UN ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล UNDP ในหลวงรางวัลเกียรติยศด้านพัฒนา

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>UN ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล UNDP ในหลวงรางวัลเกียรติยศด้านพัฒนา</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 เมษายน 2549 06:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ผู้จัดการรายวัน - สหประชาชาติ ทูลเกล้าฯถวายรางวัลเกียรติยศด้านการพัฒนา ของโครงการแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP Award แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความตระหนักถึงการที่ได้ทรงอุทิศพระวรกายและพระวิริยะอุตสาหหะ ในการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และดำเนินโครงการ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โคฟี่ อันนัน เข้าเฝ้าเพื่อทูลเกล้าฯถวายด้วยตัวเอง ขณะที่ กก.จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติจัดกิจกรรม​

 

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5620​

"ในหลวง"นักพัฒนา-ยูเอ็นถวายรางวัล

โคฟี่อันนันบินมาไทยขอเข้าเฝ้า เปิดตู้ปณ.รับข้อมูลรูปมงคล

"ยูเอ็น"ถวายพระราชสดุดี"ในหลวง" ทูลเกล้าฯถวายรางวัลเกียรติยศด้านการพัฒนาของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นดีพี เผย"โคฟี่ อันนัน"เลขาธิการเตรียมบินมาประเทศไทยปลายเดือนพ.ค.นี้ ขอเข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯถวายด้วยตัวเองเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ด้านคณะกรรมการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯเปิดตู้ป.ณ.999 ลาดพร้าว กทม.รับรูปภาพมงคลที่พสกนิกรได้เข้าเฝ้าฯในหลวงใกล้ชิด พร้อมบรรยายความประทับใจเพื่อคัดเลือกให้เหลือ 20 ภาพแล้วให้ช่วยกันโหวตทางเอสเอ็มเอส

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 เม.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรมว.วัฒนธรรม ได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำองค์การสหประชาชาติ ได้รับการประสานงานจากสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติว่า นายโคฟี่ อันนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ขอเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทูลเกล้าฯถวายรางวัลเกียรติยศด้านการพัฒนา ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nation Development Programme Award-UNDP) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความตระหนักถึงการที่ทรงอุทิศพระวรกาย และพระวิริยะอุตสาหะในการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และดำเนินโครงการในพระบรมราชูปถัมภ์นานัปการ เพื่อการพัฒนา ยกระดับความเป็นอยู่รวมทั้งนำประโยชน์ และความเจริญอย่างยั่งยืนมาสู่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ โดยนายโคฟี่ อันนัน มีกำหนดเดินทางมาประเทศไทยในวันที่ 25-27 พ.ค.นี้ และจะขอพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าฯเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลดังกล่าว เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีด้วย

น.พ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า จากการที่คณะกรรมการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดกิจกรรมตามหาบุคคลในภาพ มีประชาชนทั่วประเทศที่มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถ่ายภาพที่ระลึก ครั้งได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ไว้ คณะกรรมการจัดงาน จึงจัดกิจกรรมพิเศษ "ในหลวงของฉัน" โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศส่งภาพถ่าย พร้อมเล่าเรื่องแห่งความประทับใจที่เคยได้เข้าเฝ้าฯในหลวง เข้ามายังตู้ป.ณ.999 ลาดพร้าว กทม.โดยคณะกรรมการจัดงานจะพิจารณาคัดเลือกภาพให้เหลือ 20 ภาพ เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศโหวต ผ่านระบบเอสเอ็มเอส เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 6 ภาพ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ 60 ปี ที่ทรงครองราชย์ โดยการโหวตผ่านระบบเอสเอ็มเอสจะขอความร่วมมือจากบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้บริการฟรี ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกภาพและเรื่องแห่งความประทับใจสูงสุดทั้ง 6 ภาพ จะได้เข้าร่วมในพิธีเปิดนิทรรศการ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-4 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ปลื้มปีติ- นายวงศ์ อรรถพร อายุ 95 ปี ชาวจ.ระยอง เผยภาพมงคลที่ได้เข้าเฝ้าฯในหลวงอย่างใกล้ชิด พร้อมคณะลูกเสือชาวบ้าน เมื่อปี 2519 ที่จิตตภาวันวิทยาลัย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 25/4 หมู่ 8 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนางฐากูร จันทรัมพร อายุ 66 ปี เนื่องจากได้รับแจ้งว่าครอบครัวของนางฐากูร เคยได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิด

นางฐากูร เปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ.2505 ครอบครัวของตนมีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จประพาสที่เกาะสมุย สมัยนั้นสามีของตนคือนายต้อง กองทอง อายุ 75 ปี ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว เคยรับราชการเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนเกาะสมุย ซึ่งในครั้งนั้นสามีของตนได้นำนักเรียนแต่งชุดลูกเสือสามัญไปรอรับเสด็จฯ ซึ่งในหลวงยังได้ทรงสอบถามถึงความเป็นอยู่ของเด็กนักเรียน และจำนวนครู กับเด็กนักเรียน ซึ่งการได้เข้าเฝ้าฯในครั้งนั้นนับเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวตนเป็นอย่างมาก

นางฐากูร กล่าวอีกว่า สำหรับภาพดังกล่าวเป็นภาพที่สามีของตนกำลังทำความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะเสด็จฯมาที่เกาะสมุย โดยในหลวงได้เสด็จฯผ่านพร้อมทั้งทรงหยุดสอบถามสามีของตน ก่อนที่จะเสด็จฯไปประทับบนที่ว่าการอำเภอ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ถ่ายรูปและติดตามเสด็จฯได้ส่งภาพถ่ายมาให้ ครอบครัวตนได้นำไปขยายใส่กรอบขนาดใหญ่อยู่ที่บ้านในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล

เมื่อเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน นายจิรพงศ์ อุทัยพัฒน์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง แจ้งว่าพบผู้เคยเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯมาที่สำนักสงฆ์จิตตภาวัน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และผู้ที่เข้าเฝ้าฯยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 013 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง พบกับนายวงศ์ อรรถพร อายุ 95 ปี ซึ่งเป็นบุคคลในภาพถ่ายมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสด้วย

นายวงศ์ เปิดเผยถึงความเป็นมาของภาพดังกล่าวว่าตนเดินทางไปเฝ้าฯรับเสด็จฯที่สำนักสงฆ์จิตตภาวัน เมื่อปี พ.ศ.2519 ซึ่งตอนนั้นตนอายุ 65 ปี เป็นเลขานุการลูกเสือชาวบ้าน อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมด้วยคณะลูกเสือชาวบ้านได้เดินทางไปเข้าเฝ้าฯ ระหว่างนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจับที่แขนของตนขณะที่ตนก้มกราบอยู่ และตรัสถามถึงอายุ และการฝึกลูกเสือชาวบ้านว่าเหนื่อยไหม ซึ่งตนก็ทูลว่าไม่เหนื่อย และท่านทรงถามต่ออีกว่า ฝึกร่วมกับลูกเสือชาวบ้านที่อายุยังน้อยกว่าทุกคน ตนเองก็ทูลอีกว่า ฝึกร่วมกัน และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระราชดำรัสต่อว่า ดีจะได้มาร่วมงานกัน ซึ่งในครั้งนั้นสร้างความปลื้มปีติให้ตนมาก

นายวงศ์กล่าวต่อว่า ต่อมาตนได้ขอรูปจากช่างภาพ และได้นำไปอัดภาพแจกให้กับลูกหลานทุกคน ซึ่งขณะนี้ลูกทั้ง 4 คนก็ได้เก็บไว้อย่างดี ส่วนภาพที่ตนเก็บไว้นั้นถูกน้ำเข้าทำให้มองเห็นไม่ชัด เหลือเพียงรูปขนาด 4 คูณ 6 นิ้ว ที่เคยไปให้ไว้กับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งได้เคยนำรูปดังกล่าวไปตีพิมพ์ เมื่อหลายปีก่อน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ปลาบปลื้ม- นายยัน ศิริกัณรัตน์ ควาญช้างชาวเลย โชว์ภาพมงคลครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯยอดภูกระดึง เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2498 โดยนายยันเป็นผู้ดูแลช้างในขบวนเสด็จฯ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

วันเดียวกัน นางวีนัส คงมีลาภ อดีตข้าราชการรพช.เลย ภรรยาของนายสุรชัย คงมีลาภ นายอำเภอเมืองเลย เปิดเผยว่าคุณพ่อของตนคือนายทองหนัก สุวรรณสิงห์ อดีตส.ส.เลย และอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเลย ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ได้เคยเข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อปี 2498 โดยคุณพ่อเป็นควาญช้างทูลเชิญ 2 ล้นเกล้าฯ เสด็จประพาสภูกระดึง ซึ่งครั้งนั้นนายยันต์ ศิริกันรัตน์ คนเลี้ยงช้างของคุณพ่อได้ตามเสด็จฯ ไปด้วย ขณะนี้นายยันต์ยังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบันอายุ 90 ปีแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นตนและครอบครัวจดจำและปลาบปลื้มมาจนถึงทุกวันนี้ และเก็บภาพมงคลดังกล่าวไว้บูชาตลอดมา

นางวีนัส กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนายทองหนัก คุณพ่อของตนได้เขียนบันทึกไว้ว่า ประมาณต้นเดือนตุลาคม 2498 ขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานสภาจังหวัดเลย ได้รับแจ้งจากทางป่าไม้เขตอุดรธานีว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จฯ จังหวัดเลยเป็นครั้งแรก ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2498 และก่อนเสด็จประทับแรมที่จังหวัดเลย จะเสด็จประพาสบนภูกระดึงก่อน ซึ่งการรับเสด็จฯ บนภูกระดึงนั้นเป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ ในขณะนั้นนายคมเดช คมกฤช ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ ได้ขอร้องให้ข้าพเจ้านำช้างขึ้นไปบนภูกระดึง เพื่อเป็นช้างทรงสำหรับรับเสด็จประพาสบนยอดภูกระดึง ในขณะนี้มีช้างใหญ่จำนวน 5 เชือก ก่อนจะนำช้างขึ้นบนยอดภูกระดึงไปรับเสด็จฯ จำเป็นต้องฝึกช้างเสียก่อน โดยเอาช้างพังชื่อ บุญเพ็ง ซึ่งเป็นช้างที่สวยที่สุดมาฝึก โดยให้ควาญช้างนำช้างจากป่ามาเดินในเมืองทุกเช้า เพื่อให้คุ้นกับคนและเสียงรถยนต์ ปรากฏว่าไม่ได้ผล จึงได้เปลี่ยนเอาช้างที่ชื่อช้างพลายคำหมื่น และช้างพลายสีดอทองคูณมาฝึกแทน โดยฝึกอยู่ 1 เดือน จนช้างเชื่องดีพอที่จะเป็นช้างทรงได้

บันทึกของนายทองหนักระบุว่า เมื่อมีหมายกำหนดการออกมาว่า จะเสด็จฯ ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2498 ดังนั้น ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2498 ข้าพเจ้าจึงได้นำช้างทั้ง 2 เชือก พร้อมควาญเท้าช้าง 4 คน โดยมี ด.ช.องอาจ สุวรรณสิงห์ (ปัจจุบัน พล.ต.ต.องอาจ สุวรรณสิงห์ ข้าราชการบำนาญ) ขณะนั้นอายุ 14 ปี และด.ช.อำนาจ สุวรรณสิงห์ เสียชีวิตแล้ว ขณะนั้นอายุ 12 ปี บุตรชายเป็นควาญเท้าช้างด้วย ได้ทำการสำรวจทางขึ้น โดยนำช้างขึ้นทางด้านข้างภูกระดึงทางบ้านนาน้อย ต.ศรีฐาน ซึ่งก็เป็นเส้นทางชันมาก ตอนแรกคิดว่าจะขึ้นไม่ได้ ในวันที่ 5 พ.ย. 2498 จึงได้ปลดเครื่องพันธนาการต่างๆ ของช้างออกให้หมด เหลือแต่ตัวช้างอย่างเดียว จากนั้นก็ต้อนช้างขึ้นเขาไป โดยเฉพาะตอนใกล้จะถึงหลังเขายอดภูกระดึง เส้นทางชันมาก ช้างทั้ง 2 เชือกต้องใช้งวงดึงต้นไม้โหนขึ้นไปจนได้ ส่วนสัมภาระทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาช่วยขนขึ้นไป

ในวันที่ 6 พ.ย. 2498 ก็ได้เตรียมช้างพลายคำหมื่นไว้เป็นช้างที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้จัดช้างทองคูณ สำหรับเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แต่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงไม่ประสงค์จะประทับ มีพระราชประสงค์ประทับช้างเชือกเดียวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือช้างพลายคำหมื่นด้วยกัน โดยมีข้าพเจ้าเป็นควาญช้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับด้านขวา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับด้านซ้าย ตัวข้าพเจ้านั่งหมอบกับหัวช้าง ในขณะเสด็จฯ มีอธิบดีกรมป่าไม้และเจ้าหน้าที่ 6 คนเดินนำหน้า ลูกชายทั้งสองของข้าพเจ้าแต่งชุดลูกเสือเดินคู่นำหน้าช้าง และมีควาญเท้าช้าง 2 คนเดินอยู่ด้านข้างสำหรับเฝ้าระวังตอนช้างตื่นและวิ่ง

บันทึกนายทองหนักระบุต่อว่า จุดแรกตรงไปยังพระพุทธรูป (พระพุทธเมตตา) ที่อยู่บนยอดภูกระดึง ทั้งสองพระองค์เสด็จลงจากหลังช้าง ทรงสักการะพระพุทธรูป ช่วงระยะหนึ่งได้ยินกระแสรับสั่งของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า ขนตาเขางอนๆ งาทั้งสองก็งามนัก โดยทั้งสองพระองค์ยืนประทับอยู่หน้าช้างพลายระยะใกล้ ตอนนี้ข้าพเจ้าตกใจมาก จึงรีบบังคับช้างให้หันหน้าหนีเกรงเกิดอันตราย ได้เวลาอันสมควรก็เสด็จฯ ไปที่สระอโนดาต ทรงทอดพระเนตรสระอโนดาตนานพอสมควร ก็ประทับหลังช้างเสด็จกลับพลับพลาที่ประทับ ขณะประทับบนหลังช้างข้าพเจ้าระวังไม่ให้ช้างตื่นตกใจ เพื่อไม่ให้เกิดภยันตรายต่อทั้งสองพระองค์ได้ ทั้งสองพระองค์ท่านประทับอยู่ที่บนหลังช้างประมาณ 2 ช.ม. ก็เสด็จกลับที่พลับพลารับเสด็จฯ และเสวยพระกระยาหารกลางวัน จากนั้นก็มอบเข็มที่ระลึกแก่ข้าราชการที่มารับเสด็จฯ บนยอดภูกระดึง และประทับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ เสด็จฯ ไปยังตัวจังหวัดเลย

ด้านของนายยันต์ ศิริกันรัตน์ ซึ่งเป็นควาญเท้าช้าง ปัจจุบันอายุ 90 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย ซึ่งเป็นควาญช้างที่อยู่ทางด้านซ้ายของช้าง และยังมีสุขภาพที่แข็งแรง นายยันต์กล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยความภาคภูมิใจว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดและรับใช้สองพระองค์ท่าน ที่ประทับใจมากก็ตอนที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่านเสด็จขึ้นประทับบนหลังช้าง โดยเสด็จขึ้นห้างที่เขาทำไว้ขึ้นหลังช้าง พระองค์ท่านได้ทรงเหยียบบ่าข้างขวาขึ้น พร้อมบอกว่าขอโทษนะ เข้าใจว่าท่านทรงกลัวตก ผมก็ทูลว่า ไม่เป็นไรครับ ซึ่งตอนนั้นรู้สึกดีใจที่สุด ในส่วนนี้น่าจะมีผลต่อผมเอง ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย ตาก็ดีไม่ต้องใส่แว่น หูก็รับฟังได้ดี อายุ 90 ปี ก็ยังไปถางป่าทำไร่ได้สบาย อาจจะเป็นบุญบารมีของทั้งสองพระองค์ท่านที่ทำให้ตนมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่ในขณะนี้

 

วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2549

ยูเอ็นทูลเกล้าฯถวายรางวัล"ยูเอ็นพีดี"ด้านการพัฒนา

ยูเอ็นทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลยูเอ็นดีพีอวอร์ดแด่ “ในหลวง” สำนักนายกฯ เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศ ส่งภาพเข้าเฝ้าฯ และเรื่องประทับใจ คัดเลือกผ่านระบบโหวตเอสเอ็มเอสมือถือฟรี ครม.จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 60 ปี เหรียญทองคำราคา 12,000 บาท เงิน 600 บาท ทองแดงผสมนิกเกิล 20 บาท โลหะ 2 สี 10 บาท

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำองค์การสหประชาชาติได้รับการประสานงานจากสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมาว่า นายโคฟี อันนัน เลขาธิการยูเอ็น ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศด้านการพัฒนา ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nation Development Programme Award-UNDP) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติและแสดงความตระหนักถึงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอุทิศพระวรกายและพระวิริยะอุตสาหะในการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และดำเนินโครงการในพระบรมราชูปถัมภ์นานัปการเพื่อการพัฒนา ยกระดับความเป็นอยู่ รวมทั้งนำประโยชน์และความเจริญอย่างยั่งยืนมาสู่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ โดยเลขาธิการสหประชาชาติกำหนดจะเดินทางมาประเทศไทยในวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2549 และจะขอพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล เพื่อเฉลิมพระเกียรติในมหามงคลสมัยทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีด้วย
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า จากการที่คณะกรรมการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดกิจกรรมตามหาบุคคลในภาพ ได้มีประชาชนทั่วประเทศที่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถ่ายภาพที่ระลึกครั้งได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ไว้ คณะกรรมการจัดงานฯ จึงได้จัด กิจกรรมพิเศษในหลวงของฉัน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศส่งภาพถ่ายพร้อมเล่าเรื่องแห่งความประทับใจที่เคยได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวง เข้ามายังตู้ ปณ.999 ลาดพร้าว กทม.
คณะกรรมการจัดงานฯ จะพิจารณาคัดเลือกภาพให้เหลือ 20 ภาพ เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศโหวตผ่านระบบเอสเอ็มเอส เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 6 ภาพ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ 60 ปีที่ทรงครองราชย์ การโหวตผ่านระบบเอสเอ็มเอสจะขอความร่วมมือจากบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้บริการฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกภาพและเรื่องแห่งความประทับใจทั้ง 6 ภาพ จะได้เข้าร่วมในพิธีเปิดนิทรรศการ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม-4 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ที่อิมแพค เมืองทองธานี คาดว่ามีผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน
ด้าน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการในร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มีการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ทั้งราคาโลหะลวดลายต่างๆ ดังนี้ เหรียญกษาปณ์ทองคำราคา 12,000 บาท มี 2 ชนิด เหรียญกษาปณ์เงินราคา 600 บาท มี 2 ชนิด เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว ซึ่งเป็นทองแดงผสมนิกเกิล ราคา 20 บาท และเหรียญกษาปณ์โลหะ 2 สี (ขาวและทอง) ราคา 10 บาท โดยจะผลิตนำออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติมายาวนาน 60 ปี

 

วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5622​

รางวัลยูเอ็นดีพี

คอลัมน์ คอลัมน์ที่13

"ยูเอ็นดีพี" เป็นเครือข่ายการทำงานสำคัญอีกหน่วยงานหนึ่งของสหประชาชาติ มาจากชื่อเต็มว่า United Nations Development Program หรือโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ

เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลแถลงว่า ยูเอ็นดีพีทูลเกล้าฯถวายรางวัลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากการที่ทรงอุทิศพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจและนำไปสู่การริเริ่มโครงการหลวงใหม่ๆ ซึ่งล้วนเป็นไปเพื่อการพัฒนาประเทศ ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา

นายโคฟี่ อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ จะเดินทางมาเยือนไทยวันที่ 25-27 พ.ค. และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯถวายรางวัลดังกล่าว ซึ่งตรงกับวโรกาสมงคลที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก

ยูเอ็นดีพีก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2509 มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยทำหน้าที่แลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงความรู้ ประสบการณ์และทรัพยากรของประเทศสมาชิก 166 ประเทศ

ยูเอ็นดีพีจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทำงานแก้ปัญหาร่วมกับรัฐบาลของประเทศเหล่านั้นให้นำไปสู่การพัฒนาทั้งในระดับประเทศและระดับโลก

บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกยูเอ็นดีพีต่างลงนามยอมรับข้อผูกมัดตามคำประกาศสหัสวรรษ (Millennium Declaration) ว่าประเทศสมาชิกยูเอ็น และองค์การระหว่างประเทศต่างเห็นพ้องให้มีการติดตามผลการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาแห่ง สหัสวรรษ (Millennium Development Goals-MDGs) มีเป้าหมายเพื่อขจัดความยากจนในมิติต่างๆ และให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ประกอบด้วยเป้าหมายสร้างองค์กรประชาธิปไตย ขจัดความยากจน ป้องกันและฟื้นฟูวิกฤตการณ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมถึงต่อต้านโรคเอดส์ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนเรื่องสิทธิมนุษยชนและสิทธิสตรี

รายงานเรื่องการพัฒนามนุษย์ประจำปีของยูเอ็นดีพีเน้นไปที่ประเด็นถกเถียงด้านการพัฒนาสำคัญๆระดับโลก การจัดหาเครื่องมือวัดใหม่ๆ การวิเคราะห์แง่มุมใหม่และนโยบายที่ยังเป็นเรื่องถกเถียง กรอบของการวิเคราะห์ครอบคลุมลงทั้งระดับภูมิภาค ระดับชาติและท้องถิ่น

โดยปกติในแต่ละประเทศ สำนักงานตัวแทนของยูเอ็นดีพีจะทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานด้านกิจกรรมการพัฒนาให้กับองค์กรโดยรวมของสหประชาชาติเพื่อให้มั่นใจว่าได้ให้ความช่วยเหลือแต่ละประเทศอย่างเต็มที่ที่สุด

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยูเอ็นดีพีผนึกกำลังพันธมิตรนานาประเทศและรวบรวมทรัพยากรที่จำเป็นต่อความก้าวหน้าในการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ

ช่วงต้นปี 2543 ก่อตั้งสำนักงานทรัพยากรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เพื่อประสานงานและควบคุมดูแลการดำเนินงานกับประเทศผู้บริจาค องค์กรด้านประชาสังคม มูลนิธิ สถาบันการเงินนานาชาติ ภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ ของยูเอ็น

ยูเอ็นดีพีอยู่ในภาวะพร้อมมากกว่าที่เคยเป็นมาในการให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา ทั้งในด้านระดมกำลังคนและเงินและใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อโคฟี่ อันนัน เข้าเป็นเลขาธิการสหประชาชาติและมีนโยบายดึงบุคคลมีชื่อเสียงมาเป็นทูตสันถวไมตรีเพื่อประชาสัมพันธ์และระดมความช่วยเหลือจากประชาชนทั่วไปมากขึ้น ยูเอ็นดีพีแต่งตั้งทูตสันถวไมตรีเช่นกัน ได้แก่ นาดีน กอร์ดิเมอร์ เจ้าของรางวัลโนเบลวรรณกรรม มิซาโกะ คอนโน นักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่น โรนัลโด้และซิเนดีน ซีดาน นักฟุตบอลชื่อดังของโลก

และเจ้าชายฮากอน แม็กนัส มกุฎราชกุมารนอร์เวย์