มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

ครับ อาการเดียวกันครับ พร้อมตาย ตายแล้วกลับบ้าน บ้านบนฟ้า ประตูอีกบานหนึ่งที่กล่าวมาก็เห็นด้วยครับท่าน.

 

ค่ำคืนนี้ ดึกแล้ว ดาวดวงนั้น ประดับท้องฟ้าดั่งเคย สีฟ้างามเด่นไม่เหมือนดาวดวงใดๆ..กลิ่นน้ำค้างโชยมา หอมดั่งดอกไม้ป่า.ในท่ามกลางความเงียบสงัด...

 

ค่ำคีนนี้ ท่านติดยุในโลกของตัวเอง เหมือนกันหรอท่าน ดาราแฟร์

 

..ครับท่านชีวิน
ก็เป็นแบบนี้ทุกค่ำคืนครับ ไม่เคยได้พักผ่อนนอนหลับแต่หัวค่ำเหมือนใครเขาครับ.
ไม่เคยมีโลกส่วนตัว เวลาส่วนตัวเลยครับ เวลาในแต่ละวัน กายภายนอกให้เวลาคนรอบตัวหมดทั้งใกล้และไกล กายภายในนั้น ถวายพระ เข้าเฝ้าพระครับ.

 

ค่ำคืนนี้พรุ่งนี้ ไม่พบกันที่หน้าจอ บอร์ดนี้ครับ ด้วยว่า มีกิจกับคนไกลที่เดินทางไปพบกันครับ.

 

พระคุ้มครอง

 

ครับสาธุ.
ขอบคุณมากครับ
บุญรักษา พระคุ้มครอง ไม่เจ็บ ไม่จน ครับคุณชีวิน.

 

คืนนี้ นอนหลับฝันดี ตื่นมาเมื่อฟ้าสาง ก็ขอให้ร่ำรวย ดั่งใจหวังกัน ทุกๆท่านครับ.
ราตรีสวัสดิ์ครับ.

ดาราแฟร์...ได้ยินเสียงฟ้าร้องคำรามมาแต่ไกล ฝนอาจจะตก ไปเตรียมพร้อมก่อนครับ.

 

อยู่กับสาว ... อ่านเจอข้อความนี้ สำลักเลย 5555

 

แล้วที่ผมทราบ ก็มีคนคล้ายๆคุณดาราน่ะครับ
แต่เขาไม่ได้ดิ้นรนเรื่องงาน.
เกิดมาไม่มีต้นทุนชีวิต ไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้อง
เพื่อนก็ไม่มี ตัวเขามีสติปัญญาระดับดีมาก
แต่ซ่อนไว้ ใช้ชีวิตอยู่เฉยๆ เงินทอง ระบบอะไร
ทำอะไรเขาไม่ได้ ไม่ใช่เขายิ่งใหญ่ แต่เพราะ
การจัดสรรของบางอย่าง จึงอยู่ในสถานะไม่อด
แต่ก็ไม่ได้ปรากฏ ไม่มีทรัพย์ ไม่มียศ ไม่มีสังกัด
พูดง่ายๆ ตายไปก็ไม่รู้ อยู่ก็ไม่รู้ แต่เขารู้ในสิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ครับ...

 

แผ่นดินนี้ไม่ใช่ของใคร ท่านจะห้ามใครก็ห้ามได้ แต่ท่านห้ามให้ดวงอาทิตย์ส่องแสงมายังแผ่นดินของท่านไม่ได้ กฎหมายบ้าบอ เครียด!!แต่ก็พูดไม่ได้ พอดีว่าเป็นคนชอบอ่านใจธรรมชาติครับ อ่านใจคนด้วย

 

ไม่ทราบว่าท่าน Sataniel และท่าน Zalievan พอจะรับข้าน้อยเข้าเป็นลูกศิษย์อีกคนได้รือเปล่าขอรับ

 

วันนี้เริ่มต้นหน้าหนาวสินะ เพิ่งตื่นครับ ตื่นขึ้นมานอนไม่ห่มผ้าไม่ใส่เสื้อ เกือบเป็นหวัดคัดจมูกไปแล้ว เสียดายตอนนี้จ้องดาวบนฟ้าก็ไม่รู้แล้วว่าดวงไหนเป็นดวงไหน สายตาพร่ามัวลงนิดหน่อยเพราะอยู่แต่หน้าคอมพ์

 

น่าอาย น่าอาย ข้าน้อยความสามารถยังด้อย ยังมิอาจรับใครเป็นศิษย์ได้ ข้าน้อยเสียมารยาทแล้ว

 

ผมก็ไม่รู้ว่าจะหนาวจริงหรือเปล่าต้องรอดู

 

นั่งสมาธิกันท่าน เพื่อว่าจะมีอะไรใหม่ๆเข้ามาในชีวิต ท่านก็รู้ว่าสังคมมนุษย์นั้นเป็นยังไง ยอมใครที่ไหนล่ะ ในเมื่อพวกเขาชอบการแบ่งแยก ธรรมชาติก็จะสนองให้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ แล้วเจอกันครัช ผมไปล่ะ

 

คนเราเป็นไปตามทิฐิของตนเองหนอ!! เราเท่านั้นจะเป็นผู้รู้ดีที่สุดว่าสิ่งนั้นคืออะไร? การกล่าวถึงบุคลหนึ่ง ในประโยคหนึ่ง ๆ ลองกลับไปถามดูซิค่ะว่า หนึ่งในประโยคนั้นแต่ละคนตีความหมายไปเช่นไร? กันบ้างแน่นอนค่ะย่อมไม่เหมือนกันเพราะจะเห็นไปตามทิฐิตน บางคนนะคะอาจจะตีความหมายไปคนละอย่างกับผู้ที่ต้องการสื่อก็ได้ค่ะ เขาถึงเรียกว่า โลกธรรมแปดค่ะ เราไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ ถ้าเราอยากให้ใครมีความคิดที่ดีที่ถูกต้องกับเราทุกคน เรามิต้องไปตามวิ่งไปแก้บอกคนนั้นที บอกคนนี้ที ว่าเรามิได้เป็นอย่างที่ท่านคิดนะ .... อย่าเข้าใจเราผิด ถ้าสมมุติว่ามีคนเห็นผิดต่อเราทั้งโลก เรามิต้องวิ่งไปตลอดชีวิต เพื่อแก้ความเข้าใจผิดกับทุกคน เหมือนกับหนูที่วิ่งติดจั่นอยู่ในวงล้อที่หมุนนำไปตามความคิด ตามต้องการ ความรู้สึกของคนอื่น แต่..เราควรจะกลับมาควบคุมสิ่งที่เราควบคุมได้ คือ ใจของเราเองค่ะ โลกธรรมแปด รู้ได้ใจเป็นสุข (ยิ้มหวาน น้อย ๆ พองาม ๆ ) คือ อาการของการหยุด สุขที่ใจ

 

การได้เรียนรู้นิสัยธรรมชาติของคน ทำให้เรามองได้ไกล มองไปถึงว่าทำไมเขาจึงคิดเช่นนั้น คือ ทิฐิตามเจตสิกที่เก็บไว้ คำพูด ความคิด ความรู้สึกที่พูดความหมายออกมาแต่ละคำ สื่อให้เห็นทิฐิที่สั่งสมไว้ได้เป็นอย่างดี การแก้นิสัยคนบางทีเพียงแค่คำพูดหรือการกระทำยังไม่ชัดเจนค่ะ ต้องล้วงไปที่ต้นหอเหตุ คือทุกอย่างมีเบื้องลึกที่แฝงเอาไว้บางทีเจ้าของอาจนึกไม่ถึงว่าเราคิดอย่างนั้นได้อย่างไร55555 ลองดูนะคะ ใครที่คิดอยากงดงามในหัวใจจริง ๆ

 

การมีความงดงามในหัวใจจริง ๆ สมัยนี้เป็นไปได้ยาก ถ้าไม่ชอบเข้าวัด หรือมีสังคมที่เป็นหมู่คณะของคนที่มีจิตใจงดงาม มีปัญญาในการสอนลูกหลานจริง ๆ

แม้บางทีผมจะรู้ว่าสิ่งที่ไม่ดีอยุ่ในตัวเองมีอะไรบ้าง แต่ทิฐิ กับ การประพฤติตัวของคนในสมัยนี้ มันเป็น สิ้นเร้าจากภายนอกอย่างดีที่ทำให้เกิดอารมณ์ที่ รุนแรง ดำมืด ขึ้นมาในจิตใจ

บางคนคิดว่าตัวเองเก่ง ทำให้อยู่ร่วมกับใครไม่ได้ เพราะคิดว่าตัวเองเก่ง จะทำอะไรก็ได้ มีบริวารมาก แต่คนใกล้ชิดสนิทใจไม่มี

แต่บางที่มีความรุนแรง ดำมืดบางคน อาจยังมีเจตนาที่ดีแอบแฝงอยู่ แต่ก็ไม่ค่อยจะคำนึงผลที่จะตามมาเพราะสนใจแต่เหตุการณ์ที่อยู่เฉพาะหน้า ไม่ได้คำนวนให้ดีก่อนว่า จะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง หากทำการอะไร ๆ ลงไป

ผมว่าคุยกับคน บางครั้งก็เหมือนเล่นสนุกเกอร์นะ ่วนตัวไม่เคยเล่นหรอก แต่ผมว่าใกล้เคียงกันดี เหมาะที่จะเอามาเปรียบเทียบกัน
ต้องเล็งและแทงดี ๆ ไม่งั้น เวลาแทงลูกขาวไปโดนลูกอื่น ลูกแื่นที่โดนกระทบมันจะไม่เคลื่อนไปตามที่เราคาดไว้
แต่ก็นั่นแหละ โดยทั่วไป คนเราเมื่อคุยกับคนอื่น มักจะคิดว่า มันจะเป็นไปอย่างที่เราคิดเสมอ ๆ

แต่ละคน
ก็มีจริตในการคุยกับคนอื่นที่ต่างกัน
มีนิสัยใจคอ ความคิดพื้นฐาน ความรู้ ต่างกัน
หวังผลในการคุยกับคนอื่นไม่เหมือนกัน
คนฟังก็หลากหลาย

ไหนจะประเด็นการคุยอีก

เมื่อคุยกับคนที่ไม่คุ้นเคยกันดี จึงยากที่จะคากเดา ว่าผลจากการสนทนาที่เกิดขึ้นกันในแต่ละครั้ง จะออกมาเป็นอย่างไร