เรื่องเด่น 'ในหลวง' มีพระราชดำรัสให้คนไทย ทำหน้าที่ ไม่ประมาท มีสติ

'ในหลวง' มีพระราชดำรัสให้คนไทย ทำหน้าที่ ไม่ประมาท มีสติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสให้คนไทย ทำความเข้าใจ ในหน้าที่ของตนไว้ ให้กระจ่าง แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ด้วยความไม่ประมาท และด้วยความมีสติ รู้ตัวอยู่เสมอ ...

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

ทรง มีพระราชดำรัส ดังนี้ "ขอขอบพระทัย และขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิต พรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาด้วยประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอสนองพร และไมตรีจิตทั้งนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่น มั่นคง และร่มเย็น เป็นปกติสุขซึ่งมาช้านาน พวกเรามีความยินดี ยึดมั่นในชาติ และต่างรวมแรงร่วมใจกัน บำเพ็ญกรณียกิจต่างๆ ทำหน้าที่ โดยทำประโยชน์ ส่วนรวมของชาติ เป็นเป้าหมายสำคัญสุด

ท่านทั้งหลายในสมาคมนี้ ตลอดจน คนไทยทุกหมู่เหล่า จึงควรจะได้ทำความเข้าใจ ในหน้าที่ของตนไว้ ให้กระจ่าง แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ด้วยความไม่ประมาท และด้วยความมีสติ รู้ตัวอยู่เสมอ เพราะการกระทำโดยประมาท ขาดความรอบคอบ เป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาดเสียหายในหน้าที่ และการกระทำโดยขาดสติยั้งคิด ขาดเหตุผลความรู้จักถูกผิด เป็นเหตุให้เกิดความหลงความลืมตัว ทำให้กระทำส่ิงที่ไม่ใช่หน้าที่โดยชอบได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก จะนำความเสื่อมสลาย มาสู่ตนเอง ตลอดจนประเทศชาติได้

ซึ่งขอให้ทุกคน ได้สังวรณ์ระวังให้มาก และประคับประคองกาย ใจให้เที่ยงตรงหนักแน่น ในการปฏิบัติภารกิจของตนให้ถูกต้องตามหน้าที่ เพื่อความมั่นคง และเพื่อสามารถประโยชน์สุขให้ยั่งยืนของชาติบ้านเมืองของเรา ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยสุขสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลให้สัมฤทธิ์ผลแก่ท่านทั่วหน้ากัน"

จากนั้นในเวลา 12.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ พระราชดำเนินกลับโรงพยาบาลศิริราช.


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
• 5 ธันวาคม 2553, 13:16 น.

 

'ในหลวง' เสด็จฯออกมหาสมาคม 5ธันวามหาราช



ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมายังโรงพยาบาล ศิริราช เพื่อจับจองที่นั่งรอรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯพระราชดำเนินออกมหาสมาคม...

06.30 น. ประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมายังโรงพยาบาลศิริราช เพื่อจับจองที่นั่งรอรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
07.00 น. กทม.จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 284 รูป เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
07.37 น. ตำรวจนครบาลการ ปิดเส้นทางจราจรงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใน 2 ช่วงเวลา ปชช.สามารถเฝ้ารับเสด็จฯได้ทั้ง 2 ฝั่งข้างทาง แต่บนฟุตบาทเท่านั้น
08.20 น. ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไปกรมเจ้าท่าจะปิดการจราจรทางน้ำ ห้ามเดินเรือทุกชนิดผ่านโดยเด็ดขาดเพื่อให้เรือที่เข้าร่วมขบวนถวายพระพร
10.00 น. นายกรัฐมนตรี เตรียมเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯออกมหาสมาคม ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ณ พระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง



10.05 น. ทหารรักษาพระองค์ทุกกองพัน เดินสวนสนามจาก ถ.อัษฎางค์ เข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน
10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถเข็นไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์สานุวงศ์ ออกจาก รพ.ศิริราช เสด็จฯ พระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระบรมมหาราชวัง
10.35 น. ตลอด 2 ข้างทาง รพ.ศิริราชปวงชนชาวไทยเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ"​ดังกึกก้อง
10.44 น. รถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ ถึงพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี และประตูพิมานไชยศรี
10.57 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
11.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฏราชกุมาร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา และ พลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลตามลำดับ
11.10 น. พลเอกทรงกิตติ นำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ
11.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ จบแล้ว มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ รพ.ศิริราช
11.41 น. ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเข้าสู่ รพ.ศิริราช ท่ามกลางเสียง "ทรงพระเจริญ" ที่ดังกึกก้อง ทั้่ง 2 ข้างทาง.




ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
• 5 ธันวาคม 2553, 10:42 น.

 

ช้างพลายสะบัดพู่กันเขียน 'ทรงพระเจริญ'
ช้างพลายสีดอ ปางช้างแม่สา เชียงใหม่ ใช้งวงสะบัดพู่กันเขียน "ทรงพระเจริญ" ถวายพระพรในหลวง ท่ามกลางเสียงปรบมือจากนักท่องเที่ยว ...

เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. ที่ศูนย์จัดการแสดงช้าง ปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ช้างพลายสีดอก๋องคำ อายุ 14 ปี ได้ออกแสดงให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้ชมตามปกติ ซึ่งก่อนการแสดงของช้างในวันนี้ ช้างพลายก๋องคำ ได้ใช้วงจับพู่กันเขียนลงบนแผ่นกระดาษเฟรมคำว่า"ทรงพระเจริญ" เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส 5 ธันวามหาราช ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน โดยใช้เวลาเขียนประมาณ 20 นาที สร้างความตะลึงให้กับนักท่องเที่ยวและได้รับเสียงปรบมือเป็นอย่างมาก

นาย นิคม ธงขาว อายุ 38 ปี ควาญช้าง เผยว่า ช้างพลายสีดอก๋องคำ เป็นช้างตัวผู้ แต่ไม่มีงา ควาญช้างจะเรียกว่าช้างสีดอ มีความสามารถพิเศษกว่าช้างเชือกอื่น ที่นำมาฝึกคือจะสามารถเขียนภาษาไทย เช่น"ทรงพระเจริญ" และตัวหนังสือก็สวยงามอ่านง่าย ทางควาญช้างเพียงแต่ผสมสีและเตรียมพู่กันให้เท่านั้น ไม่ได้ช่วยจับงวงเขียนใดๆทั้งสิ้น เป็นความสามารถของช้างเพียงอย่างเดียว โดยก่อนหน้านี้ได้หัดเขียนมาประมาณ 3 วัน ครั้งแรกก็จับวงเขียน จนในที่สุดช้างก็จำก็สามารถใช้งวงเขียนเองได้ นอกจากนั้น ช้างสีดอก๋องยังเขียนภาษาอังกฤษ คำว่า "Long life the King" ได้อีกด้วย

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่การแสดงช้างเขียนรูปและวาดรูปเสร็จ มีการนำภาพวาดและเขียนของช้างมีให้นักท่องเที่ยวได้เข้าร่วมประมูลเพื่อเป็น ทุนซื้ออาการให้ช้างอีกด้วย.


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวภูมิภาค
• 5 ธันวาคม 2553, 14:04 น.

 

ประมวลภาพ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เสด็จฯ ออกมหาสมาคม 5 ธันวาฯ มหาราช



ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรถไฟฟ้า ลงจากอาคารที่ชั้น 8 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อทรงออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหยสูรยพิมาน พระบรมมหาราชวัง โดยตลอดเส้นทางเสด็จฯ ไปและกลับ เต็มไปด้วย พสกนิกร ซึ่งสวมเสื้อสีชมพู มารอเฝ้าฯ รับ พร้อมโบกธงสะบัดไปมา บางรายก็ ชูพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ ไว้เหนือหัว เมื่อรถยนต์พระที่นั่งผ่าน ต่างก็เปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" เพื่อถวายพระพรอย่างกึกก้อง ด้วยความปลาบปลื้มปิติที่ได้ชื่นชมพระบารมี หลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ด้วยความดีใจสุดๆ

 

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววันที่ 5 ธันวาคม 2553 ตอนเช้า

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววันที่ 5 ธันวาคม 2553 ตอนเช้า

<table class="tborder" style="margin: 10px 0pt;" cellpadding="6" cellspacing="1"> <thead> <tr> <td class="tcat" colspan="2" style="text-align: center;"> [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Cp_5pj8eBfs&feature=player_embedded"]YouTube - พระราชดำรัสในหลวง 5 ธันวาคม 2553[/ame] </td> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td class="panelsurround" align="center">
</td> </tr> </tbody> </table>​

"ขอขอบพระทัยและขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิต
พรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิดรวมทั้งให้สำคัญคำมั่นสัญญาโดยประการต่างๆ
ข้าพเจ้าขอสนองพรและไมตรีจิตทั้งนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน

บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นมั่นคงและร่มเย็นเป็นปกติสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความยินดียึดมั่นในชาติ
และต่างร่วมแรงร่วมใจกันบำเพ็ญกรณียกิจต่าง ๆ ทำหน้าที่โดยถือประโยชน์ส่วนรวมของชาติ
เป็นเป้าหมายสำคัญสุด ท่านทั้งหลายในสมาคมนี้ตลอดจนคนไทยทุกหมู่เหล่า จึงควรจะได้
ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนไว้ให้กระจ่าง แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
มีความไม่ประมาทและด้วยความมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพราะการกระทำโดยประมาทขาดความรอบคอบ
เป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาดเสียหายในหน้าที่และการกระทำโดยขาดสติยั้งคิด
ขาดเหตุผลความรู้จักถูกผิดนั้นเป็นเหตุให้เกิดความหลงความลืมตัว ทำให้กระทำสิทธิ์
ที่ไม่ใช่หน้าที่โดยชอบได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก อาจจะนำความเสียเสื่อมสลายมาสู่ตนเองตลอดถึงประเทศชาติได้
จึงขอให้ทุกคนได้สังวรระวังให้มาก และประคับประคองกายใจให้เที่ยงตรงหนักแน่น
ในอันที่จะปฏิบัติภารกิจในตนของตนให้ถูกต้องตามหน้าที่ เพื่อความมั่นคงและเพื่อสามารถ
ประโยชน์สุขอันยั่งยืนของชาติบ้านเมืองเรา

ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองและรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์
ปราศจากภัยและอำนวยสุขศิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลให้สำเร็จผลแ่ก่ท่านทั่วหน้ากัน"

============​

ดูโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราช
จนกระทั่งเสด็จถึงวัดพระแก้ว มีประชาชนรับเสด็จสองข้างทางเป็นจำนวนมาก ประทับใจคำปฏิญาน
ของทหารรักษาพระองค์มาก พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสกับผู้ที่เข้าเฝ้าและประชาชน
ซึ่งขออัญเชิญกระแสพระราชดำรัสบางส่วนมาให้อ่านกันนะครับ

หากมีข้อผิดพลาดประการใดเกล้ากระหม่อมขอพระราชทานอภัยโทษมา ณ ที่นี้ด้วยเทอญ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ถอดความพระราชดำรัสโดย

คุณพยัพหมอก และคุณบุญโทนคนซื่อ pantip.com

credit:บางส่วนจาก

ลานสนทนาคนรักหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงปู่ทวด - หน้าแรก

 

พสกนิกรทั่วไทย จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 'พ่อหลวง'
พสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ร่วมประกอบกิจกรรมเทิดพระเกียรติ "พ่อหลวง" ของชาวไทยทั้งชาติ โดยในช่วงเช้ามีการตักบาตรทำบุญ ขณะที่ช่วงเย็นถึงค่ำ มีการจุดเทียนชัยถวายพระพร และจุดพลุเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา...


จ.กำแพงเพชร

ช่วง เช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณถนนหน้าลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิต ริมปิง พสกนิกรชาวกำแพงเพชร นำโดย นายวันชัย สุทิน ผวจ.กำแพงเพชร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานรวมไปถึงประชาชนชาวจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกันจัดพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนิมนต์พระสงฆ์ 85 รูป มารับบิณฑบาตร มีพสกนิกรชาวกำแพงเพชรที่จงรักภักดีต่อองค์พ่อฟ้าหลวง มาร่วมทำบุญใส่บาตรกันอย่างเนืองแน่นตลอดเส้นทางสายริมปิงทั้ง 2 ฝั่งถนน มีประชาชนหลายพันคนนำข้าวสารอาหารแห้งมาเข้าแถวยืนรอตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งทุกคนมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ที่มีโอกาสร่วมกันทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล ให้แด่องค์พ่อฟ้าหลวง มิ่งขวัญของประชาชาวไทย เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา และในปีนี้ถือเป็นปีมหามงคลที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ต่างขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน

ผู้ว่าฯกำแพงเพชร และพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมทำบุญตักบาตร



ขณะที่ชาวบ้านทั้ง 18 หมู่บ้านในเขตพื้นที่ต.เขาคีริส อ.พรานกระต่าย จัดกิจกรรมโครงการหน้าบ้านน่ามองเทิดทูนสถาบัน เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 83 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2553 โดยชาวบ้านต่างร่วมแรงร่วมใจนำไม้ไผ่ทำเป็นซุ้มประตูประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟ และตามริมถนนทางเข้าหมู่บ้านทุกสายทั่วทั้งหมู่บ้านชาวบ้าน ทอดยาวด้วยตะเกียงน้ำมันส่องแสงระยิบระยับสวยงามในยามค่ำคืน อีกทั้งยังมีการตกแต่งซุ้มเฉลิมพระเกียรติของแต่ละหมู่บ้าน ทั้ง 18 หมู่บ้าน โดยโครงการดังกล่าวจัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 แล้ว

ด้าน นายสดุดี พุธธัง ปลัดอาวุโสอ.พรานกระต่าย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และนายฉลวย สีทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาคีริส ออกเยี่ยมชมและร่วมพิธีถวายพระพร ร่วมลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อเฉลิมพระเกียรติด้วย

สำหรับ โครงการหน้าบ้านน่ามอง เทิดทูนสถาบันเพื่อเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช ให้ประชาชนร่วมกันประดับธงทิว โคมไฟ ตราสัญลักษณ์และทำความสะอาดบ้านเรือน สภาพแวดล้อมภายในหมู่บ้าน ชุมชนให้มีความน่ามองและมีการจัดประกวดซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เพื่อสร้างความรักความสามัคคีในการมีส่วนร่วมของประชาชน และรณรงค์ให้หน่วยงานกลุ่มองค์กรผู้นำชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญ และเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมปกป้องเทิดทูนสถาบันของชาติ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของพสกนิกรไทยทุกคน ซึ่งดำรงรักษาไว้ในความเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาว ไทยทั้งชาติ และเทิดทูนไว้เหนือสิ่งอื่นใด ส่วนภายในซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ชาวบ้านต่างนำอาหารเครื่องดื่มมาจัดไว้ให้กับผู้ที่มาเยือนหรือผ่านไปมา สามารถแวะดื่มและรับประทานได้ฟรี แสดงถึงความมีน้ำใจและความสามัคคีเพื่อร่วมทำความดีเป็นคนดีถวายในหลวง



จ.สระแก้ว

นาย ศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 99 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2553 โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า และประชาชนชาวสระแก้วทุกหมู่เหล่า มาร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่งต่างตั้งจิตอธิษฐานให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง

ส่วนที่หอประชุมปางสีดา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ผวจ.สระแก้ว เป็นประธานพิธีลงนามถวายพระพร และนำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวสระแก้ว กล่าวคำถวายสดุดีเฉลิมพระเกียรติและถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนในภาคเย็นกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 น. หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สมาคม มูลนิธิ และประชาชนทั่วไป พร้อมใจกันอันเชิญเครื่องราชสักการะ นำไปเข้าร่วมประกอบพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร ณ บริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองสระแก้ว โดยมีผวจ.สระแก้ว เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพสกนิกรชาวสระแก้ว ร่วมกันประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพร เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายหลังจากจบพิธี จะได้มีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ เฉลิมพระเกียรติ และจัดแสดงมหรสพสมโภชอย่างยิ่งใหญ่
นอกจากนี้ ผวจ.สระแก้ว พร้อมด้วย พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา นำข้าราชการ ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน และประชาชน ร่วมกันปลูกต้นราชพฤกษ์ถวายพ่อ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554

โดยนายศานิตย์ กล่าวว่า การปลูกต้นราชพฤกษ์ถวายพ่อเป็นกิจกรรมเฉลิมเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ในปี 54 โดยทุกหน่วยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 53 เป็นต้นไป เพื่อปลูกฝังและกระตุ้นให้ปวงชนชาวไทย หันมาให้ความสนใจต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยการปลูก ต้นไม้และเห็นคุณค่าความสำคัญขอการปลูกต้นราชพฤกษ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องแก่ประชาชนและเยาวชน เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของต้นราชพฤกษ์ ซึ่งมีดอกสีเหลืองและเป็นดอกประจำชาติ สามารถปลูกขึ้นได้ทุกภาคในประเทศไทย

ขณะที่พล.ต.วลิต กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อการสนับสนุนให้มีการเสริมสร้างทรัพยากรธรรมชาติขึ้นมาทดแทนสิ่งที่ถูก ทำลายไป เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ต. ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มีเนื้อที่ประมาณ 15ไร่

ชาวบางเลนร่วมใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง





จ.นครปฐม

เมื่อเวลา 07.00 น. พระครูเกษมถาวรคุณ เจ้าคณะตำบลไผ่หูช้าง เจ้าอาวาสวัดบางเลน ได้นำคณะสงฆ์ของวัดบางเลน 14 รูป ออกรับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งจากประชาชนชาวต.บางเลน ที่มารอใส่บาตรกันตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม 2553 ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยคณะสงฆ์ได้ออกบิณฑบาตตามเส้นทางโดยรอบพื้นที่ต.บางเลน อ.บางเลน

ด้าน เรือโทกฤษณ์ จินตะเวช นายอำเภอบางเลน พร้อมด้วยนางกรรณิการ์ จินตะเวช นายกกิ่งกาชาดอำเภอบางเลน นายอภิวัฒน์ เค้าภูไทย นายกเทศมนตรีตำบลบางเลน และภริยา ได้มาร่วมใส่บาตรในครั้งนี้ด้วย จากนั้นคณะสงฆ์วัดบางเลนได้ออกรับบิณฑบาต บริเวณตลาดบางเลนธานี ซึ่งเป็นแพปลาขนาดใหญ่ และที่เป็นอยู่อาศัยของชาวต่างด้าวสัญชาติมอญ กว่า 2,000 คน มีชาวมอญจำนวนมากมารอใส่บาตรกันเต็มบริเวณ ซึ่งแต่ละคนสวมเสื้อผ้าเป็นชุดประจำชาติของตนคือ ผู้ชายนุ่งโสร่ง ผู้หญิงนุ่งผ้าถุง มีผ้าพาดบ่า บ้างนำลูกหลานมาวางลงกับพื้น เพื่อให้พระสงฆ์เดินข้ามตามความเชื่อที่ว่า จะช่วยให้เด็กมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งข้าวสารอาหารแห้งที่ได้รับบิณฑบาตนั้น จะนำเข้าสมทบกับทางมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ยากไร้วัดบางเลน เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ยากไร้ที่ขาดแคลนอาหารและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตต่อ ไป



จ.ยะลา

เมื่อเวลา 07.00 น. นายกฤษฎา บุญราช ผวจ.ยะลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา โดยมีคณะสงฆ์จ.ยะลา ออกบิณฑบาตกว่า 100 รูป จากนั้นในเวลา 09.00 น. ผวจ.ยะลานำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีลงพิธีถวายพระพรชัยมงคล และบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน

จากนั้นเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจ.ยะลา นายกฤษฏา พร้อมด้วยนายอับดุลเราะเแม เจะแซ ประธานคณะกรรมการอิสลามฯ ได้นำพสกนิกรชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลาม ร่วมพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

ทั้งนี้ เพื่อให้ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ ตลอดจนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอีกทั้งยังแสดงออกซึ่งความรัก ความสามัคคี ของชาวไทยในจังหวัดยะลาโดยได้พร้อมใจกันขอดูอาว์ เพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

สำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจ.ยะลา ได้เปิดรับบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล มีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชน ให้ความสนใจเข้าร่วมบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมาก

จ.นครราชสีมา

เมื่อ เวลา 08.30 น. นายมุรธาธีร์ รักชาตเจริญ นายอำเภอด่านขุนทด จัดพิธีถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช โดยจัดพิธีสงฆ์ มีพระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด และพระสงฆ์สมณศักดิ์ รวม 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญชัยมงคลคาถา ถวายพระพรในหลวง ในส่วนของงานรัฐพีธี ได้มีการเฉลิมฉลองวันชาติไทย โดย พ.ต.อ.วิวัฒน์ สีลาเขตต์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด นำกล่าวสดุดีบรรพบุรุษและฉลองวันชาติไทย จากนั้น นายมุรธาธีร์ ประกอบพิธีถวายพระพรในหลวง พร้อมกับนำข้าราชการทุกหมู่เหล่า กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเป็นธรรม

ผู้ สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่อำเภอได้เตรียมเก้าอี้สำหรับพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ไว้ในเต็นท์พิธีทางศาสนาด้วย เพื่อให้หลวงพ่อคูณมาร่วมพิธีเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสุขภาพของหลวงพ่อคูณไม่ค่อยดีนัก จึงไม่ได้มาร่วมพิธี ขณะที่ยังมีข่าวลือว่าหลวงพ่อคูณอาพาธหนัก ซึ่งนายธวัช เรืองหร่าย หรือวัดร้าง ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า หลวงพ่อคูณยังสบายดี ไม่ได้อาพาธหนักแต่อย่างใด

ชาวตรังร่วมใส่บาตร





จ.ตรัง

เมื่อเวลา 07.00 น. นายไมตรี อินทุสุต ผวจ.ตรัง พร้อมด้วยพสกนิกรชาวตรังทุกหมู่เหล่า ข้าราชการนักการเมือง พ่อค้า ประชาชน กว่า 1 พันคน ได้ร่วมทำพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 83 รูป โดยนำข้าวสาร อาหารแห้ง และของหวาน มาร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และทรงเจริญพระชนมายุครบ 83 พรรษา และในการร่วมทำบุญตักบาตรครั้งนี้ พสกนิกรชาวตรังได้ตั้งจิตอธิฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง และทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนานอยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป

จ.ลำปาง

นาย ชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ พลอดุลยเดช ครบรอบ 83 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2553 สำนักงานขนส่งจ.ลำปางร่วมกับศูนย์มะเร็งลำปาง และเหล่ากาชาดจ.ลำปาง ได้จัดโครงการขนส่งลำปางร่วมใจเทิดไท้องค์ราชันเฉลิมพระเกียรติ เปิดรับบริจาคโลหิต เป็นครั้งที่ 8 ขึ้น ที่สำนักงานขนส่งจ.ลำปาง ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากนพ.สุรทัศน์ พงษ์นิกร อดีตผู้อำนวยการศูนย์มะเร็งลำปาง เป็นประธานในพิธี มีพี่น้องประชาชนทุกสาขาอาชีพ นักเรียนและนักศึกษา ร่วมกันบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศลในครั้งนี้ รวมทั้งหมด 117 ราย ได้โลหิตเป็นจำนวนมากถึง 46,800 ซีซี และยังมีผู้บริจาคดวงตาและอวัยวะอีก 5 ราย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ พลอดุลยเดช ครบรอบ 83 พรรษา

ขณะเดียวกัน ยังมีพิธีรับมอบรถนั่งจำนวน 13 เครื่อง ให้กับผู้พิการทั้ง 13 ราย เนื่องในวันคนพิการสากล หลังได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีรายได้มาจากการประมูลเลขสวยทั่วประเทศที่ผ่านมา


จ.ตราด

เมื่อ เวลา 07.00 น. บริเวณหน้าศาลากลางจ.ตราด น.ส.เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผวจ.ตราด เป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์รถตรวจสุขภาพเชิงรุก ตาม “โครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน” ออกจากหน้าศาลากลางฯ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทราบถึงการจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โดยนพ.กฤษณ์ ปาลสุทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และอสม. จะดำเนินการออกตรวจคัดกรองตรวจสุขภาพประชาชนทั่วไป แบบเคลื่อนที่ถึงชุมชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส “มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554” และระลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยสุขภาพของพสกนิกรชาวไทย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจเช็คสุขภาพที่จำเป็น โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ไขมันในเส้นเลือดสูง, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ภาวะอ้วนลงพุง เป็นต้น

สำหรับกิจกรรมรณรงค์ใน ครั้งนี้ ถือเอาฤกษ์วันมหามงคลของปวงชนชนชาวไทย จัดปล่อยขบวนรณรงค์ออกเชิญชวนให้ประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป เข้ารับบริการตรวจสุขภาพ ณ จุดบริการที่สถานบริการใกล้บ้านตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2554 ทั้งนี้ เพื่อประเมินสภาพของร่างกายของแต่ละคน นำไปสู่การปรับสุขภาวะในการใช้ชีวิต ทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือการตรวจเฉพาะด้านต่อไป ซึ่งการตรวจสุขภาพถือเป็นการป้องกัน และส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง ก่อนที่ร่างกายจะเกิดอาการเจ็บป่วย หรือเจ็บป่วยแล้วก็สามารถรักษาได้แต่เนิ่นๆ ได้อย่างทันที


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวภูมิภาค
• 5 ธันวาคม 2553, 14:30 น.

 

สื่อมวลชนและประชาชนทยอยเดินทางจับจองพื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยา เพื่อติดตามรายงานข่าว และรอชมขบวนเรือประดับไฟเฉลิมพระเกียรติฯ ในค่ำคืนนี้ ระดมอาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยประชาชน 14 ท่าเรือ ส่วนผู้ร่วมขบวนเรือฯ ว่ายน้ำเป็นทุกคน ไม่นำคนแก่ เด็ก คนพิการขึ้นขบวนเรือฯ ขณะที่ร้านอาหารริมน้ำเจ้าพระยาถูกจับจองเต็ม บางร้านปรับขึ้นราคาหลายเท่าตัว

ผู้สื่อข่าวบรรยากาศที่โรง พยาบาลศิริราช ว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา สื่อมวลชนจำนวนมากเริ่มทยอยเข้าประจำที่เพื่อติดตามรายงานข่าวขบวนเรือ ประดับไฟเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2553 ซึ่งขบวนเรือฯ จะลอยลำกลางลำน้ำเจ้าพระยาผ่านโรงพยาบาลศิริราชในค่ำคืนนี้ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงต่าง ๆ บนเวทีริมน้ำเจ้าพระยา หน้าคณะศิลปศาสตร์ มหาลัยธรรมศาสตร์

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้นำเรือเก็บขยะ ผักตบชวาที่ลอยตามน้ำออก เพื่อให้ลำน้ำเจ้าพระยาสะอาดพร้อมรับขบวนเรือฯ เฉลิมพระเกียรติฯ เช่นเดียวกับเรือลาดตระเวนของกรมเจ้าท่า คอยดูแลความปลอดภัยริมน้ำตลอดระยะทาง ประชาชนจำนวนมาก เริ่มทยอยมาจับจองพื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยาเพื่อรอชมขบวนเรือฯ เฉลิมพระเกียรติ ในค่ำคืนนี้เช่นกัน ขณะที่ประชาชนบางส่วนยังปักหลักที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิ เบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ส่วนบรรยากาศที่ท่า เรือข้ามฟากพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี) เริ่มมีประชาชนสวมเสื้อสีชมพู ทยอยมาจับจองที่นั่งบริเวณริมท่าเรือ โดยนำธงชาติและธงตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติมาด้วย เพื่อรอชมความงดงามของขบวนเรือฯ เฉลิมพระเกียรติ ค่ำคืนนี้ ส่วนบริเวณใกล้เคียงท่าเรือข้ามฟากพระปิ่นเกล้า ประชาชนเข้าคิวรอจับจองที่นั่งร้านหมูกระทะริมน้ำ ซึ่งทางร้านได้เพิ่มราคาจากหัว 99 บาท เป็นหัวละ 250 บาท ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยินดีที่จะจ่ายในราคาดังกล่าว

ส่วนบ่ายวันนี้เวลา 15.00 น. มีเรือโดยสารขนาดใหญ่ 2 ลำ เรือด่วนเจ้ายา 36 ลำ และเรือเอี่ยมจุ้น 2 ลำ นำประชาชนจาก จ.นนทบุรี จำนวน 4,000 คน มารอที่ท่าเรือพระปิ่นเกล้า เพื่อรอลงเรือขบวนฯ เฉลิมพระเกียรติ

นาย วิวัฒน์ ฉันทนานุรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ในฐานะดูแลรับผิดชอบท่าเรือข้ามฟากพระปิ่นเกล้า กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังจังหวัดให้มีการคัดเลือกผู้เข้าร่วมในขบวนเรือฯ เฉลิมพระเกียรติ สามารถว่ายน้ำได้ ไม่นำคนแก่ เด็ก หรือผู้พิการเขาร่วมในขบวนเรือ ผู้ร่วมขบวนเรือต้องสวมเสื้อชูชีพทุกคน รวมทั้งต้องให้มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยราชการประจำอยู่ในเรือลำละ 1 คน ทุกลำ

ส่วน การดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าเรือ ได้เตรียมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ประมาณ 20 นาย และตำรวจท้องที่รวมกว่า 50 นาย ดูแลความปลอดภัย ขณะนี้มี อส.ที่ทำหน้าที่ดูแลท่าเรือทั้ง 14 ท่าเรือ กว่า 1,425 นาย ให้ดูแลไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธี ส่วนประชาชนร่วมกับขบวนเรือจากจังหวัดต่างๆ มีจำนวนกว่า 25,000 คน

http://news.sanook.com/986315-สื่อ-ประชาชนเริ่มจองที่ดูขบวนเรือถวายพระพร.html

 

4ช้างแสนรู้ถวายพระพรวันพ่อแห่งชาติ

<style>p { margin: 0px; }</style> วันที่ 5 ธ.ค. นายกัมพล ตันสัจจา ผอ.สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช ได้ร่วมกับอำเภอสัตหีบ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สำนักงานเมืองพัทยา) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดกิจกรรมขบวนแห่ช้างกว่า 40 เชือก นำนักแสดงรำถวายพระพรชัยมงคล โดยมีพลายเบิร์ดพ่อช้างแสนรู้ ถวายพวงมาลัยต่อพระบรมฉายาลักษณ์ และลูกช้าง 3 เชือก ได้แก่ พังสงกรานต์ พังคริสมาสต์ และพังใบเตย หมอบคลานมอบพวงมาลัยให้พ่อช้าง ก่อนแสดงศิลปะปลายงวงด้วยการวาดภาพต้นไม้ที่กระถาง 3 ใบ สำหรับปลูกต้นไม้ 3 ต้น ได้แก่ ต้นสบู่ดำ ต้นขนุน และต้นยางน้ำ ที่ให้ประโยชน์ 4 อย่าง คือไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ และไม้ช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อน้อมนำและสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการร่วมกันรณรงค์ปลูกป่า รักษาแหล่งน้ำและทรัพยากรธรรมชาติ

 

ประมวลภาพการเตรียมความพร้อมพิธีถวายพระพรชัยมงคล
บรรยากาศการซ้อมใหญ่พิธีถวายพระพรชัยมงคล บนเวทีริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา นำโดย เบิร์ด ธงชัย แมคอินไตย,เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์, บี้เดอะสตาร์ ที่มาร่วมร้องเพลงแผ่นดินของเรา พร้อมทั้ง เนวิน ชินชอบ ประธานคณะทำงานเฉลิมพระเกียรติฯ...


ชาย เมืองสิงห์ นั่งรถเข็นขึ้นซ้อมการแสดง



เจ้าหน้าที่ชุด EOD หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจพื้นที่



เจ้าหน้าที่ตรวมเข้มบริเวณแม่น้ำเจ้าพระหน้าเวทีการแสดง



ทหารพร้อมสุนัขดมกลิ่น



หน่วยรักษาความปลอดภัยบนเวทีการแสดง



บี้ เดอะสตาร์ ติวเข้มก่อนขึ้นแสดงจริง



บี้ เดอะสตาร์ ตั้งใจเต็มที่ก่อนงานแสดง



เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ ซ้อมบทแสดงก่อนเล่นจริง



ลีลาของบี้ ก่อนแสดงจริง



3 หนุ่ม 3 มุม เนวิน ให้คำแนะนำ เจมส์,บี้ กับความพร้อมการแสดง



เจมส์ โชว์นำเสียงก่อนแสดงจริง



เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมทางน้ำรักษาความปลอดภัย



น้องๆแดนเซอร์ซ้อมกันอย่างเต็มที่















ทหารเรือเตรียมการรักษาความปลอดภัยทางน้ำ






ประชาชนบนเรือยืนชมการซ้อมแสดงบนเวทีแม่น้ำเจ้าพระยา



พี่เบิร์ด ธงชัย แมคอินไตย ขึ้นซ้อมก่อนโชว์ลีลาแสดงจริง






เนวิน ชินชอบ ทักทาย เบิร์ด ธงชัย ที่มาร่วมร้องเพลงแผ่นดินของเรา





จนท.ทหาร ใช้เจ้าตูมตรวจวัตถุระเบิดบนเวทีการแสดง





ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ไทยรัฐออนไลน์
• 5 ธันวาคม 2553, 21:24 น.

 

ประมวลภาพขบวนเรือ-ปล่อยโคมถวายพระพร











































ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
• 5 ธันวาคม 2553, 22:29 น.

 

อนุโมทนา สาธุ ๆ
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ

 

พระบารมีมากล้น ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ