เรื่องเด่น เพ่งพินิจ "..ความตาย.."(มรณานุสสติ)

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 26 พฤษภาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ?temp_hash=e0c1417607608f3c50999c1e147b2e76.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    33720425_253508068549717_6659802870730194944_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    37210366_1790214787695087_2290085813586755584_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ?temp_hash=1215f798390989e759662d7d03c9ef1e.jpg

    วิชาความตายกำลังจะถูกบรรจุให้นักเรียนได้เริ่มเรียนรู้ นี่คือข้อเสนอจากสมาคมการแพทย์แห่งรัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย
    .
    โดย ดอกเตอร์ริชาร์ด คิดด์ แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ผู้มีความสนใจเรื่องการดูแลแบบประคับประคองผู้สูงอายุและการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต ได้กล่าวถึงจุดประสงค์นี้ว่า "พวกเราต้องการให้คนหนุ่มสาวคุ้นเคยกับการพูดคุยเกี่ยวกับจุดจบของชีวิต พวกเขาควรได้รับความรู้ต่างๆ รวมถึงแง่มุมทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เรียนรู้วิธีการร่างเจตจำนง ได้รู้ว่าจะต้องเริ่มเตรียมตัวอย่างไร รวมทั้งวิธีสื่อสารเรื่องการเตรียมตัวตายกับคนในครอบครัวได้”
    .
    ดอกเตอร์ริชาร์ดยืนยันว่า วิชานี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนอย่างแท้จริง
    .
    ที่มา : www.bbc.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    42615290_2149371685127588_8038299077084971008_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    c_oc=AQkhHCmhHWNFpDybd7HMJH5JIm8bKb0r6vU_xc7dF6SeO8s5mlQmQb_dvFsPinf68ik&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg





    ความตายนั้นไม่มีนิมิต ไม่มีเครื่องหมาย ไม่ขึ้นอยู่กับอายุ เด็กเล็กกว่าเราก็ตายไปมากแล้ว คนรุ่นเดียวกับเราก็ตายไปให้เห็นมากต่อมาก คนอายุมากกว่าเรายิ่งไม่ต้องกล่าวถึง ตายไปมากเหลือเกินแล้ว เราเองนั้นก็จะต้องตายเช่นกัน

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า สัตว์โลกเกิดมาเท่าไรตายหมดเท่านั้น แต่ว่าการเกิดใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่า คือใช้เวลาในการปฏิสนธิ ๑๐ เดือน ไม่เหมือนกับการตายที่ใช้ระยะเวลา ๖๐ – ๗๐ ปี ถ้าหากว่าไม่ใช่อุปฆาตกรรมมาตัดรอน เมื่อระยะเวลาห่างกันมาก จึงทำให้เรารู้สึกว่าเกิดมากกว่าตาย แต่ความจริงไม่ว่าใครเกิดมาก็ต้องตาย สุดท้ายเกิดเท่าไรก็ตายหมดเท่านั้น แล้วความตายนี้ยังอยู่กับเราทุกลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออกแล้วไม่หายใจเข้าไปใหม่ก็ตายอีกเช่นกัน

    เมื่อความตายใกล้ชิดกับเราขนาดนี้ จึงเป็นเรื่องปกติที่เราจะประมาทไม่ได้ จำเป็นต้องเร่งขวนขวายเตรียมพร้อมให้มากที่สุด ความตายที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ของน่ากลัว เป็นเพียงการเปลี่ยนรูปเปลี่ยนขันธ์ไปเท่านั้น ถึงเวลาบุญบาปที่เราสร้างมา ก็นำพาเราไปสู่ภูมิต่าง ๆ ตามการกระทำของตน

    เมื่อเป็นดังนั้น การเวียนตายเวียนเกิดในวัฏฏสงสาร จึงเปรียบเสมือนกับบุคคลที่เดินทางไกล โดยเฉพาะถ้าท่านทั้งหลาย ที่ยังไม่มั่นคงต่อจุดหมายปลายทาง เท่ากับว่าเป็นการเดินทางไกลที่มองไม่เห็นจุดหมายเลย เมื่อเป็นอย่างนั้น เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด คือการสั่งสมคุณความดีให้มากที่สุด

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
    วันอาทิตย์ที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๓

    ภาพ : พระอาจารย์เมตตาถ่ายภาพร่วมกับคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา และครอบครัว ในงานถวายพระพุทธพลังจิตทองคำ ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี โรงพยาบาลศิริราช วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘

    ที่มา www.watthakhanun.com

    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
     
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ขอเชิญร่วมสวดพระคาถาเงินล้านและเจริญพระกรรมฐาน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    และกองกรรมฐานวันนี้ พรหมวิหาร ๔ เพื่อร่วมกันส่งคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา เป็นครั้งสุดท้าย (ฌาปนกิจศพวันนี้ ๑๖.๐๐ น.)
    และท่านสามารถร่วมสวดพระคาถาเงินล้านและเจริญพระกรรมฐานพร้อมกับคณะพระภิกษุสงฆ์ได้ในเวลา ๑๙.๐๐ น. ของทุกวันโดยผ่านทางเพจสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีแห่งนี้
    ............................................
    ๖๐ ปี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    #คิวที่ไม่มีใครอยากแซง

    ทุก ๆ นาที มีคนต้องจากลาโลกใบนี้ไป
    เราทุกคน “เข้าคิว” โดยไม่รู้ตัวว่าลำดับใด

    เราไม่เคยรู้ว่า... มีกี่คนที่อยู่ข้างหน้าเรา
    เราไม่สามารถย้ายไปท้ายแถวได้
    เราไม่สามารถก้าวออกจากแถวได้
    เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้

    ดังนั้นในขณะที่เรารออยู่...
    จงทำทุกนาทีให้มีค่า เหมือนดังว่า...
    จะไม่มีวันพรุ่งนี้ อีกแล้ว !

    จงสร้างรอยยิ้ม ความสุข
    และเสียสละเผื่อแผ่ให้คนรอบข้าง

    ควรสร้างสิ่งดีๆให้แผ่นดินเกิด โลกที่อาศัย
    จงกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ บุพการี ตอบแทนคุณ
    หมั่นแสดงออก และบอกคนในครอบครัวว่า...
    คุณยังรักและห่วงใยเขาเสมอ

    ก่อนจะทำอะไร ต้องมีสติแน่ใจว่า...
    ทำไปแล้วจะไม่เสียใจ กับผลที่ตามมา
    อะไรเป็นประโยชน์ตนและส่วนรวมให้ลงมือทันที
    อะไรเบียดเบียนตน เป็นโทษต่อสังคม ให้ลดละเลิก

    เราต้องเตือนตัวเองเสมอว่า...
    เราเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในคิว
    ให้คิดถึงว่าการจากลาเป็นสิ่งแน่นอน
    แล้วจะเห็นคุณค่าของ "เวลา"

    ทำความดีทุกเวลาที่อยู่ในคิว
    ในเมื่อเวลายังไม่หมด อย่าหยุดสร้างกุศล
    กุศลจะเป็นตั๋วเดินทาง ไปยังถิ่นฐานที่ปลอดภัย
    อกุศลจะเป็นตั๋วเดินทาง ไปยังถิ่นฐานที่อันตราย

    เราไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่า...
    "วันนั้นจะมาถึงเมื่อไร"

    จงสร้างเหตุ สร้างปัจจัยให้ตนเองไว้เสมอ
    เพราะผลลัพธ์ภพภูมิที่ไป ย่อมมาจากกรรมที่สร้าง ทีนี้..ก็อยู่ที่ว่า จะสร้างบุญ หรือ บาป อยู่ที่คุณเลือกเอา

    _________________________________________



    mrwhCsuJiemkiOOayjH_oJM_wLWbM8leWz9veEisHUjEPqNVzUHdnMxeG2yflEvEYAmRoFgE&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    อันไหนล่ะ ของคนรวย
    อันไหนล่ะ ของคนจน
    อันไหนล่ะ ของคนที่เจ้ารัก
    อันไหนล่ะ ของคนที่รักเจ้า
    อันไหนล่ะ ของคนที่เจ้าเกลียด
    อันไหนล่ะ ของคนที่เกลียดเจ้า
    อันไหนล่ะ ของคนที่สูงส่ง
    อันไหนล่ะ ของคนที่ต่ำสุด
    อันไหนล่ะ ของคนดี
    อันไหนล่ะ ของคนชั่ว
    อันไหนล่ะ ของคนสวย
    อันไหนล่ะ ของคนหล่อ
    อันไหนล่ะ ของคนขี้เหร่
    ความตาย....ไม่.....มีแบ่ง...........แยกเรื่องเพศ
    ความตาย....ไม่.....มีขอบเขต.....เรื่องศาสนา
    ความตาย....ไม่.....จำกัด...........วันเวลา
    ความตาย....ไม่.....นำพา...........เรื่องของวัย
    ความตาย....ไม่.....กำหนด.........เรื่องชนชั้น
    ความตาย....ไม่.....สำคัญ...........ตายที่ไหน
    ความตาย....ไม่.....มีแบบอย่าง....ตายอย่างไร
    ความตาย....ไซร้...เท่านั้น..........นิรันดร

    CR เรื่องเล่าชาวสยาม

    ?temp_hash=fecfd2c080d905374e7e3260abc2b21f.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    v4lD0zB5tPE1olVujTGe9_RCZ0arRKy5H--8l_T7I3zE&_nc_ohc=JNTWmW9WODgAX9XVEyk&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg


    ...ทำบุญใหญ่ควรตั้งจิตอธิษฐานว่าอย่างไร ?

    ทำบุญอะไรอธิษฐานให้ดี ตอนตายขอให้จิตใจของเราผ่องใส ขอไว้เลยนะ เมื่อถึงวาระที่ลูกต้องออกจากร่างกาย ขอให้บุญกุศลที่ลูกสะสมมาตั้งแต่ในอดีต ทุกชาติที่สั่งสมความดีมา ขอพึ่งบารมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์พรหมและเทวดา ได้โปรดสงเคราะห์ลูก ถ้าหาก จะถึงเวลาใกล้จะตาย 3 วัน 7 ก็ตามแต่เถอะ ขอให้กุศลผลบุญที่มีกำลังใหญ่ จงมาเข้าครอบงำจิตใจลูก ตลอดจนกว่าลูกจะออกจากร่างกายนี้ไปเสีย อย่าให้อกุศลกรรมอันใดแม้จะมีกำลังมากมายเท่าไหร่ ก็อย่าเข้ามากระทบจิตใจของเรา ให้มีความทุกข์หรือมีความเดือดร้อน มีผลไปตามที่อกุศลกรรมมันต้องการเลย
    ขอให้หนทางที่มันจะปิดกั้นไม่ให้เราไปนิพพาน มันถูกทำลายลงเสียบ้าง อะไรที่เป็นกรรมหนักที่ทำมา จะขวางเรา ก็ให้มันมีบุญใหญ่มาขวางไว้บ้าง ขอให้พระเมตตามาสงเคราะห์สอนเราบ้าง ครูบาอาจารย์ มีหลวงพ่อเป็นที่สุด ช่วยเมตตาสั่งสอน ก่อนลูกออกจากร่างด้วย เธอไม่ขอ ไม่มานะ เทวดาก็ดี พรหมก็ดี พระก็ดี จะทำให้กับเธอ ก็ต่อเมื่อเธอมีจิตปรารถนา หากเธอไม่ได้ปรารถนาไว้ ท่านเหล่านั้นก็สงเคราะห์เธอไม่ได้เหมือนกัน
    ตอนที่ตายเราจะต้องมีบุญใหญ่ มีบุญที่มีกำลังใหญ่อย่างเช่น กฐินทาน บุญถวายสังฆทาน บุญทำวิหารทาน เป็นบุญใหญ่ บุญที่หล่อพระ สร้างพระ เช่าพระมาถวาย ทุกอย่างเป็นบุญที่หาพยาน ในการตั้งจิตอธิษฐานได้ไม่ยาก เพราะเธอจะอ้างถึงว่า ลูกได้ตั้งใจทำถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ขอบูชาคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ และลูกก็ขอให้ ผลบุญที่ลูกได้กระทำมาทั้งหมด จงมามีผล ในยามที่ลูกจะออกจากร่างกายนี้ไปเสีย อย่าให้อกุศลกรรมใดๆ มาขวางหนทางที่ลูก จะไปให้พ้นจากอบายภูมิ ไปให้ถึงซึ่งพระนิพพานได้เลย เธอก็อธิษฐานกันของเธอไว้ ถึงเวลา ก็จะมีผลตามที่เธอปรารถนาเสมอ เพราะทุกครั้งเวลาเธออ้าง เธออ้างบุญที่เธอสร้างมา อ้างคุณพระพุทธเจ้าทรงเป็นพยาน ในความดีที่เธอตั้งจิต
    ลองไปฟังไฟล์ทรงคุณค่านี้เพิ่มนะครับ ยึดเอาไว้ใช้ เอาไว้คิด ได้ตลอดทั้งชีวิตเลยครับ
    https://youtu.be/gEe7rTgt1tY
    หาไม่ได้อีกแล้วครับที่จะมีใครรักเราเหมือนหลวงพ่อ
    Credit: FB รัตนะ พลภักดี
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    NPgmc11BsyrzaOYVCkhFqX3-_EFV94MBABkjcD-sUW-K&_nc_ohc=iTN4BMMyFQgAX_S_cBr&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี


    1f496.png ชีวิตของเราอยู่ใกล้ความตายมาก อยู่ใกล้ชนิดที่ว่า ถึงเราจะไม่ประมาทอย่างไร คนอื่นเขาก็ช่วยประมาท ดังนั้น..สิ่งที่สมควรทำที่สุดก็คือ ใจเราต้องเกาะพระ เกาะเทวดา เกาะการภาวนา เกาะพระนิพพาน เกาะอะไรให้ได้สักอย่างหนึ่ง เกาะต่ำไปต่ำ เกาะสูงไปสูง ปล่อยวางหมดไม่เกาะอะไรเลยก็ไปพระนิพพาน

    พวกเราบางทีภาวนาไป ทำวันละนิดวันละหน่อย ฟุ้งซ่านบ้าง ดีบ้าง ภาวนาบ้าง ด่าชาวบ้านบ้าง เห็นว่าตัวเองไม่มีอะไรดี แต่ว่าต้องลอง เพราะว่าถ้าหากว่าเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา เราจะรู้ทันทีเลยว่าต้นทุนของเราพอไหม ?

    เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาทุกอย่างจะรู้สึกเหมือนกับช้ามาก เพราะว่าสภาพจิตของเราเร็วกว่า เหตุที่สภาพจิตเร็วกว่าเพราะว่ามีการสั่งสมมา ความเร็วจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วความแหลมคมว่องไวไม่พอ ก็จะทำให้ตามกิเลสไม่ทัน ป้องกันกิเลสไม่ได้
    1f496.png

    ดังนั้น..ยิ่งทำต้องยิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ถึงจะใช่ บางสำนักบอกว่า การปฏิบัติต้องยิ่งช้ายิ่งดี อันนั้นไม่จริง ถ้ายิ่งช้ายิ่งดีนี่ผิดทางแน่นอน การปฏิบัติธรรมนั้น สภาพสติ สมาธิ ปัญญา จะแหลมคมว่องไวขึ้นไปเรื่อย ๆ การทำอะไรจะเร็วขึ้น แต่เป็นการเร็วโดยไม่ผิดพลาด คราวนี้พอเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา อย่างเช่นว่าอุบัติเหตุกะทันหัน เราตกใจไหม ? ท่านที่ปฏิบัติมาส่วนใหญ่ไม่ตกใจหรอก มีสติอยู่พร้อม ตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา ผ่อนหนักเป็นเบาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

    หรือไม่ก็อีกทีหนึ่งเจ็บไข้ได้ป่วยหนัก ๆ จะตาย หรือว่าหมอนัดผ่าตัด ใจสั่นริก ๆ เลย งานนี้จะรอดไหมหนอ ? คนปฏิบัติมาเขาไม่เสียเวลาคิด แต่ส่งใจไปเกาะพระ เกาะพระนิพพานไปเลย ถ้าตายเมื่อไรขออยู่ตรงนี้แหละ จบกันแค่นี้ จะเห็นว่าสภาพร่างกายมีความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นปกติ พยาธิธัมโมมหิ พยาธิง อะนะตีโต เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่อาจล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ เห็นธรรมดา ปล่อยวาง พยายามรักษาทุกอย่างแล้วแก้ไม่หายต้องถึงมือหมอ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของหมอ หมอก็ทำหน้าที่ของหมอไป เราก็ภาวนาของเราไป

    แต่ได้โปรด..บางคนภาวนาดีเกินไป หมอแทง ๓-๔ เข็ม..ไม่เข้า ...(หัวเราะ)... ต้องขอร้องให้เลิกภาวนาหรือไม่ก็เอาวัตถุมงคลออกก่อน ไม่อย่างนั้นหมอฉีดยาไม่ได้ คือปกติก็ภาวนาไม่ดีขนาดนั้นนะ คราวนี้ไปคิดว่าหมอจะผ่าตัด เราอาจจะตาย กำลังใจเกาะภาวนาสุดชีวิต สมาธิดี เข็มก็เลยแทงไม่เข้า..!

    .......................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    ......................................
    #รู้ว่าดีก็ทำ #รู้ว่าชั่วก็ละ #ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ปฐมมรณัสสติสูตร พระสูตรนี้มีเนื้อหาโดยย่อว่า พระพุทธเจ้าตรัสอานิสงส์ของมรณัสสติว่ามีมาก และได้ทรงถามเหล่าพระภิกษุว่าได้พากันเจริญมรณัสสติกันบ้างหรือไม่อย่างไร ดังข้อความว่า

    “ภิกษุทั้งหลาย มรณัสสติที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายยังเจริญมรณัสสติอยู่หรือไม่”

    เหล่าพระภิกษุแต่ละรูปตอบว่าได้เจริญมรณัสสติอยู่ พระพุทธองค์จึงทรงถามต่อไปว่า ทำอย่างไร พระภิกษุแต่ละรูปได้คิดดังนี้ว่า

    ๑. “โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ตลอดคืนหนึ่งและวันหนึ่ง เราพึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงทำกิจให้มากหนอ”
    ๒. “โอหนอเราพึงเป็นอยู่ได้ตลอดวันหนึ่ง เราพึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงทำกิจให้มากหนอ”
    ๓. “โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้เพียงชั่วขณะฉันบิณฑบาตมื้อหนึ่ง เราพึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงทำกิจให้มากหนอ”
    ๔. “โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้เพียงชั่วขณะเคี้ยวกินคำข้าว ๔-๕ คำ เราพึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงทำกิจให้มากหนอ”
    ๕. “โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้เพียงชั่วขณะเคี้ยวกินคำข้าว ๑ คำ เราพึงมนสิการถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงทำกิจให้มากหนอ”
    ๖. “โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้เพียงชั่วขณะลมหายใจเข้าหายใจออก หรือหายใจออกหายใจเข้า เราพึงมนสิการคำสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงทำกิจให้มากหนอ”

    เหล่าพระภิกษุแต่ละรูปได้อธิบายถึงวิธีคิดแบบมรณัสสติตามที่เข้าใจกันแล้ว พระพุทธเจ้าจึงสรุปว่า
    ภิกษุผู้ที่คิดตามข้อ ๑- ๕ ยังเป็นผู้ประมาทอยู่
    ส่วนภิกษุรูปสุดท้ายที่ตอบว่า ชีวิตมีอยู่ได้เพียงแค่ลมหายใจเข้า-ออก ภิกษุรูปนี้เป็นผู้ไม่ประมาท เจริญมรณัสสติอย่างแรงกล้าเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย
    ………..
    ดูรายละเอียดใน ปฐมมรณัสสติสูตร อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒
    http://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=22&siri=270

    ahcduhp6obcgoqilgyw93m3bqyinwcixgpndrsvytzm8mc-aszezzgrdtlx4aauhpazn-_nc_ht-scontent-fcnx3-1-jpg.jpg

    อายตนะหก / มโนกรรม วจีกรรม กายก
     
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ?temp_hash=e53321b29608ec48c903969af7429c95.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    #ตายแล้วไม่สูญ
    ...“คนผู้ตายนั่นน่ะ ร่างกายนี่มันตาย คือตายจากส่วนผสม แต่ธาตุ ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ไม่ตาย แตกกระจายลงไปสู่ธาตุเดิมของตนจากส่วนผสมอันนี้ ส่วนจิตนี้ออก จิตนี้ไม่เคยตายมาแต่กาลไหน ๆ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงแสดงเต็มเม็ดเต็มหน่วยตลอดมา ว่าได้ไปเกิดที่นั่นแล้วเกิดที่นี่แล้ว
    ... คำว่าตายแล้วสูญไม่มีในพระพุทธเจ้าพระองค์ใดสอนไว้เลย เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่สูญ ท่านแสดงแบบเดียวกันหมด ตัวนี้ละตัวสำคัญ เวลาตายไปแล้วไม่มีการทำไร่ทำนาการซื้อการขาย นี่ท่านก็แสดงไว้ในพระสูตรอีกเหมือนกัน ต้องอาศัยบุญกรรมของตัวเอง ถ้าอยู่ในฐานะที่ญาติจะช่วยได้ ญาติช่วยก็พ้นไปได้ นี่ท่านก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงขออย่าได้ประมาท” ...
    .....#พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    Ec9p2PvaZewKIiigoQ8L6Hqi4PsC7vf20EYvmKottPwg&_nc_ohc=X5eS_IfTLtwAX8uF7HE&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ?temp_hash=c6837d1aef84fe143e2461ba61745d6f.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
     
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ จะตั้งอยู่และดับไปตามกาลเวลา

    kaodet-37-640x400.jpg
    เกิดขึ้น หมายความว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วในโลกนี้

    ตั้งอยู่ หมายความว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในโลกนี้ จะตั้งอยู่เป็นเวลานานเท่าใด ขึ้นอยู่กับสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น

    ดับไป หมายความว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในโลกนี้ ย่อมดับไปตามกาลเวลา ขึ้นอยู่กับอายุขัยของสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น

    5-10.jpg


    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มี ๒ อย่าง คือรูปธรรม และนามธรรม

    ๑. รูปธรรม คือ สิ่งที่มองเห็น และจับต้องได้

    ๒. นามธรรม คือ สิ่งที่มองไม่เห็น และจับต้องไม่ได้ ไม่มีรูปแต่มีชื่อ

    1-47.jpg

    ๑) รูปธรรม คือธรรมชาติของรูป รูปเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีการสืบพันธ์ เป็นเหตุ ให้วิญญาณมาปฏิสนธิในครรภ์ของมารดา จะตั้งอยู่ในครรภ์ ๙ เดือน เมื่อครบกำหนดก็จะคลอดออกมาเป็นรูปร่างของมนุษย์ เป็นเพศหญิง เพศชาย นี้คือการเกิดขึ้นแล้วของธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ อาการ ๓๒ เป็นตัวเป็นตน

    จากวัยทารกไปสู่วัยเด็ก จากวัยเด็กไปสู่วัยหนุ่มสาว แล้ววัยแก่ชรา นี้คือความตั้งอยู่ของร่างกายมนุษย์ (รูป) จะตั้งอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับ กฎแห่งกรรมในอดีตส่งผลมา และกรรมปัจจุบันที่สร้างขึ้นใหม่ เมื่อแก่ชราหรือเจ็บป่วยก็ต้องตาย ร่างกายก็ต้องสูญสลายไปในที่สุด นี้คือ ความดับของรูป

    เมื่อมีตัวตนที่เรียกว่ารูป เกิดขึ้นแล้วก็เกิดความจำเป็น ที่จะต้องมีสิ่งต่าง ๆ มาเลี้ยงรูป คือ ร่างกายนี้ให้เจริญเติบโต และดำรงชีวิตอยู่ได้ นั่น คือ ปัจจัยสี่ อันประกอบไปด้วย อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดิ้นรน ขวนขวายหาปัจจัยสี่ เพื่อให้ร่างกายนี้ตั้งอยู่ต่อไป ถึงแม้นว่าจะมีปัจจัยสี่มากมาย

    เช่น มีอาหารดีจำนวนมากมาย มีบ้านเป็นสิบหลัง มีเครื่องนุ่งห่มดี ๆ เป็นร้อยเป็นพันชิ้น มียารักษาโรคอย่างดี สามารถรักษาโรคให้หายได้ทุกโรค ปัจจัยสี่นี้ถึงแม้จะมีมากมาย ก็ต้องสูญสลายไปตามกาลเวลา ไม่สามารถที่จะยับยั้งความแก่ ความเจ็บ ความตาย เอาไว้ได้ ทุกชีวิตก็จะต้องดับสูญสลายไป ตามกาลเวลา และกฎแห่งกรรม ตายแล้วก็ไม่สามารถที่จะนำทรัพย์สมบัติใดๆ ติดตัวไปได้เลย


    – สัญญา คือ ความจำได้ เช่น จำทุกข์ จำสุข จำรัก จำชัง จำรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส นี้คือ นามธรรมอย่างหนึ่ง

    – สังขาร คือ เครื่องปรุงแต่งจิตมี กิเลสทั้ง ๓ อย่าง คือความโลภ ความโกรธ ความหลง ทำหน้าที่คอยปรุงแต่งจิต ให้เกิดอารมณ์ต่าง ๆ นี้คือ นามธรรมอย่างหนึ่ง

    – วิญญาณ คือ ความรู้สึก มีหน้าที่รับรู้จากสิ่งที่มากระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คือ อายตนะภายใน มากระทบกับอายตนะภายนอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ เมื่อทั้งสองอย่างกระทบกันแล้วก็เกิดเป็นอารมณ์ พอใจ ไม่พอใจ นี้คือนามธรรมอย่างหนึ่ง

    6.jpg

    ความทุกข์ที่เกิดขึ้นที่เรียกกันว่า ทุกขเวทนา เช่น ทุกข์เพราะหิวอาหาร เกิดจากร่างกายขาดอาหาร เมื่อหิวความทุกข์ก็เกิดขึ้น และจะตั้งอยู่ต่อไปจนกว่าจะมีอาหารมาเลี้ยงร่างกาย เมื่ออิ่มแล้ว ความทุกข์ที่เกิดจากความหิวนั้นจึงจะดับไป

    สุขเวทนา คือความพอใจ รักใคร่ ในสิ่งต่าง ๆ ที่เรียกว่า สุขที่อิงอามิส เช่นพอใจในรูปที่สวยงาม พอใจในเสียงที่ไพเราะ พอใจในกลิ่นที่หอม พอใจในรสชาติอาหารที่อร่อย พอใจในสัมผัส หนาว ร้อน อ่อน แข็ง ความพอใจเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วและตั้งอยู่ในจิต เป็นความสุขแล้ว สุขจะดับไป ต่อเมื่อเกิดความไม่พอใจในสิ่งต่าง ๆ ข้างต้น ดังที่กล่าวมาแล้ว เรียกว่า สุขดับไป

    เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ทั้งรูปและนาม จะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปในที่สุด


    บางคนมีความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน เรา เขา ความสุขหรือความทุกข์ ที่เกิดขึ้นจะตั้งอยู่ได้นาน เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่ครอบงำจิตของมนุษย์มาหลายชาติแล้ว ถ้าไม่มีการชำระกิเลส ก็จะเป็นเหตุให้เวียนว่าย อยู่ในวัฏสงสาร มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ไม่จบสิ้น ความทุกข์ ความสุขจากการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีโอกาสที่จะหลุดพ้นได้เลย

    นอกจากผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมคำสอน เข้าใจในกฎแห่งกรรม รู้ว่าตัวเองมีความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำจิต เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ ความสุข รู้ว่าความสุขที่เกิดขึ้นนั้น เป็นความสุขที่อิงอามิส ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง จึงพยายามประพฤติปฏิบัติธรรม ตามพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อนำมาชำระกิเลสที่เป็นเหตุของการเกิดทุกข์ ให้หมดสิ้นไป นี้คือ การปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ให้ดับไปในที่สุด

    -----------------------
    จาก https://www.mokkalana.com/4084/
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,717
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +70,534
    ?temp_hash=b600103da134c6b8c88126c85bb0b05f.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...