนี่ต้องระวังไปหมด กลุ้มจริง ๆๆ
     
  3. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    ชนะได้ง่ายมากต้องชนะกรรม .....ครับผม ร่วมใจไปนิพพานกันเถอะครับ
     
  4. บัวบูชา

    บัวบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2005
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +314
    ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้ ขออานิสงส์แห่งธรรมทานดลบันดาลให้คุณและครอบครัวพบแต่สิ่งที่ดีๆในชีวิตด้วยเทอญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...