อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ปิติมากเลยครับที่เห็นพี่ๆสวดคาถานกยูงทองเหมือนผม...

หรือเรียกว่าคาถา โมรปริตร อ่ะครับ....ขออนุโมทนากับพี่โญและพี่ตี๋ด้วยครับ..

สำหรับคาถาบทนี้ผมเองก็เพิ่งสวดเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา จนทุกวันนี้สวดได้ขึ้นใจครับ...

เวลาสวดทีไรก็มักจะระลึกไปถึงใบหน้าครูบาอาจารย์สายป่าล้วนๆน่ะครับ..

 

วันนี้พี่ปูโดน "เด็ก" สะกดเป็นพัก ๆ

 

เรื่องอารมณขันของหลวงปู่อ่อนสา เกี่ยวกับคาถาพญายูงทอง

หลวงปู่เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า
ท่านเห็นหลวงปู่มั่นเขียนลงบนแผ่นตะกรุดให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่สกลนครในช่วงสงครามโลก ต่อมาภายหลังท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ก็ใช้หัวใจพญายูงทองนี้ จารึกไว้ในวัตถุมงคลของท่านมาโดยตลอด
แล้วหลวงปู่ท่านก็พูดต่อพร้อมกับหัวเราะว่า

"แต่นกยูงทองตัวผู้แพ้ตัวเมีย (แพ้ผู้หญิง)"

ปล.จากหนังสือ "พุทโธ พระอ่อนสา" หน้า ๑๘๘

 

ยินดีด้วยกับ คุณนอร์ ที่สวด โมรปริตได้ไปไหนมาไหนมักปลอดภัยเสมอ ผมเชื่อที่ผมปลอดภัยมาได้จนทุกวันนี้ก็น่าจะเป็นบทนี้มีส่วนด้วยครับ

 

เห็นด้วยครับ...อ่านประวัติหลวงปู่ชา หลวงปูเทศน์ และอีกหลายรูปก็เกือบพ่ายแพ้แก่นกยูงทองตัวเมีย ครับ

 

หลวงปู่สาม กับ หลวงปู่อ่อนสา

จากหนังสือ "พุทโธ พระอ่อนสา สุขกาโร" หน้า ๑๔๒

ในหนังสือ "อกิญจโนบูชา" อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่สาม อกิญจโน
วัดป่าไตรวิเวก อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีรูปถ่ายของหลวงปู่ในขณะเข้าเยี่ยมอาการอาพาธของหลวงปู่สาม ได้นำรูปดังกล่าวให้หลวงปู่ท่านดู เมื่อหลวงปู่ท่านเห็นก็หัวเราะแล้วเล่าว่า

"เฮาไปถามเพิ่นเด้ ว่าเป็นหยังคือบ่หัว"
(เราไปถามท่านนะ ว่าทำไมถึงไม่เคยหัวเราะ?)

เนื่องจากหลวงปู่สามท่านเป็นพระที่เงียบขรึมพูดน้อยไม่มีรูปใดเลยที่เราจะได้เห็นท่านยิ้มหรือหัวเราะ หลวงปู่เองก็รู้จักกันกับหลวงปู่สามมาก่อน และท่านเข้าใจในปฏิปทาของหลวงปู่สามดี แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้ ท่านก็เลยขยับเข้าไปใกล้ ๆ ถามหลวงปู่สามเพราะเกรงว่าท่านจะไม่ได้ยิน แล้วหลวงปู่สามก็ตอบด้วยเสียงอันดังว่า

"ถามหยัง" (ถามทำไม?)

หลวงปู่ท่านก็หัวเราะแต่หลวงปู่สามท่านก็เงียบไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะอีกเหมือนเดิม

เรื่องนี้หลวงปู่เล่าไปหัวเราะไป หลวงปู่เมื่อเวลากล่าวถึงครูบาอาจารย์ท่านอื่นท่านมักจะเล่าอย่างอารมณ์ดีอย่างนี้เสมอ ๆ

นโม วิมุตฺตานํ

ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย

นโม วิมุตฺติยา

ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรมความหลุดพ้นของท่านเหล่านั้น

​

 

คล้ายๆจะเป็นปริศนาธรรมนะครับเนี๊ยพี่โญ,พี่ตี๋..อิอิ (เป็นอันเข้าใจคร้าบ) (^_^)

ขอบคุณพี่ทั้งสองที่นำข้อมูลและเกร็ดเล็กๆน้อยๆมาแชร์กันนะครับ ^^

 

จริงครับ...ลป.สาม ท่านพูดน้อยมาก ถ้าไปสนทนากับท่านเรื่องทางโลกหรือเรื่องไร้สาระ ผมเคยพาพวกพี่ๆเขาไปกราบลป.สามตอนออกจากที่พักพีเขาคุยกันว่าต้องหาโอกาสถามว่าหวยงวดนี้จะออกอะไร ผมนึกในใจว่าโดนลป.ต่อว่าแน่ พอไปถีงวัดลป.นั่งรอพร้อมกับเณรน้อยมีขวดน้ำกับแก้วเตรียมต้อนรับ พอขึ้นบนกุฏิไม้กราบท่านเสร็จ ท่านกล่าวเบาพอได้ยินกันทุกคนว่า" ที่นี่ไม่ใช่ที่ขอหวย มีแต่ธรรมะจะเอาหรือเปล่า"แล้วท่านก็ไม่กล่าวอะไรอีก พี่เขานั่งเงียบหน้าถอดสีต้องกราบขอขมาท่านอยู่กันไม่นานต้องรีบกราบลา ตอนกลับพี่บางคนถึงกับหลุดปากว่าคงไม่กล้ามากราบลป.อีกเพราะกลัวท่านจะรู้ความคิดของตัวเอง
แต่ถ้าเป็นเรื่องธรรมะจะปฏิบัติอย่างไร สงสัยอะไร ลป.ท่านจะให้ความกระจ่างและจะมีโอกาสได้สนทนากับท่านอย่างไม่จำกัดเวลา ถ้าท่านไม่ติดกิจนิมนต์ใดๆ ผมเคยสนทนาขอความรู้วิธีปฏิบัติจากลป.เป็นเวลานานนับชั่วโมง หลายครั้ง ผมจึงศรัทธาและเชื่อมั่นในลป.เป็นที่สุดและถือว่าท่านเป็นครูบาอาจารย์รูปแรกของผม...ครับ

 

พระอุปคุต ลพ.โอภาส โอภาโส วัดจองคำ อ.งาว จ.ลำปาง

 

งดงามมากครับพี่ตี๋... (^_^)


พุทธศิลป์น่ารักมากๆเลยคับ..

 

สวัสดีครับคุณโญ ภาพนี้ครับ

 

ใช่เลยครับพี่ตี๋ ผมหาใน net ไม่เจอเลยไม่ได้ลงภาพประกอบ <a href="http://emoticon.ohozaa.com" target="_blank"><img src="http://emoticon.ohozaa.com/datas/emoticon/Onion/04a30356.gif" border="0" alt="04a30356.gif" /></a>

 

เป็นพุทธศิลปแบบพม่าครับ เพราะลพ.โอภาส โอภาโส ท่านเป็นพระพม่าที่จำพรรษาอยู่ในประเทศไทย วัดจองคำ อ.งาว จ.ลำปาง และได้รับชั้นยศเป็น พระราชปริยัติโยดม ยังหาประวัติไม่ได้ครับ

 

คืนนี้ขอนำเสนอสุดยอดพิมพ์นิยมประจำบ้านเกิด อ.บางสะพานใหญ่ จ.ประจวบครับ.

พระผงหลังยันต์สามโรยแร่ หลวงปู่ท้วม ธมมสโร วัดเขาโบสถ์ .

เพิ่งเลี่ยมแขวนสดๆร้อนๆ ^^












หลวงพ่อท้วม เดิมชื่อ””ท่วม รุ่งเรือง”” เกิดที่บ้านวังขอน ตำบลนาพร้าหัก อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2434 โยมมารดา ชื่อ ยิ้ม รุ่งเรือง โยมบิดาไม่ปรากฏชื่อ มีพี่น้องรวม 2 คน คือ หลวงพ่อท้วม และน้องชาย ชื่อ “ขาว รุ่งเรือง” ในวัยเด็กหลวงพ่อท้วม เป็นคนเงียบขรึม พูดจริงทำจริง เอาใจใส่การบ้านการเรือน และ ชอบแสวงหาความรู้อยู่เป็นนิจ โยมมารดาและโยมบิดาจึงนำไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อช่วย เจ้าอาวาสวัดทุ่งมะพร้าว ตั้งแต่เยาว์วัย หลวงพ่อช่วยได้พาเด็กชายท่วม รุ่งเรือง ไปบวชเป็นสามเณร ที่วัดท่าม่วง อำเภอบางสะพานน้อย ในปัจจุบัน โดยมีพระครูศีลวิมล (ทิม)เจ้าคณะอำเภอบางสะพานในสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์แล้วกลับมาอยู่ร่ำเรียนวิชาความรู้กับหลวงพ่อช่วย ณ วัดทุ่งมะพร้าว จนเมื่ออายุครบ 20ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และเผยแผ่หลักธรรมคำสอนตามแนวทางพระพุทธศาสนา โดยศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย อยู่ ณ วัดทุ่งมะพร้าว จนถึงปี พ.ศ. 2454 ก็ได้รับอาราธนาเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาโบสถ์ องค์ที่ 2 หลังการมรณภาพลงของหลวงปู่อินทร์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาโบสถ์ องค์แรกในปี พ.ศ. 2450
ผลงานแห่งความภาคภูมิใจ หลวงพ่อท้วมได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ และเวลาในการสร้างสรรค์ พระอุโบสถ หน้าบัน ภปร. บนยอดเขา ซึ่งเป็นศิลปะก่อสร้างที่เป็นเกียรติภูมิของชาวบางสะพาน โดยเริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 แล้วเสร็จ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในปี พ.ศ. 2521 โดย ในปี พ.ศ. 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงยกช่อฟ้าอุโบสถบนยอดเขา ณ วัดเขาโบสถ์ ยังความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรชาวบางสะพานอย่างหาที่สุดมิได้ และด้วยบุญบารมีของหลวงพ่อท้วม พระอุโบสถ หน้าบัน ภปร. บนยอดเขา จึงเป็นพุทธสถานคู่บ้านคู่เมือง เป็นศรีสง่าจนถึงทุกวันนี้
หลวงพ่อท้วมมีจิตปณิธานแน่วแน่ในเรื่องการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา โดยจัดตั้งโรงเรียนสอนบาลี ในปี พ.ศ. 2493 และตั้งมูลนิธิศีลวิมล (ท่วม รุ่งเรือง) โดยส่ง ลูกศิษย์ไปศึกษาปริยัติธรรม และกลับมาสอนในโรงเรียนบาลี นับเป็นกุศโลบายที่แยบยล ทำให้โรงเรียนสอนบาลีของหลวงปู่ท้วม มีลูกศิษย์ที่มีคุณภาพ ประสบผลสำเร็จในการเล่าเรียน(116ปี พระครูศีลวิมล (หลวงพ่อท้วม) วัดเขาโบสถ์ พระอารามหลวง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์:2550)
หลวงพ่อท้วมละขันธ์ถึงกาลมรณภาพอย่างสงบเมื่อเวลา 17.00น. เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2527 ณ วัดเขาโบสถ์ โดยศพของหลวงพ่อท้วม ได้บรรจุไว้ในโลงมุขแก้ว ณ กุฏิศีลวิมลนุสรณ์ ให้ลูกศิษย์และญาติโยมกราบไหว้ จนถึงปัจจุบัน
วัตถุมงคลหลวงพ่อท้วม ถือเป็นมงคลสูงสุดแห่งชีวิต ผู้ใดมีไว้จะมีความอุ่นใจ พุทธคุณเข้มขลังไปในทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย และมีบ้างในทางคงกระพัน วัตถุมงคลของหลวงพ่อท้วมที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ผ้ายันต์เขียนมือ ผ้ายันต์เทพรัญจวน เสื้อยันต์ ตะกรุด แหวนอาร์ม เหรียญอาร์มทองคำ เหรียญห้าเหลี่ยมรุ่นแรก เหรียญห้าเหลี่ยมรุ่นสอง เหรียญกลมหลวงพ่อท้วมหลังหลวงปู่อินทร์ เหรียญอาร์มทองแดง เหรียญรับเสด็จ เหรียญเสมาลงยา พระบูชารุ่นแรก รูปหล่อลอยองค์รุ่นแรก รูปเหมือนปั๊มหลวงปู่อินทร์รุ่นแรก และสมเด็จหูบายศรีเนื้อว่านสบู่เลือด เป็นต้น









​

 

สวัสดีครับพี่ตี๋ใหญ่

สวยแบบแปลกตาดีครับกับพุทธศิลป์แบบพม่า ^^

 

สวัสดีครับพี่โญ

ผมชอบภาพถ่ายแนวนี้ของพี่โญมากๆครับ

 

สวัสดีครับท่านนายกปู

ระดับปูรมาจารย์เนี่ย ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านกล้องได้สุดยอดเลยครับ

แค่เห็นภาพถ่ายหลวงปู่ทวดก็ยิ่งเพิ่มความศรัทธาบวกเข้าไปเพิ่มอีกเลยครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่ตี๋ใหญ่ พี่รุ่ง คุณเอ๊ะ คุณปู คุณโญ คุณกูล คุณชาญ คุณบอย คุณภัทร์ คุณตุ้ม คุณนอร์ คุณเอ็ม คุณนาย คุณเคี้ยว คุณโอ๊ต น้องนิก และทุกๆท่านครับ