ในหลวงทรงพระกรรแสง

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย porapatr, 6 กันยายน 2008.

  1. porapatr

    porapatr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,282
    เปนเรื่องที่เราอ่านเจอเลยอยากมาแบ่งให้ทุกคนอ่านกันอ่านเถอะนะ
    ค่อยๆอ่าน อ่านให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างคุณฟัง
    อ่านเสียงดังๆไม่มีใครว่า
    ในหลวงทรงร้องไห้
    > > เมื่อวันที่ 8 มีนา
    > > ที่ผ่านมาผมได้ไปงานที่โรงเรียน
    > > เหมือนเช่นทุกปี
    > > ตอนกลับเดินมาตามตึกยาวเพื่อจะกลับมาทางประตูด้านเพาะช่าง
    > > ยังไม่ถึงบริเวณเศาลหลวงพ่อปู่
    > > พบอาจารย์ท่านหนึ่งนั่งอยู่
    > > จำได้ว่าเป็นอาจารย์สุธี
    > > ท่านเกษียณไปแล้ว
    > > ไม่รู้คุณรู้จักรึเปล่า
    > > กราบอาจารย์ท่านแล้ว
    > > สังเกตเห็นว่าอาจารย์ร้องไห้อยู่
    > > ท่านบอก
    > > เพิ่งได้พบกับรุ่นพี่ที่มาในงาน
    > > รุ่นที่เท่าไหรก้อไม่ได้ถาม
    > > เป็นนายทหารราชองครักษ์ชั้นผู้ใหญ่
    > > เค้าเล่าให้อาจารย์ฟังว่า
    > > ****
    > > ในหลวงทรงร้องให้เห็นบ่อย
    > > ทรงเสียใจที่เมืองไทยจะสิ้นในรัชกาลของท่าน
    > > แล้วกระนั้นหรือ'
    > > ผมอยากจะตอบอาจารย์ไปว่าคงไม่หรอก
    > > ถ้าคนไทย รู้จำคำว่าว่า'หน้าที่'มากกว่า'สิทธิ'
    > > เราเคยชินกับการเป็น..ผู้รับ...จากคนคนหนึ่งที่เกิดมาเป็น..ผู้ให้...ให้มาตลอด
    > > เคยชินจนลืมไปว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วรึยังที่เราควรจะผู้ให้แก่พระองค์ท่านบ้าง
    > > ...
    > > ผมลาอาจารย์เรียบร้อยร้อย
    > > กลับไปตามตึกยาว
    > > ไปไหว้พระผู้ให้กำเนิดโรงเรียน
    > > อธิษฐานขอให้พระองค์ท่านช่วยคุ้มครองให้ในหลวงท่านทรงมีแต่ความสุข
    > > ..ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง
    > > เพียงแค่ไม่อยากได้ยินว่า..ในหลวงทรงร้องไห้
    > > ความสุขของพระมหากษัตริย์หนึ่งปีที่ผ่านมา
    > > เราใส่เสื้อเหลืองเราใส่สายรัดข้อมือสี เหลือง
    > > คนนับแสนไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ
    > > หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม
    > > เพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่นาทีวันนั้น
    > > ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเสื่อมศรัทธาในระบบการปกครอง
    > > ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
    > > เราได้แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ
    > > ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี
    > > และ
    > > พระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทย
    > > .....สิบสองปีที่ผ่านมา
    > > พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจ
    > > เพราะทรงงานหนักเกินไป
    > > ในขณะเดียวกันสมเด็จพระราชชนนี
    > > ก็ทรงพระประชวรหนักอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่นกัน
    > > เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน
    > > ไปทรงเยี่ยมพระราชชนนีไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวาย
    > > พระหัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระอุระ
    > > และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือ
    > > ม้วนแผนที่ กรุงเทพฯ เพราะน้ำกำลังท่วมกรุงอยู่
    > > ยังจำกันได้ไหม? ..... 34 ปีที่ผ่านมา
    > > วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516
    > > เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิดวิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด
    > > วันนั้น นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวนประท้วงรัฐบาล
    > > เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้นตำรวจทหารยิงประชาชน
    > > ในขณะที่นิสิตนักศึกษาก็เผาสถานที่ราชการ
    > > เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า
    > > คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง คืนนั้น
    > > สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวนจิตรลดา
    > > พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคนว่า
    > > 'คนไทยจะฆ่าคน! ไทยด้วยกันไม่ได้
    > > ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน'
    > > และทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน
    > > หลังจากนั้นไม่นาน มีฝรั่งคนหนึ่งมาถามผมว่า
    > > 'เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้งประเทศได้อย่างนั้น?'
    > > ผมไม่ได้ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยคที่
    > > มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ
    > > ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น
    > > 'SOUL OF THE NATION'
    > > หรือ'จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ' ยังจำกันได้ไหม?
    > > แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่
    > > เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุด
    > > เราโกงทุกครั้งที่มีโอกาส
    > > เราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่
    > > 'สิทธิ' แต่ลืมคำว่า 'หน้าที่'
    > > เรากำลังฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้
    > > เราสร้าง 'กฎหมู่' ให้เหนือ 'กฎหมาย'
    > > เราเดินขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย
    > > เราก้าวร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน
    > > และทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่
    > > เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า
    > > พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา
    > > จะทรงเสียพระทัยเพียงใด
    > > แล้วสิ่งที่เราทำไปในวันเฉลิมพระชนมพรรษาคืออะไร
    > > การที่เราใส่เสื้อเหลือง สายรัดข้อมือ ที่ว่า Long life The King
    > > เราทำเพื่ออะไร
    > > มันเป็นแค่ผักชีโรยหน้าที่จะแสดงให้โลกเห็นว่าคุณรักพระมหากษัตริย์เพียงใดเท่านั้นนะเหรอ
    > > 80 ชันษาของพระองค์ท่าน
    > > หากเปรียบกับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ได้รับการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ
    > > ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก แต่กลับเป็นว่า
    > > ในปีที่ครบ 80 ชันษา
    > > พระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา
    > > ! ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวายการดูแลของ คณะแพทย์
    > > พระองค์ต้องรับทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ
    > > ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้
    > > ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม
    > > แห่ล้อมด้วยข้าราชบริพาร
    > > หากแต่ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ
    > > เมื่อประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคีกัน
    > > รู้จักความ พอเพียง และมีสติ-เพียงเท่านี้เอง
    > > แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
    > > หรือนี่คือการแสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์
    > > ถ้ารักในหลวงรักประเทศของเราก็ส่งต่อไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    > > ถึงเวลาที่ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ตอบแทนพระคุณพ่อแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...