หลวงปู่เชย อมโร , พระเกจิเมืองจันทร์ , และคณาจารย์สายตะวันออก

เข้าใจแล้วครับ เค้าคงไม่เบื่อหรอกครับ มีทางเดียวต้องไปหักคอมานะแหละครับ

 

ล๊อคเกตหลวงปู่พิศดูปี53 ครูบากฤษดาสร้างถวายหลวงปู่ ครอบรอบหลวงปู่อายุ 87 ปี ปัจจุบัน"หมดแล้ว"

ขอเชิญร่วมงาน กฐินปี 2554 วัดสันพระเจ้าแดง วันที่ 23 ตุลาคม 2554

 

ได้อ่านเรื่องยาจินดามณีจากพี่แล้วๆโดยส่วนตัวก็เชื่อมั่น 1,000 เปอร์เซ็นเลยล่ะค่ะโดยส่วนตัวก็ เชื่อมั่นในพุทธคุณเต็มร้อยเชื่อมั่นแบบหมดหัวใจ เพราะประสบกับตัวเองมาแบบไม่ต้องสงสัย เผอิญช่วงนั้นไม่ค่อยสบายแต่ก็ไม่ได้บอกท่านแต่ด้วยพระเมตตาองค์หลวงปู่ ท่านได้แจกยามากินให้
พร้อมๆกับพี่อีกหลายคนที่มาในวันนั้นก็ได้รับแจก ทุกวันนี้เวลาไม่สบายก็อาราธนานึกถึงคุณพระศรีรัตตรัยและบารมีขององค์หลวงปู่ โดยนำมาทำเป็นผงให้ละเอียดก่อน(จะได้ไม่หมดไว) แล้วนำผงยาจินดาแค่เพียงเล็กน้อยมาโรยน้ำในแก้้วแล้วอธิษฐานกิน เมื่อก่อนได้มาก็กินเกลี้ยงเลยค่ะ แต่ตอนนี้เอาไว้กินยามเจ็บป่วยมากๆจริงๆถึงค่อยกิน เพราะถ้าหมดแล้วก็คงจะหายากแล้วล่ะค่ะ ของดีมีคุณค่าแบบนี้

 

สาธุด้วยครับทุกท่านที่ร่วมเอาประสบการณ์มาร่วมเผยแพร่กัน สำหรับจินดามณีที่องค์หลวงปู่ท่านเสกนั้นมีพลังพุทธานุภาพสูงยิ่ง ท่านบอกว่าใครมีไม่ต้องกินก็ได้ ใช้แขวนคอหรือบูชาก็เป็นศิริมงคลแล้วครับ

หากใครมีจินดามณีขององค์หลวงปู่ก็เก็บเอาไว้บ้างนะครับ เมื่อวานเขาเพิ่งเจอประสบการณ์กันจังๆ เป็นเรื่องของผีเข้าครับ เรื่องมันยาวเอาพอสังเขปนะครับ เพื่อนของลูกศิษย์หลวงปู่โดนผีเข้าที่บ้าน ใครทำยังไงก็ไม่ยอมออกดึกแล้วด้วย ญาติเขานึกได้ก็โทรไปหาพี่นภา(ศิษย์หลวงปู่) เพราะเห็นว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่น่าจะมีวิธีแก้ พี่นภาก็ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรดี สามีแกก็ไม่อยู่ ที่บ้านมีจินดามณีอยู่กับรูปกันภัยของหลวงปู่ ก็เลยเอาไปด้วย พอถึงบ้านเห็นคนผีเข้านอนอยู่ พอคนผีเข้าเห็นพี่นภาเดินมา แกเลยพลิกตัวหันหน้าไปทางอื่น แล้วก็ตะโกนบอกว่าอย่ามายุ่ง อย่ามายุ่ง ออกไป พี่นภาแกก็ใจกล้า ตรงเข้าไปบีบจมูกคนที่ผีเข้าแล้วก็งัดปากเอาจินดามณีใส่เข้าไปในปากเม็ดนึง แล้วระลึกถึงหลวงปู่ว่าถ้าเขายังมีวาสนาจะหายขอบารมีหลวงปู่ช่วยด้วย พอโดนเอาจินดามณียัดใส่ปากได้ คนที่โดนผีเข้า แกเรอ..ออกมายาวเลย แล้วก็อาเจียนออกมาหมดเลย ทั้งอาเจียนทั้งเรอ ปรากฏว่าพอเรอและอาเจียนจนหมดก็หายสนิทเลย ผีก็ออกไปหมดแล้วว่ากันว่าผีที่เข้ามาแฝงมีหลายตัว แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยโดนมาแล้วแต่ไปให้อาจารย์ที่บุรีรัมย์แก้ให้ ก็ต้องนอนอยู่ที่สำนัก 3 วันจึงจะหาย ตอนหายก็อาเจียนและเรอออกมาอย่างนี้เหมือนกันครับ



.

 

เพิ่งรู้จักท่านครับ ช้าไปแล้วแต่ขอกราบหลวงปู่ด้วยใจเคารพบูชาครับ บารมีธรรมหลวงปู่สูงล้ำสุดจะบรรยายครับ
นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา
ลูกหลานขอฝากตัวเป็นศิษย์ในสายธรรมแห่งหลวงปู่ด้วยคนนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

เคยไปกราบหลวงปู่พิศดู ท่านให้ แท่งแร่ กลมๆรีๆสีดำมา จำไม่ได้แล้วเป็นอะไร ใคร ตอบได้บ้าง

 

ไม่เป็นไรหรอกครับ องค์หลวงปู่ท่านก็ยังอยู่กับพวกเรา ไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่เปลี่ยนที่อยู่ใหม่เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์รุ่นเก่ารุ่นใหม่ จะทันหรือไม่ทัน ถ้าศรัทธาจริงๆถือได้ว่าเป็นลูกศิษย์ท่านทั้งหมด อนุโมทนาสาธุด้วยครับ
ถึงแม้องค์หลวงปู่จะละสังขารไปแล้ว แต่คุณธรรมยังคงอยู่ พระธรรมคำสอนของท่านยังดังกังวาน มีหลายคนบันทึกเสียงของหลวงปู่เอาไว้ เดี๋ยวจะพยายามรวบรวมเอาไว้เพื่อทำเป็นสิ่งที่ระลึกถึงท่าน อาจทำแจกเป็นทานบารมีต่อไป แต่ตอนนี้ยังรวบรวมได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ธรรมมะของท่านก็คล้ายๆกับของหลวงปู่ดูลย์แหละครับ หลวงปู่ท่านพูดน้อย ธรรมมะของท่านที่แสดงเป็นคำพูดสั้นๆ เอาแต่ข้อธรรมล้วนๆ ส่วนใหญ่เป็นคำกลอน กวีที่ได้ฟังแล้วจะรู้สึกสนใจพร้อมที่จะน้อมเอามาใส่ตัว ฯลฯ

หลวงปู่เคยบอกเอาไว้บ่อยๆว่า " ลูกศิษย์(ของ)ที่อื่นเราไม่รับรองนะว่าเขาคุมลูกศิษย์กันได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์เรา เรามั่นใจว่าเราคุม(คุ้มครอง)ได้ทั้งหมดเลยไม่ว่าอยู่ที่ไหน มาผ่านหาเราแล้วมักจะไม่พลาด "
" มีอะไรก็บอกเรา ถึงไม่มีเครื่องรางของเราใส่ แค่คิดถึงเราเราก็ช่วยได้หมด ไม่ว่าอยู่มุมไหนที่ไหน "



<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 4648488" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>''Kritchakorn Sittibusaya</TD><TD class=alt1>เคยไปกราบหลวงปู่พิศดู ท่านให้ แท่งแร่ กลมๆรีๆสีดำมา จำไม่ได้แล้วเป็นอะไร ใคร ตอบได้บ้าง </TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่หลวงปู่ท่านให้ไปเป็นแร่แม่เหล็กธรรมชาติครับ มีคนหามาถวาย หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตให้ ท่านบอกว่า เราอธิษฐานเป็นเหล็กไหล นี่แหละเหล็กไหลละ



.

 

หลวงปู่บอกว่าเหล็กไหล แต่ไม่แน่ใจ รุ้แต่เหล็กไหนไม่น่าใช่เพราะหายากกมากแต่วันนั้นจำได้หลวงปู่มีเป็นถุงเลยแจกทุกคนเลยย

 

หวัดดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

โมทนาบุญด้วยครับ ...

เกิดมาในชาตินี้ไม่เคยมีวาสนาได้ไปกราบหลวงปู่พิศดู ทั้งๆที่ทราบจากรุ่นพี่มาว่าท่านบรรลุธรรมชั้นสูงมากๆ หาได้ยากมากในประเทศไทย

เลยขอถือโอกาสนี้กราบหลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี มา ณ โอกาสนี้ และ จะติดตามกระทู้นี้เพื่อนำธรรมของท่านไปประพฤติปฎิบัติ

ขอองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี ได้โปรดเมตตาส่งเสริม ดูแล รักษา คุ้มครอง ข้าพเจ้าและครอบครัวให้ถึงซึ่งธรรมที่องค์หลวงปู่พิศดูได้รู้แจ้งเห็นจริงตามนั้นแล้วด้วยเทอญ สาธุ

 

สรุปผลการประชุม ณ วัดป่าคลองกุ้ง ว่าด้วยเรื่องการตั้งบำเพ็ณกุศล พระสรีระองค์หลวงปู่พิศดู

เนื่องด้วยสถานที่จิตกาธานที่วัดเทพธารทองยังไม่แล้วเสร็จ จึงไม่สะดวกที่จะเคลื่องพระสรีระองค์หลวงปู่กลับไปบำเพ็ญกุศลที่นั่นได้ เพราะมีฝนตกลงมาทุกวันทำให้งานก่อสร้างล่าช้าออกไป จึงได้มีประชุมกันถึงแผนงาน การตั้งพระสรีระองค์หลวงปู่ ว่าจะไว้ที่วัดป่าคลองกุ้งจนกว่าสถานที่ที่วัดเทพธารทอง และจิตกาธานจะแล้วเสร็จ จึงค่อยเคลื่อนต่อไป

และจากกำหนดการเดิม ว่าจะมีการสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลเฉพาะทุกวันเสาร์ .ทางวัดป่าคลองกุ้งนำโดยองค์หลวงพ่อพระมหาเข้มเจ้าอาวาสฯ และศิษยานุศิษย์องค์หลวงปู่ ได้มีมติเห็นสมควรจะจัดให้มีการร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเย็น และสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลทุกวัน ตามกำหนดการดังนี้..

ทุกวัน..
เวลา 19.00 น. ร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเย็น โดยพร้อมเพรียงกัน​

เวลา 20.00 น. มีสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล น้อมถวายแด่สรีระองค์หลวงปู่​

แต่ยังไม่มีเจ้าภาพโรงทานเลี้ยงอาหารแต่อย่างใด เพียงแต่ทางวัดได้จัดให้มีพิธีสวดพระอภิธรรมถวายแด่องค์หลวงปู่อย่างเดียว แต่หากท่านใดมีจิตศรัทธาจะเป็นเจ้าภาพโรงทาน ทานวัดก็ยินดีและขออนุโมทนาในกุศลครั้งนี้ด้วย สาธุ​

.​

 

ขอเข้ามาทักทายบ้าง ติดตามอ่านตลอด

น้องข้างบ้าน(กทม)เป็นลูกศืษย์หลวงปู่ สนืทกับแม่ของผมและได้ชวนไปกราบท่านมาแล้ว ไปกันหลายครั้งแล้ว
ยังได้หนังสือบทสวดของท่าน รูปภาพ และสร้อยประคำไม้หอมซึ่งได้รับจากมือท่านเองเลย แม่ผมขอหลวงปู่ให้ผมมาอีก 1เส้น
ตอนนี้ผมเก็บไว้อย่างดีเลยครับ แต่ผมไม่มีวาสนาไปกราบท่านเลย
วันที่ 13 วันสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมได้ทำความสะอาดโต๊ะหมู่ และได้นำภาพหลวงปู่(ซึ่งเก็บสอดไว้ในหนังสือไว้หลายปี)
ใส่กรอบขึ้นบูชาช่วงประมาณบ่ายโมง พอตอนเย็นทราบข่าวท่านจากกระทู้นี้ผมรู้สึกใจหายเลย ไม่คิดว่าจะพอเหมาะกันขนาดนี้
ตอนนี้ก็เพียงแต่สวดมนต์ ไหว้พระและระลึกถึงหลวงปู่ตลอดไปครับ

 

สาธุ ขอบารมีองค์หลวงปู่พิศดู คุ้มครองทุกท่านให้เจริญในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา

ขอบคุณท่านทุเรียนทอดมากๆ ที่แจ้งข่าวให้พวกเราได้ทราบมาโดยตลอดครับ

 

สาธุ ขอบารมีองค์หลวงปู่พิศดู คุ้มครองทุกท่านให้เจริญในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา

ขอบคุณท่านทุเรียนทอดมากๆ ที่แจ้งข่าวให้พวกเราได้ทราบมาโดยตลอดครับ

 

สาธุ อนุโมทนาด้วยครับ ถึงใครไม่เคยมากราบหลวงปู่ แต่องค์หลวงปู่เคยบอกไว้ครับว่า
" ไม่จำเป็นต้องมากราบเราที่วัดก็ได้ อยู่บ้านก็กราบได้ อยู่ที่ไหนก็กราบได้หมด "
" ตัวไม่ต้องมาหาก็ได้ เอาใจมา(ระลึกถึง)อย่างเดียวพอ เรารู้ "

การทำบุญกับองค์หลวงปู่ ท่านเคยบอกไว้ว่า ถึงไม่ได้มาทำบุญที่วัดท่าน จะทำที่ไหนก็ได้ เวลาทำก็ให้ระลึกและน้อมถวายบุญแด่องค์หลวงปู่ ชื่อว่าทำบุญได้อานิสงส์ 2 ต่อครับ เรื่องนี้มีตัวอย่างดังที่พี่หอยสังข์เคยกล่าวไว้ครับ คือว่า..
ตอนที่พี่หอยสังข์ไปเที่ยวทำบุญปีใหม่ ได้ไปกับชุดทัวร์ ไปทำบุญกับพระป่าและพระอริยะสงฆ์ทางภาคอีสาน ทุกครั้งที่พี่หอยสังข์ทำบุญก็จะน้อมถวายบุญนี้แด่องค์หลวงปู่พิศดู ทำอย่างนี้ทุกครั้งไป จนกระทั่งเดินทางกลับกรุงเทพฯ ผมเองก็อยู่กับองค์หลวงปู่ที่วัดทุกวัน อยู่ดีๆหลวงปู่ท่านก็บอกว่า " โยมหอยใจบุญพิเศษ "(คำว่าบุญพิเศษนี้ก็คือบุญที่ได้ทำกับพระอริยะสงฆ์เนื้อนาบุญครับ) แล้วหลวงปู่ก็ถามผมว่า กลับไปกรุงเทพฯจะเจอโยมหอยหรือเปล่า ผมบอกว่า เจอครับ.. " เอ้างั้นเราฝากพระปัจเจกโพธิไปให้เขาด้วย 2 องค์ อีกองค์นี่ฝากให้แฟนโยมหอย เอ๊ะ..โยมหอยนี่มีลูกสาวอีกคนด้วยงั้นฝากให้ลูกสาวอีกองค์ "(ซึ่งเรื่องนี้ผมเองตอนนั้นไม่รู้จริงๆว่าพี่หอยสังข์มีลูกสาว แต่หลวงปู่ท่านทราบได้ว่าพี่หอยสังข์มีลูกสาวได้อย่างไรทั้งๆที่แกไม่เคยบอกใคร(ลูกสาวกับภรรยาเก่า) รู้คำตอบทีหลังว่า พี่หอยสังข์พอเวลาทำบุญและน้อมถวายบุญให้กับองค์หลวงปู่เสร็จ ก็จะอธิษฐานแบ่งบุญให้ลูกสาวด้วยทุกครั้ง..) ถ้าไม่ใช่องค์หลวงปู่ท่านมีพระญาณอันแจ่มใสแล้ว มีหรือจะล่วงรู้ได้โดยละเอียดถึงเพียงนี้..

อีกเรื่องหนึ่งเกิดกับผมเองครับ สมัยก่อนผมไปปฏิบัติพระกรรมฐานตามแบบวิชา มโนมยิทธิ จากวัดท่าซุง วันนั้นเป็นวันฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง วันแรกที่ศาลา 12 ไร่ เขากำหนดให้นั่งสมาธิอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง วันนั้นรู้สึกว่าเมื่อยมาก เพราะพื้นที่เขาให้เรานั่งเป็นพื้นปูนปูด้วยเสื่อธรรมดา พอนั่นเสร็จเราก็อุทิศถวายบุญแด่องค์หลวงปู่พิศดูและครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณทั้งหลาย ฯลฯ จากนั้นก็เดินออกมาที่หน้าศาลา กะว่าจะซื้อพรมเอาไว้รองนั่งเวลาทำสมาธิในวันพรุ่งนี้ แต่คิดไปคิดมาก็ขี้เกียจขนกลับ แต่ก็คิดอีกทีถ้าได้พรมสักผืนก็น่าจะดีเอาไว้นั่นที่บ้านก็ได้ แต่ไม่เอาดีกว่าเพราะขี้เกียจขนกลับ และในวันที่สอง ก็นั่งปฏิบัติอีก วันนี้ผลการปฏิบัติดีกว่าเมื่อวานมาก แต่ก็ยังเมื่อยก้นอยู่เพราะพื้นแข็งแต่ก็ไม่เป็นไร พอเรากลับจากที่วัดท่าซุง กลับมาบ้านที่จันท พอดีลุงของผมเขาไปกราบทำบุญกับองค์หลวงปู่พิศดูมา กลับมาเราก็มาเจอกันที่บ้าน ลุงผมบอกว่า เพิ่งไปกราบหลวงปู่พิศดูที่วัดมา หลวงปู่ฝากพรมมาให้ด้วย 1 ผืน เอาไว้ใช้นั่งเวลาทำสมาธิ ครับ นี่แหละครับที่ท่านเคยบอกไม่ผิดจริงๆครับว่า " ลูกศิษยของเรา เราคุม(คุ้มครอง)ได้หมด วันๆเราไม่ได้อยู่ว่างๆเลยนะ เราต้องคอยดูลูกศิษย์เราตลอด ผ่านมาหาเราแล้วมักจะไม่พลาด "



<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 4650878" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>kamolnetr</TD><TD class=alt1>ขอเข้ามาทักทายบ้าง ติดตามอ่านตลอด

น้องข้างบ้าน(กทม)เป็นลูกศืษย์หลวงปู่ สนืทกับแม่ของผมและได้ชวนไปกราบท่านมาแล้ว ไปกันหลายครั้งแล้ว
ยังได้หนังสือบทสวดของท่าน รูปภาพ และสร้อยประคำไม้หอมซึ่งได้รับจากมือท่านเองเลย แม่ผมขอหลวงปู่ให้ผมมาอีก 1เส้น
ตอนนี้ผมเก็บไว้อย่างดีเลยครับ แต่ผมไม่มีวาสนาไปกราบท่านเลย
วันที่ 13 วันสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมได้ทำความสะอาดโต๊ะหมู่ และได้นำภาพหลวงปู่(ซึ่งเก็บสอดไว้ในหนังสือไว้หลายปี)
ใส่กรอบขึ้นบูชาช่วงประมาณบ่ายโมง พอตอนเย็นทราบข่าวท่านจากกระทู้นี้ผมรู้สึกใจหายเลย ไม่คิดว่าจะพอเหมาะกันขนาดนี้
ตอนนี้ก็เพียงแต่สวดมนต์ ไหว้พระและระลึกถึงหลวงปู่ตลอดไปครับ </TD></TR></TBODY></TABLE>
สาธุอนุโมทนาด้วยครับ หลวงปู่อยู่ในใจเราเสมอครับ อย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น ขอบารมีองค์พระมหาอุปคุต และ บารมีองค์หลวงปู่พิศดู คุ้มครองทุกท่านครับ



<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 4652136" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>*Sukhothai*</TD><TD class=alt1>สาธุ ขอบารมีองค์หลวงปู่พิศดู คุ้มครองทุกท่านให้เจริญในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา

ขอบคุณท่านทุเรียนทอดมากๆ ที่แจ้งข่าวให้พวกเราได้ทราบมาโดยตลอดครับ </TD></TR></TBODY></TABLE>
สาธุครับ ข่าวความเคลื่อนไหวของทางหลวงปู่ สามารถติดตามได้ที่นี่เลยครับ ขอบารมีองค์พระมหาอุปคุต และองค์บารมีหลวงปู่พิศดู คุ้มครองลูกศิษย์ ลูกหลานทุกๆท่านครับ สาธุ



.

 

คุณบัติ จัดโรงทานไหม เดี๋ยวจะช่วยร่วมบุญ

 

สาธุ อนุโมทนาด้วยครับ ถึงใครไม่เคยมากราบหลวงปู่ แต่องค์หลวงปู่เคยบอกไว้ครับว่า
" ไม่จำเป็นต้องมากราบเราที่วัดก็ได้ อยู่บ้านก็กราบได้ อยู่ที่ไหนก็กราบได้หมด "
" ตัวไม่ต้องมาหาก็ได้ เอาใจมา(ระลึกถึง)อย่างเดียวพอ เรารู้ "

การทำบุญกับองค์หลวงปู่ ท่านเคยบอกไว้ว่า ถึงไม่ได้มาทำบุญที่วัดท่าน จะทำที่ไหนก็ได้ เวลาทำก็ให้ระลึกและน้อมถวายบุญแด่องค์หลวงปู่ ชื่อว่าทำบุญได้อานิสงส์ 2 ต่อครับ เรื่องนี้มีตัวอย่างดังที่พี่หอยสังข์เคยกล่าวไว้ครับ คือว่า..
ตอนที่พี่หอยสังข์ไปเที่ยวทำบุญปีใหม่ ได้ไปกับชุดทัวร์ ไปทำบุญกับพระป่าและพระอริยะสงฆ์ทางภาคอีสาน ทุกครั้งที่พี่หอยสังข์ทำบุญก็จะน้อมถวายบุญนี้แด่องค์หลวงปู่พิศดู ทำอย่างนี้ทุกครั้งไป จนกระทั่งเดินทางกลับกรุงเทพฯ ผมเองก็อยู่กับองค์หลวงปู่ที่วัดทุกวัน อยู่ดีๆหลวงปู่ท่านก็บอกว่า " โยมหอยใจบุญพิเศษ "(คำว่าบุญพิเศษนี้ก็คือบุญที่ได้ทำกับพระอริยะสงฆ์เนื้อนาบุญครับ) แล้วหลวงปู่ก็ถามผมว่า กลับไปกรุงเทพฯจะเจอโยมหอยหรือเปล่า ผมบอกว่า เจอครับ.. " เอ้างั้นเราฝากพระปัจเจกโพธิไปให้เขาด้วย 2 องค์ อีกองค์นี่ฝากให้แฟนโยมหอย เอ๊ะ..โยมหอยนี่มีลูกสาวอีกคนด้วยงั้นฝากให้ลูกสาวอีกองค์ "(ซึ่งเรื่องนี้ผมเองตอนนั้นไม่รู้จริงๆว่าพี่หอยสังข์มีลูกสาว แต่หลวงปู่ท่านทราบได้ว่าพี่หอยสังข์มีลูกสาวได้อย่างไรทั้งๆที่แกไม่เคยบอกใคร(ลูกสาวกับภรรยาเก่า) รู้คำตอบทีหลังว่า พี่หอยสังข์พอเวลาทำบุญและน้อมถวายบุญให้กับองค์หลวงปู่เสร็จ ก็จะอธิษฐานแบ่งบุญให้ลูกสาวด้วยทุกครั้ง..) ถ้าไม่ใช่องค์หลวงปู่ท่านมีพระญาณอันแจ่มใสแล้ว มีหรือจะล่วงรู้ได้โดยละเอียดถึงเพียงนี้..

อีกเรื่องหนึ่งเกิดกับผมเองครับ สมัยก่อนผมไปปฏิบัติพระกรรมฐานตามแบบวิชา มโนมยิทธิ จากวัดท่าซุง วันนั้นเป็นวันฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง วันแรกที่ศาลา 12 ไร่ เขากำหนดให้นั่งสมาธิอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง วันนั้นรู้สึกว่าเมื่อยมาก เพราะพื้นที่เขาให้เรานั่งเป็นพื้นปูนปูด้วยเสื่อธรรมดา พอนั่นเสร็จเราก็อุทิศถวายบุญแด่องค์หลวงปู่พิศดูและครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณทั้งหลาย ฯลฯ จากนั้นก็เดินออกมาที่หน้าศาลา กะว่าจะซื้อพรมเอาไว้รองนั่งเวลาทำสมาธิในวันพรุ่งนี้ แต่คิดไปคิดมาก็ขี้เกียจขนกลับ แต่ก็คิดอีกทีถ้าได้พรมสักผืนก็น่าจะดีเอาไว้นั่นที่บ้านก็ได้ แต่ไม่เอาดีกว่าเพราะขี้เกียจขนกลับ และในวันที่สอง ก็นั่งปฏิบัติอีก วันนี้ผลการปฏิบัติดีกว่าเมื่อวานมาก แต่ก็ยังเมื่อยก้นอยู่เพราะพื้นแข็งแต่ก็ไม่เป็นไร พอเรากลับจากที่วัดท่าซุง กลับมาบ้านที่จันท พอดีลุงของผมเขาไปกราบทำบุญกับองค์หลวงปู่พิศดูมา กลับมาเราก็มาเจอกันที่บ้าน ลุงผมบอกว่า เพิ่งไปกราบหลวงปู่พิศดูที่วัดมา หลวงปู่ฝากพรมมาให้ด้วย 1 ผืน เอาไว้ใช้นั่งเวลาทำสมาธิ ครับ นี่แหละครับที่ท่านเคยบอกไม่ผิดจริงๆครับว่า " ลูกศิษยของเรา เราคุม(คุ้มครอง)ได้หมด วันๆเราไม่ได้อยู่ว่างๆเลยนะ เราต้องคอยดูลูกศิษย์เราตลอด ผ่านมาหาเราแล้วมักจะไม่พลาด "


ขอบคุณครับพี่ทุเรียนทอด อ่านแล้วดีใจครับถึงเเม้ไม่ทันตอนหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ สาธุครับ

 

ต้องขออนุโมทนาพี่ทุเรียนทอดมากนะคะ ที่นำเรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงปู่มาให้ได้อ่านกัน นี่และค่ะพระอรหันต์ขั้นปฏิสัมภิทาญาณ ญาณท่านแจ่มใสมากๆค่ะ โดยส่วนตัวศรัทธาในองค์ท่านทั้งในข้อวัตร ปฏิปทาและคุณธรรมแบบไม่มีข้อสงสัยเลยจริงๆค่ะ ทุกวันนี้ก็อารธนาพระที่องค์หลวงปู่ได้อธิษฐานจิต แขวนติดตัวไปไหนมาไหนค่ะ โดยส่วนตัวรู็้สึกว่าเพียงองค์เดียวก็สามารถคุมครองได้ 108 เลยค่ะ อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าเชียร์พระหลวงปู่ อิอิ...แต่ก็อย่างที่พี่ทุเรียนทอดกล่าวไว้ข้างต้นนั่นแหล่ะค่ะว่า หลวงปู่ท่านกล่าวว่าถึงแม้ไม่มีเครื่องรางของหลวงปู่ แต่ถ้าคิดถึงท่านๆก็ช่วยได้หมด ไม่ว่าอยู่มุมไหน ยังไงรบกวนพี่ทุเรียนทอดนำเรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงปู่มาถ่ายทอดให้ได้อ่านกันอีกเรื่อยๆนะคะ คอยติดตามอยู่ค่ะ (||)^-^

 

เมื่อคืนเจอเจ้าของกระทู้ได้ฝากปัจจัยเป็นเจ้าภาพ1คืนไปแล้วครับ มีพี่สาวและน้องที่กทม.ร่วมเป็นเจ้าภาพ ท่านใดที่มีเวลาอยากให้ไปกราบสรีระหลวงปู่ที่วัดกันครับ ไปร่วมทำบุญ วันนี้ได้กราบสรีระหลวงปู่และร่วมทำบุญจิตกาธานด้วยครับ

 

พี่หนูขอยืนยันอีกคนว่าข้อความของหลวงปู่ที่น้อง x กล่าวมานี้จริงแท้ที่สุดค่ะ... ความรักและความเมตตาที่หลวงปู่มีต่อลูกศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาในองค์ท่านนั้นหาค่าประมาณมิได้เลย ขนาดพี่หนูอยู่ไกลถึง Norway หลวงปู่ท่านยังเมตตามาหาถึงที่นี่ มาในลักษณะที่ไม่ได้พูดให้ได้ยินและไม่ได้ปรากฏกายให้เห็นแต่รู้ได้ทันทีว่าเป็นท่าน

ขอนมัสการกราบในความเมตตาที่หลวงปู่มีต่อหนูตลอดมาค่ะ