เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    คุณมังกรบูรพา มาปูเสื่อรอ.....

    deejaimark ขอเอาอาหารมาเสิร์ฟคะ มีทั้งอาหารไทย อาหารฟิลิปปินส์ อยากทานอะไร เชิญได้เลยคะ ตามสบายๆๆๆๆๆๆ กันเองๆๆๆๆๆๆๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,086
    คุณชยา กำลังทำมหากุศล
    ช่วยชี้แนะ ไขความรู้ระบบรูป-นาม
    ในแนวความสามารถพิเศษ ที่ถูกเก็บซ่อน
    นำออกมาอธิบายแบบง่ายๆ
    หาคนอธิบายเช่นนี้ได้น้อยคนจริงๆ

    ขออนุโมทนามหาอนุโมทนาครับ

    เห็นอาหารของคุณดีใจมาก
    น่ากินทั้งนั้น
    เลยอดไม่ได้ที่จะแอบหยิบมาชิม
    คงไม่ว่ากระไรนะครับ
     
  3. เดวี

    เดวี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +30
    ดีใจค่ะ ที่ได้มาอ่านกระทู้นี้ ทำให้ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลยต้องขอบคุณคุรุชยา
    ที่ได้ให้สิ่งดี ดี แนวทางการปฏิบัติ เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่แล้วค่ะ

    สมแล้วค่ะที่เรียกว่าเป็นคุรุ มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นที่ตั้ง เพราะการเป็นคุรุ
    นั้นหาใช่ว่าสิ่งที่สอน จะเป็นสิ่งที่ถูกเสมอไป เป็นเพียงแค่คุณได้ค้นพบมันก่อน
    แล้วนำมาถ่ายทอดให้กับผู้สนใจในขณะเดียวกันผู้ที่ได้รับการถ่ายทอด ก็จะต้อง
    มีวิจารณญาณในการรับ และปฏิบัติไปพร้อมๆกัน มีการแลกเปลี่ยนกัน ร่วมกัน
    เรียนรู้พัฒนาให้ก้าวหน้า เพราะบางครั้งผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดนั้น อาจไปได้ไกล
    กว่าผู้ถ่ายทอดด้วยซ้ำ หากเราปิดกั้นซะความรู้นั้นก็จบอยู่แค่นั้น

    การอ่อนน้อมถ่อมตนนั่นแหละค่ะ หัวใจของคุรุ ที่คนจะยอมรับหาใช่ความ
    เก่งกาจอย่างเดียวไม่
     
  4. triangle-w

    triangle-w เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    3,417
    ค่าพลัง:
    +21,412
    <LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    555 มีแต่ของอ้วนๆทั้งน้านเยย
     
  5. pong10500

    pong10500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +399
    อ่านที่คุรุชยาเขียน
    รวมทั้งคุณบาส แล้วเห็นว่า
    ตัวเองนั้นมีสิ่งที่รอพัฒนาได้อีกไกลนักครับ
     
  6. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407

    ขอบพระคุณมาก ๆ เลยครับ น้องดีใจมาก น่าหม่ำทั้งนั้นครับ

    แต่ผมว่ามันดูพร่อง ๆ น้อย ๆ ชอบกล สงสัยท่านพี่เม้าท์ และ

    ท่านพี่สามเหลี่ยม คงแอบตักไปหลายคำ 55555555

    แบ่งสันปันส่วนครับ (ว่าปูเสื่อเร็วแล้วนา..ที่ไหนได้...)
     
  7. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    เมื่อคืนติดตามอ่านของท่านชยา กด F5 ไปตลอด พอตกดึกฝันไปว่าเห็นเด็กนักเรียนหญิง

    ประมาณ 4 - 5 คน เดินอยู่แถวริมน้ำ เห็นบ้านไม้เก่าชั้นเดียว 1 หลัง สงสัยชาติที่แล้วอาจเป็น

    พี่เป็นน้อง กับใครในกระทู้ซักคน 555555555 แต่ถ้าเกิดใหม่อีก ผู้หญิงไม่อาวนะ มะอาว...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤศจิกายน 2008
  8. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,840
    ค่าพลัง:
    +16,082
    ขออนุโมทนา พี่ๆ เก่งทั้งน้านเลย
    ของผมเองพอมองเห็นออร่าบ้างครับ
    แต่ด้วยตาใน ไม่ใช่นาเนื้อ
    แต่ตาที่สามยังไปไม่ถึงหนายยยย
    พี่ชยาช่วยที อิอิ...
     
  9. xanadu

    xanadu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +1,637
    Today is Thanksgiving Day in the USA, a national holiday centers around food, family and friends.
    It is also about giving thanks or being grateful for others who have helped us in good or bad time.

    For this year I thank the creator and team members of Palunjit website, professor The Third Eyes who initiated this topic and to all the authors/contributors of so many interesting stories/comments. I've spent my life abroad for more than 3 decades, away from home. This is one magic instrument which makes me less homesick, and provides abundant friendships in the world of sixth sense.

    Thank you from the bottom of my heart.
    ;aa28หวัดดีจ้า1;aa1;k07_heart+love__Love+U_;aa44
     
  10. xanadu

    xanadu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +1,637
    Chaya, your explanation about mind consciousness/meditation is amazing!!
    You make it so simple and easy to understand.
    It doesn't get better than this.
    I have a clearer picture now.
    Thanks.
     
  11. raquaz

    raquaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +3,831
    ความฝัน...อีกครั้ง

    ตั้งแต่ผมได้อาวุธมา ชีวิตผมก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยครับ
    แต่เรื่องความฝันเนี่ย ยังมีอีกหลายๆครั้ง ที่มหัศจรรย์เหลือเกิน

    ช่วงเดือน 11 ปีที่แล้ว พวกเรามีโครงการจะไปทอดกฐินที่อยุธยากัน
    ผมเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการกระจายข่าว แต่ผมไปไม่ได้ครับ งานนั้น เพราะดันตรงกับวันที่พี่ชายแท้ๆของตนเองแต่งงาน ต้องไปทำพิธียกขันหมากกันแต่เช้า และเตรียมพิธีแต่งตอนเย็น เลยอดแน่นอน

    ก่อนงานกฐินสักสัปดาห์นั้น ผมก็โทรไปชวนพี่ชยา
    จำได้ว่าพี่ชยาบอกว่า เดี๋ยวดูก่อนนะ
    หลังจากนั้นแล้วผมก็เริ่มยุ่งๆกับงานแต่งพี่ชาย จะลืมโทรไปถามว่าพี่ชยาจะไปได้หรือไม่อย่างไร จนกระทั่งคืนก่อนวันกฐิน

    ผมฝันครับ

    ฝันว่าได้ไปงานกฐินกับทุกคน และที่สำคัญคือ ในงานนั้น ผมเห็นพี่ชยาอยู่ในงานด้วย จำได้ว่า พี่ชยามาพูดกับผมว่า เออ สรุปพี่มาได้แหละ

    เช้า วัดทอดกฐิน แต่ผมอยู่บ้านเตรียมงานแต่งงานพี่ชาย จัดชุดขันหมากอยู่
    พอสัก 8 โมงเช้า พี่ชยาโทรมา

    ผม "หวัดดีครับพี่ชยา"
    พี่ชยา "ราควอซ(จริงแล้วพี่เขาเรียกชื่อเล่นผม)เมื่อคืนไม่ได้นั่งสมาธิใช่ไหม"
    ผม "อ่า..ครับ เผอิญเตรียมงานแต่งพี่ชายยุ่งๆอยู่นะครับ ทำไมเหรอครับพี่"
    พี่ชยา "เปล่า พี่ฝากข้อความไว้ถึงเราตอนที่นั่งสมาธิแบบที่เคยส่งให้พี่เม้าท์น่ะ เราไม่ได้รับซินะ"
    ผม "เหรอครับ พี่ส่งมาว่าอะไรเหรอ"
    พี่ชยา "พี่จะบอกเราไงว่าวันนี้พี่ไปงานกฐินด้วยได้นะ"
    (มานั่งนึกถึงฝันเมื่อคืน)
    ผม " อ้อ ถ้าข้อความอันนั้นผมได้รับแล้วแหละพี่"
    พี่ชยา "อ้าว ไหนบอกไม่ได้นั่งสมาธิไง"

    ผมก็เลยเล่าเรื่องฝันให้พี่ชยาฟังครับ

    เรื่องนี้ อาจจะไม่ตื่นเต้นแต่ผมรู้สึกมหัศจรรย์ในครับ

    เดี๋ยวไว้มาต่อกันอีกเรื่องนะครับ
     
  12. goony

    goony เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +164
    ลูกลิงหายไปเลย ไม่มาขีดเขียนบ้างเด้อ....มัวแต่เก็บตังค์เที่ยวนะ...เข้างานบ้างเดี่ยวงานจะได้เข้าอีก...กูล
     
  13. goony

    goony เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +164
    ตอนที่ไปทานที่อ.ตาที่สามกิน จิตรโภชนาที่ท่านแจกดาบเจไดมาให้พวกเรา ...ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ด้วย.....ได้แล้วซ่า.....ตอนแรกไม่เชื่อว่าจะได้....ก็รู้สึกว่าง่ายจัง...แต่พื้นฐานเราก็ฝึกบ้าง...รักษาศีล5กับเขาพระท่านเลยเมตตาให้เราด้วยนะ...ใช้ตอนแรกรู้สึกใช้ที่บูทอ. อ.ก็บอกว่ามาเว้ยแล้วมือเราก็แข็งด้วย...กวาดโรคาให้พี่ท่านหนึ่ง...ชักมั่นใจคราวนี้ซ่าขึ้นรถเมล์ไปกวาดให้คนนั่งหน้าเรา.......โดยเขาไม่ได้ขอและไม่รู้ตัว......ก็รู้สึกว่าเขาดี....5555 ....ตกดึก โดยเรานอนอยู่มีตัวดำมืดๆมาหลายๆตนเลยมาหักแขนเลย.......หักครั้งแรกเราก็รู้สึกเจ็บเลย.........แต่แขนยังไม่หักดี.....เรานอนลืมนึกพุทโธขับไล่ปกติก็รู้นะเกิดเหตุจริงลืม.......มาหักแขนอีกรอบห่างกันแค่สัก10วินาทีได้...ท่านเชื่อไมหม ตื่นเช้ามาแขนเดี้ยง.....วิ่งมาหาที่บูท...อาจารย์+ท่านคุรุสุวิช่วยรักษา....
    ตอนหลังรู้ว่าห้ามซ่าส์...........กูล
     
  14. ศวนาย

    ศวนาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +261
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ศวนาย, เกรสคับ, เต๊ะจุ๊ย, CHAYA MARUTY, nirvana008, ต้นสักใหญ่ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เยอะจัง คริ ๆ ๆ

    raquaz<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1696337", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    ชื่อเท่ห์ เหอ ๆ มีความหมายในตัวที่ลึกลับ เอิ๊ก ๆ ๆ

    เดวี<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1695561", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ คุณป้า เอิ๊ก ๆ ๆ

    คนนี้ก็สุ่มอ่านเงียบ เหอ ๆ ๆ
    ต้นสักใหญ่
     
  15. nirvana008

    nirvana008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +580
    เล่าเรื่องต่อจากคราวที่แล้ว......(ขออภัยที่หายไปหลายวันเพราะติดภาระกิจด่วน)<O:p</O:p
    (การเมืองช่วงนี้ดูแล้วเครียด...ฟังนิทานที่ผมเล่าดีกว่าเนอะ)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อเสร็จจากงานเทปูนหล่อพระที่พระบาทน้ำทิพย์แล้ว คณะบุญทั้งหมดก็เดินทางต่อไปเพื่อลงเรือมุ่งหน้าสู่เกาะใหญ่กลางบึงหนองหาน...เขตนี่เป็นของท่านพ่อปู่พญานาคผู้เป็นใหญ่ดูแลปกปักษ์รักษาอยู่ครับ คณะได้ลงเรือทั้งหมด 2 ลำแล่นไปทำบุญที่วัดดอนสวรรค์...วัดศักดิ์สิทธิ์กลางบึงใหญ่ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    มีเรื่องเล่าว่าบึงหนองหานนั้นอดีตเคยเป็นมหานครใหญ่ มีอณาเขตกว้างไกลมากต่อมาต้องคำสาปอาถรรพ์อะไรสักอย่าง...ได้ถูกน้ำท่วมกลืนจมหายลงไปตามที่ปรากฏเป็นบึงใหญ่ในปัจจุบันนี้ (ท่านใดพอทราบประวัติช่วยเพิ่มเติมอีกทีแล้วกันเนอะ)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บึงหนองหานนั้นผมสัมผัสได้ถึงมนต์เสน่ห์ที่สวยงามแลดูลึกลับน่าค้นหาพอสมควร น้ำใสเย็น มีสาหร่ายใต้น้ำด้วย ครั้นเมื่อล่องเรือมาจวนใกล้จะถึงเกาะแล้วพลันจิตรู้สึกพบมีบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำและมีกระแสพลังที่แรงมากๆพุ่งแผ่ซ่านมาจากบริเวณใกล้เกาะนั้นไม่ไกลจากจุดที่เรือจะไปเทียบท่านัก..ลักษณะโผล่พ้นน้ำมาดำๆ ผมเลยรีบถ่ายเก็บภาพมาได้ลักษณะตามรูป (เพื่อนๆลองสัมผัสพลังจากรูปที่ผมขยายดูจะรู้ว่าคืออะไร).....คิดเอาเองว่าท่านคงเมตตาคณะพวกเรามากๆ...มาเยือนถึงถิ่นแดนท่านเลย ว่างั้น...สาธุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อขึ้นเกาะได้ผมพร้อมคณะเข้าไปไหว้พระประธานในพระอุโบสถ(ตามรูป) แล้วเช่นเคยตามสไตล์...ผมถือจังหวะปลอดคนเดินปลีกตัวแยกออกมาจากหมู่คณะเพราะรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างดึงดูดให้ผมเดินเข้าป่าไปทางทิศใต้ด้านหลังโบสถ์...(น่ากลัวผีจะตาย ไม่รู้คิดยังไง)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมเดินมาได้เล็กน้อยถึงบริเวณสถูปเก่า(ตามรูป) บรรยากาศดูวังเวงยังไงๆชอบกลและระหว่างเดินเท้าก็หยุดกึ๊ก...จิตก็สัมผัสได้ว่ามีร่างเงาดำสูงใหญ่ยืนขวางทางเดินอยู่เบื้องหน้าและรอบๆเรา ลองใช้ตาที่สามตรวจดูอีกครั้งพบว่าเป็นพี่ยักษ์ตัวสูงเลยยอดตาลเฝ้าทางเข้าพร้อมบริวารอีกหลายสิบท่านนั่นเอง....โอ้แม่เจ้า!!! ยอมรับว่าใจก็กลัวท่านมากนะ แต่สันดานผมเดินหน้าแล้วถอยไม่ได้ถึงไหนถึงกัน เลยตั้งจิตขอขมาโทษที่มาถิ่นท่านและอุทิศส่วนกุศลให้ท่านและบริวารโมทนา...ขอท่านทั้งหลายโปรดเมตตาเปิดทางให้ผมได้เดินผ่านเข้าไปชมสถานที่ด้านหลังท่านด้วย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านคงอนุญาตแล้ว(คิดเอาเอง..เพราะผมหลับตาไม่เห็นท่านแล้วนี่ ฮ่า ฮ่า)ก็เลยรีบเดินเข้าไปในป่าซึ่งไม่รกมากนัก...แต่ที่น่าแปลกคือบรรยากาศมันวังเวงๆนิ่งๆยังไงบอกไม่ถูก เหมือนอยู่อีกมิติหนึ่งเลย ต้นไม้ก็แลดูสูงใหญ่น่าเกรงขามทั้งนั้น ผมได้กลิ่นดอกไม้ที่หอมมากๆไม่ทราบว่าลอยมาจากแห่งหนใด สูดดมแล้วหอมสดชื่นรู้สึกกระปลี้กระเปล่ามากๆ..เรียกว่าหายเหนื่อยเลยทีเดียว <O:p></O:p>
    <O:p</O:p

    กำลังเคลิ้มๆเพลินอยู่ตาทั้งคู่ก็ไปสัมผัสกับสิ่งหนึ่งอยู่เบื้องหน้า...เป็นต้นไม้ใหญ่ขนาดประมาณ3คนโอบได้(เส้นผ่าศก. 2-3 เมตร)ยาวประมาณ 20 เมตรล้มขวางทางอยู่...ใช้จิตเพ่งดูไปก็เห็นเป็นคล้ายกำแพงวัด ลักษณะสูงทอดยาวเป็นแก้วสีทองมีเสียงเพลงบรรเลงลอยมาจากด้านในบริเวณนั้น....ผมไม่รอช้ารีบเดินสาวเท้าเข้าไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว เดินได้ไม่กี่ก้าวขาเจ้ากรรมก็ก้าวไม่ออกเสียแล้ว ยืนหยุดนิ่งคล้ายต้องมนต์บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ เคลิ้มๆเหมือนหลับพบภาพผู้หญิงท่านหนึ่งหน้าตาสวยหวานมาก ยืนห่างออกไปด้านหลังบริเวณโพลงใหญ่ด้านใต้ต้นไม้ (ตามรูป) ท่านแต่งตัวเหมือนคนโบราณเสื้อแบบผ้าลายลูกไม้ทรงกระบอกสีขาวและสวมผ้าซิ่นเหมือนคนอีสาน...ท่านยิ้มและไม่พูดอะไร ผมเลยกำหนดจิตอุทิศส่วนกุศลและขออนุญาตท่านเข้าไปด้านหลังกำแพงทองนั้น....<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ทันใดนั้นผมรู้สึกเหมือนภาพมันเคลื่อนเร็วมาก จิตพุ่งเข้าไปมองเห็นเป็นลักษณะหมู่บ้านใหญ่ มีบ้านไม้ไทยโบราณหลังคาสีส้มแดงคล้ายกุฏิพระอยู่หลายหลัง...มีพระทองคำองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่กลางลานใหญ่ มีเจดีย์ทองคำ มีคนหญิงชายนุ่งชุดขาวเหมือนผู้ถือศีลอยู่เต็มลานไปหมด(เหมือนดูภาพใน TV)...ชมกำลังเพลินๆอยู่ก็มีเสียงกล่าวคำถวายกฐินลอยแว่วมา...เฮ้ย!! คณะทุกคนไปรวมกันอยู่ที่ศาลาหมดแล้ว เริ่มถวายปัจจัยทำบุญกันแล้วนี่หว่า ไม่รอกันเลย ว่าแล้วจิตเลยคลายสมาธิลง....พลันภาพทั้งหมดก็เลือนหายไปในพริบตา(เหมือนปิด TV) เลยคว้ากล้องคู่ใจรีบกดชัตเตอร์เก็บรูปบริเวณนั้นไว้ก่อน (ถ้ามีโอกาสดีคราวหน้าจะมาเยี่ยมชมอีกครั้งให้จุใจไปเลย) ...ก่อนจากเหมือนมีเสียงกังวาลบอกให้เก็บของดีที่บริเวณนั้นไปด้วย..ท่านมอบให้ ผมเลยก้มลงมองดูที่พื้นบริเวณรอบๆเห็นเป็นหินคล้ายพระธาตุองค์ใหญ่เท่าเม็ดถั่วลิสง..มีทั้งสีขาวขุ่นและสีเหลืองทองสวยงามมาก...ไม่รอช้ารีบเก็บใส่กระเป๋าทันทีได้มา 4-5 องค์...ไม่ลืมยกมือไหว้ขอบคุณทุกท่านที่เมตตา...แล้วรีบสาวเท้าเดินกลับมาทางเก่าอย่างรวดเร็วเพราะจวนใกล้มืดแล้วและอีกใจก็กลัวจะหลงทางกลับไม่ถูก ตกเรือติดอยู่บนเกาะ....ตายแน่ๆตูงานนี้ ฮ่า ฮ่า (สมาคมกลัวตายนี่หว่า)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กลับไปถึงศาลาปรากฏว่าทุกท่านได้ถวายกฐินไปเรียบร้อยกันหมดแล้ว หลวงพ่อท่านกำลังให้พร ยถาฯ สัพพีฯอยู่...พี่ๆถามว่าหายไปไหนมาเดินหน้าตื่นมาเชียว..ผมก็ยิ้มบอกว่าไปเมืองนอกมา ฮ่า ฮ่า (เหมือนกวนตี...น เนอะ)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลังจากนั้นทุกท่านก็ลงเรือกลับขึ้นฝั่ง....ระหว่างที่ล่องเรืออยู่กลางบึงใหญ่ผมสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งเคลื่อนอยู่ใต้น้ำตามเรือลำที่ผมนั่งมาตลอด...ผมเลยนั่งนิ่งๆตั้งจิตอุทิศส่วนกุศลให้ทุกท่านที่เป็นใหญ่รักษาเขตนี้อยู่ทุกๆท่านให้โมทนาอีกครั้งแล้วกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในบึงหนองหานแห่งนี้ได้โปรดเมตตาประธานพรให้กระผมด้วย...จบคำอธิษฐานทันใดนั้นก็ปรากฏลูกไฟใหญ่หลากหลายสีลอยมาจากใต้น้ำพุ่งขึ้นมาในทิศทางไกลจากรอบๆเรือที่กำลังแล่นแหวกผ่านน้ำอยู่..ลูกไฟ(ขนาดลูกมะพร้าว)พุ่งลอยลงมาที่เรือลำผมนั่งอยู่เป็นชุดๆคล้ายถูกยิงด้วยดอกไม้ไฟเลยทีเดียว...ผมสัมผัสได้ถึงพลังอันศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังมหาศาลเพราะที่บริเวณฝ่ามือเย็นซ่าและขนลุกไปหมดทั่วตัวเลย...เรียกว่างานนี้รู้สึกประทับใจมากๆเลยครับ...ท่านเมตตาพวกเราจริงๆ (อย่างนี้เรียกบั้งไฟพญานาคได้รึเปล่าน้อ..)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คราวหน้าจะมาเล่าการเดินทางต่อ....เป็นเรื่องเล่าบนภูกำพร้า ในเทือกเขากลางป่าเขต จ.สกลนครอีกเช่นกัน....เป็นดินแดนแห่งสามนคร คือ...เมืองคนสูงเก้าศอก...เมืองบาดาลของพญานาคและเมืองลับแลของชาวบังบดท่าน...รอติดตามอ่านได้ครับ<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0421.jpg
      IMG_0421.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.1 KB
      เปิดดู:
      160
    • IMG_0420.jpg
      IMG_0420.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.4 KB
      เปิดดู:
      271
    • นาค002.jpg
      นาค002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.3 KB
      เปิดดู:
      361
    • IMG_0422.jpg
      IMG_0422.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.2 KB
      เปิดดู:
      168
    • IMG_0423.jpg
      IMG_0423.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.7 KB
      เปิดดู:
      183
    • เขตกำแพง.jpg
      เขตกำแพง.jpg
      ขนาดไฟล์:
      169.6 KB
      เปิดดู:
      162
    • IMG_0426.jpg
      IMG_0426.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.7 KB
      เปิดดู:
      164
    • IMG_0430.jpg
      IMG_0430.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.8 KB
      เปิดดู:
      177
  16. ต้นสักใหญ่

    ต้นสักใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +140
    คนนี้ก็สุ่มอ่านเงียบ เหอ ๆ ๆ
    ต้นสักใหญ่

    หุหุ เพิ่งถึงหน้า9เอง ตาลายมากๆ (แอบมาหน้า17ก่อนเพราะ...)ขอบอกว่าทั้งมันส์อ่านเพลินแถมได้ความรุ้อีกเยอะเลย
    ขอบคุณทุกท่านมากๆจ๊ะ สาธุ สาธุ สาธุ<!-- / message -->
     
  17. raquaz

    raquaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +3,831
    ความหมายอะไรคับ ทราบ วานบอก หุหุหุ
    ชื่อนี้ตั้งเองอ่ะครับ มั่วๆได้
     
  18. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    เจโตปริยญาณ และ กำเหนิด นรก สวรรค์

    เจตสิก ความหมายของเจตสิก
    เจตสิก หมายถึง ธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งประกอบกับจิต ปรุงแต่งจิตให้มีความเป็นไปต่าง ๆ อาการที่ประกอบกับจิตนั้น มีลักษณะ 4 ประการคือ
    1. เกิดพร้อมกับจิต 2. ดับพร้อมกับจิต 3. มีอารมณ์เดียวกับจิต 4. อาศัยวัตถุเดียวกับจิต

    จิตและเจตสิกที่อิงอาศัยกันนี้ถ้าเปรียบจิตเป็นน้ำ เจตสิกเป็นสีแดง ผสมกันเป็นน้ำแดง เมื่อผสมกันแล้วไม่สามารถแยกน้ำออกจากสีแดงได้ฉันใด จิตและเจตสิกก็ไม่สามารถแยกออกจากกันเป็นอิสระได้ฉันนั้น สภาวธรรม รวม 4 ประการของเจตสิกมีดังนี้

    1. ลักษณะของเจตสิกคือ มีการอาศัยจิตเกิดขึ้น
    2. กิจการงานของเจตสิกคือ เกิดร่วมกับจิต
    3. ผลงานของเจตสิกคือ รับอารมณ์อย่างเดียวกับจิต
    4. เหตุที่ทำให้เจตสิกเกิดขึ้นได้ คือ การเกิดขึ้นของจิต


    เจตสิกนี้แม้ว่าจะเป็นสิ่งปรุงแต่งจิต ให้จิตมีพฤติกรรมเป็นไปตามลักษณะของเจตสิกก็ตาม แต่ก็ต้องถือว่าจิตเป็นใหญ่เป็นประธาน เพราะเจตสิกเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยจิตเกิด ไม่ว่าจะเป็นความพอใจความไม่พอใจ ความรัก ความเกลียด ความสงบ หรือฟุ้งซ่าน ล้วนเป็นคุณสมบัติของเจตสิกทั้งสิ้น แต่เจตสิกเกิดขึ้นเอง และแสดงพฤติกรรมเองไม่ได้ ต้องอาศัยจิตเป็นตัวแสดงพฤติกรรมแทน
    จึงกล่าวได้ว่า ธรรมชาติของเจตสิกนั้นเกิดพร้อมกับจิต หรือประกอบกับจิตเป็นนิตย์ หรือธรรมชาติ ที่ประกอบกับจิตเป็นนิตย์ ชื่อว่า เจตสิก

    การที่ต้องแบ่งจิตออกไปมากมายนั้น เพราะเจตสิกที่ประกอบจิต มีประเภทต่าง ๆ กัน จิตสัมพันธ์กับโลกภายนอก โดยการเข้าไปรับรู้โลกเป็นอารมณ์ แต่การรับรู้นั้นต้องอาศัยเจตสิกที่เป็นตัวกระทบอารมณ์ครั้งแรก(ผัสสะเจตสิก ) เป็นต้น และเจตสิกอื่น ๆ ก็จะร่วมปรุงแต่งจิตให้เป็นไปในอาการต่างๆ
    การปรุงแต่งของเจตสิก ที่เกิดพร้อมกับจิตนั้น ทำให้จิตมีความสามารถในการรู้อารมณ์พิเศษแตกต่างกันออกไป เช่น รู้เรื่องของกามคุณอารมณ์ เรื่องของรูปฌาน อรูปฌาน จนถึงรู้นิพพานอารมณ์

    ที่กล่าวว่าเจตสิก คือ กลุ่มนามธรรมที่เกิดในจิต โดยเป็นไปเนื่องกับจิตหมายถึง กลุ่มธรรมอันมีผัสสะเป็นต้นนั้น มีความเป็นไปของกลุ่มธรรม ที่คล้ายเป็นอันเดียวกับจิต ด้วยลักษณะมีการเกิดขณะเดียวกับจิตนั่นเอง ข้อความนี้แสดงว่า เหมือนดั่งดอกไม้ ที่เนื่องอยู่ในขั้วเดียวกัน ในช่อดอกไม้ช่อหนึ่ง.............................................ถ้าอธิบายอย่างนี้ อาจเข้าในยาก ผมจะอธิบายตามแบบฉบับของผมให้เข้าใจง่ายขึ้นน่ะครับ............ตัวนี่ล่ะครับ จะเป็นที่มาของ เจโตปริยญาณ;aa36 นรก และสวรรค์




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2008
  19. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    เจตนา คือกรรม กรรมคือพลังงาน

    ในขณะใดขณะหนึ่งที่อายะตนะของเราไม่ว่าจะเป็น หูตาจมูก ลิ้น กาย ทำงาน 1 ขณะ นับจากวินาทีแรกที่ อายะตนะ รับสัมผัสเข้ามา ทำให้เกิดอารมณ์ขึ้น ทรงอารมณ์อยู่ จนกระทั้งหมดอารมณ์นั้้นไปเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์อื่น เราเรียก 1 ชั่วขณะอารมณ์นี้ว่า 1 เจตสิก สามารถเกิดเป็นเจตสิกที่ เป็น บุญ บาป และ ไม่เป็นบุญไม่เป็นบาป ก็ได้
    .......................... พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า เจตนา นั่นล่ะคือกรรม ถ้าไม่มีเจตนา ก็ไม่มีกรรม ฉะนั้น เจตนา เป็นส่วนหนึ่งของเจตสิก ถ้าใน 1 อารมณ์ ที่เกิดกับจิตนั้น เป็นเจตนาดี ก็จะเป็นเจตสิกที่เป็นบุญ ถ้า 1 อารมณ์นั้นเป็นเจตนาชั่ว เจตสิกนั้นก็เป็นเจตสิกที่เป็นบาป;aa36
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2008
  20. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    ที่มาของ สวรรค์และนรก

    .........................สมมุติว่า ผมได้ไปร่วมทำบุญ ยกช่อฟ้า ณ วัด ๆ หนึ่ง ในขณะจิตนั้น ผมได้มีความปลื้มปีติที่ได้เป็นเจ้าภาพยกช่อฟ้า และร่วมสร้างพระอุโบสด ...ผมปลื้มนานเป็นเวลา 1 ชั่วโมง .....1 ชั่วโมงนี้ จิตของผมได้สร้างเจตสิกขึ้นมา 1 อัน หรือ 1 ก้อน

    ...ในหนึ่งเจตสิกอันนั้นประกอบด้วย รูปและนาม รูป คือ จิตได้สร้างพลังงานเป็นรูปพระอุโบสดพร้อมด้วยช่อฟ้า ขึ้นมา ...นาม เป็นขนาดของรูป ขึ้นอยู่กับว่า ทรงอารมณ์ในเจตสิกนั้น นาน และ แนบแน่นแค่ไหน ในขณะที่ผมกำลังมีปีติอยุ่นั้น ถ้าผมทรงอารมณ์อยู่ในอุปจารสมาธิ จิตก็สร้างรูปนามขึ้น ความถี่ของรูปนามอันนี้ เท่ากับ ความถึ่แสง

    .............เพราะอุปจาระสมาธิ ความเร็วของจิตเท่ากับความถี่แสง จิตจึ่งสร้างเจตสิกเป็นภาพได้.............



    ...................ทุกครั้งที่เราสร้าง บุญ จิตก็จะสร้างรูปนาม ที่ความถี่นี้ทุกครั้ง รูปนามของบุญที่เราสร้างความถี่เดียวกัน มักจะไปอยู่รวมกัน แล้วแต่ว่า บุญเป็นของใคร ของใคร ถ้าสมมุติว่า ที่เราทำบุญสร้างพระอุโบสด มีคนมาร่วมสร้างกับเรา 100 คน ลองคิดดูซิครับว่า ความถี่ความถี่นั้น จะมีพระอุโบสด ที่สวยงามราววิมาน รวมกันอยู่เท่าไร ........สวรรค์ก็เกิดขึ้นได้ด้วยประการละฉะนี้



    .........................เมื่อใดที่เราทำความชั่ว เราก็ได้สร้างเจตสิกที่มีเจตนาชั่วขึ้นมาก มันก็จะไปรวมกันอยู่ที่ความถี่เดียวกัน เมื่อหลาย ๆ คนสร้างกันมากขึ้น ก็เกิดเป็นรูปนามที่มีขนาดใหญ่ รวมกันอยู่ . นี่รวมเรียกว่า นรก................ตอนที่เราจะตาย ก่อนที่จิตจะออกจากร่าง เราคิดถึงอะไร จิตเราก็จะไปอยุ่ตรงความถี่ ที่เราสร้างขี้นนั่นล่ะครับ เพราะความเคยชินของจิตนั่นเอง ( ถ้าชินมาก ๆ เรียกว่า ฌาณครับ ) เพราะจิตมีสภาพจำ..............ถ้าคิดถึงความดี ก็ไปนั่งเอ้เต้ บนวิมาน ถ้าจิตหมอง ก็ ไปอยู่ ความถี่ที่จิำตหมอง คือนรก นั่นเองครับ...
    ;aa36
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...