เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

เรียกลุง
ทำเอา แทบหมด แรง จะ พิมพ์ .................ต่อ..

 

เดิน ชมเมือง ไปเรื่อย เปื่อย
มาสะดุด ตรงหน้า ศาล นี่ ดูเผือนๆ ก็ไม่น่ามี อะไร ที่น่าสนใจ
เป็นตึกแถวห้องเดียว

มองเข้าไป เป็นศาลเจ้า
เข้าไปดู ซะหน่อย
เป็นศาลเจ้า อาม่า นี่เอง
บรรยากาศ ข้างใน เงียบ เชียบ สงบนิ่ง จน วังเวง

มีคนดูแลศาล อยุ่คนหนึ่ง เป็นหญิง อายุ คง จะ 80 ได้ เดินหลังงอๆ ท่าทาง แข้งขา ไม่ค่อยดี แล้ว
ด้วย ที่เรา ก็ ขี้สงสาร คน
จึงถามไปว่า เจ็บที่ ขาหรือ เปล่า แล้ว ก็ ทำการรักษา ให้เขาไป

โรค กระดูก , ข้อ เสื่อม แบบคนแก่ รักษา ยาก ให้ หาย ก็ คง ไม่ง่ายนัก และต้อง รักษา กัน ต่อเนื่อง ผม เอง ก็ อยู่ แค่ สองสามวัน ก็ ต้อง กลับแล้ว

ดู ๆ แล้ว ที่ศาสเจ้า อาม่า แห่ง นี้
มีดี อีกอย่าง คือ เจ้าในศาล นี้ ที่เรียกว่า อาม่า เป็นเทวรูป จีน
มีคุณวิเศษ เก่ง ในด้าน การรักษาโรค เหมือนกัน นี่

จึง สอน ให้ คนดูแลศาล ไปว่า ให้ ทำน้ำมนต์ กินทุกวัน อาการจะได้ ดีขึ้น
โดย นำน้ำ ไปวางที่ โต๊ะ แท่นบูชา ของศาลเจ้า ให้ อธิฐาน ขอ เป็นน้ำมนต์ รักษาโรค

อันที่จริง คนที่อยู่ กับศาล แท้ๆ ทำไม ไม่รู้ ก็ แปลกดี นะ


สูตรตำรายา ก็ยังมีให้เห็น ติดอยู่ตามข้าฝา ....แท้ ๆ............ 55

 

อนุโมทนาพี่มังกรบูรพาที่ร่วมทำบุญวัดคุ้งท่าเลา+อนุโมทนาพี่ชยาที่จะได้ฝึกฝนตัวเองตามวินัยพระค่ะ
และขอบพระคุณอาจารย์สามตาที่เมตตาพิมพ์โน่นนี่ให้อ่าน เป็นที่อัศจรรย์ใจ และทำให้ข้าน้อยไม่กล้า
ออกนอกแถว จะได้ไม่ไปไกลเกินยุคพระศรีอาริย์ คนไม่เชื่อก็ช่างเขาเถิดค่ะ เขากำลังสับสนระหว่าง
วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสน์ ยิ่งช่วงห่างจากพุทธองค์ปรินิพพานมากว่าสองพันปี สัญญาดีๆก็ขาดๆ
หายๆ ใครซ่อมได้ก็ดีไป ใครซ่อมไม่ได้ก็แล้วแต่บุญ-กรรมของเขา แต่ยังไงอาจารย์คงไม่ทิ้ง
การเขียนนะคะ ตอนนี้พักเหนื่อย อ่านที่คนอื่นเขียนไปก่อน

คนอื่นก็ไม่ใช่ที่ไหน ที่ดาวทะเลทรายนี่เอง(ถ้าอยากให้พิมพ์เยอะๆ กรุณาข้าม
สรรพนาม "ลุง" นะขอรับ หมายเหตุนี้ รวมถึงพี่มังกรบูรพาด้วยจ้า)

ภูเก็ตเคยไปนานแล้วค่ะ แต่ไม่เคยได้ดูรายละเอียดแบบนี้ มีภาพให้ดูประกอบ ขอบคุณค่า
ติดตามต่อ งานนี้ท่าทางยาว น่าสนใจทั้งเรื่องเมือง ทั้งเรื่องผู้หญิงที่ได้แจ๊คพ็อตตาที่สามนะคะ

 

ขออนุญาติ แทรก เข้ามาหน่อย นะ อา ดาวทะเลทราย
วันนี้ บ่าย ก็ได้เดินทางพร้อม สมาชิก ชมรมคนนทิพย์รวม 5 คน
ไปถึงวัด คุ้งท่าเลา...ตอนไปถึงบ่ายมากหน่อย
พบท่านเจ้าอาวาส เป็นครั้งแรก
ก็ถามท่านหลายเรื่อง ที่ น่า สนใจ
...............................................
วัดนี้ ที่ดิน 25 ไร่ ถวายให้เป็นวัด จาก นาง เลา (ชื่อ เลา)
จึงตั้งชื่อวัดครั้งแรกว่า วัดคุ้งเฒ่าเลา...ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น คุ้งท่าเลา
วัดตั้งมาตั้งแต่สมัย พศ 2430 หรือ ผ่านมา 122 ปี
มีสมภารไปแล้ว 9 ยุค ปัจจุบันมีพระจำวัด 12 รูป
........................................................................
พอได้เวลา เราก็ถวายเป็น ผ้าป่า ไป ตามระเบียบประเพณีปฏิบัติ
มีการถวาย กาน้ำมันไว้จุดเทียนและธูป
กระโถน ปักธูป
ราวเชิงเทียนยาว
ธูปและเทียนจำนวนหนึ่ง
แจกันใส่ดอกไม้
ตู้ใส่เงินทำบุญ ค่า น้ำ /ค่าไฟ / ค่าธรณีสงฆ์ 1 ตู้
ในตู้มีเงินบุญถวายไว้ในตู้ 8720.-บาท
..........................................................
เป็นการวางตู้ไว้ที่ บูธ 042 อยู่ ประมาณ 10วัน
มีผู้คนมาใส่เงินทำบุญ มากหลาย..และมีเพิ่มจากการโอนเงิน และใส่เงินสด ภายหลัง
คุณ ปราณี 100.-
คุณเสาวภา 100.-
คุณ นคร .... .1000.-
คุณ ทิวาพร 1800.-
คุณขันติธรรม..... 500.-
คุณ มังกรบูรพา.... .500.-
รวมยอดใหญ่ที่มีอยู่เดิม 8720.-บาท
..............................................................

เงินและสิ่งของทั้งหลายได้ ถวายวัดไปแล้ว ตามจุดประสงค็
ขอส่วนบุญ ส่งเสริมให้ ผู้มีจิตศรัทราเหล่า นั้น.
ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปราถนา ด้วยเทอญ
...................................................................

 

คุณ ดาวทะเลทราย เริ่มต้นแล้ว อย่างอลังการ์
เรารู้ว่า เขามีมากเป็นร้อยๆๆเรื่อง ที่ จะเขียนได้ยาว
เป็นการเล่า แบบเที่ยว และมีภาพประกอบ สวยๆๆตลอด
สามตา ขอเป็น แฟน ตามอ่าน จนกว่า จะจบ เรื่องที่ 100
คงใช้เวลาเป็นปี เช่นกัน..ขอเป็นแรงใจให้ครับ
.........................................................

 

ดีแล้ว ชอบแล้ว (สาธุ นั่นแหละค่ะ ขอใช้คำไทยเสียหน่อย หุๆ )
ยินดีในบุญกับทุกท่านและขอบพระคุณอาจารย์ คณะผู้เดินทาง
ในการไปถวายเงิน พร้อมทั้งสิ่งของ ให้วัดคุ้งท่าเลาในครั้งนี้ค่ะ

 

กราบ อนุโมธนาบุญ
กับ อ.สามตา และ พ่อแม่พี่น้อง
ที่ได้ร่วมกันทำบุญ ถวายผ้าป่า ถวายปัจจัย แก่วัดคุ้งท่าเล่า

ด้วยกับทุกๆ บุญ ทุกๆ ท่าน ครับ


อีกเรื่อง
คุณชยา บวช ในวันที่ 11 มิ.ย. 52
ที่วัดพิบูลย์สัณหธรรม ซอยเซ็นต์ปอล ( ซอย 9 กิโล ) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ถ้า ขับรถไป กันเอง
สังเกตง่ายๆ เลย โรบินสัน ไป 2 ไฟแดง

ซอยนี้ ถึงก่อน ตึกคอมฯ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไป สัก สองกิโล
ถามคนแถวนั้น ก็ น่าจะรู้จัก
เข้าซอย เก้ากิโล ไป สัก สองกิโลเมตร

ขออนุโมธนาบุญ กับ คุณชยา ด้วยครับ

 

ขอบคุณ ครับ สำหรับ กำลังใจ
แต่ อ.สามตา กลับมาเล่า เรื่อง ต่อ จะดีกว่า
ปล่อย ให้ผม เล่าคนเดียว เหงา แย่ ซิ


เล่าต่อ นะครับ

เดินบนถนนถลาง ไปมาจน สุดถนน คนขับรถ เค้าแสนจะรู้ใจ จอดรถรอ อยู่ที่หัวถนน
ขึ้นรถไปกันต่อ
รถมาจอด ใกล้ ศาลเจ้าใหญ่ แห่งหนึ่ง
ศาล นี้ ใหญ่โต สวยงาม น่าจะเป็นศาลที่สร้างใหม่
ซุ้มประตูขนาใหญ่ พื้นที่กว้างขางมาก เป็นไร่ๆ เลยทีเดียว
ก้าวแรกที่ เข้าไป ไม่ลืมที่ จะ บอกกล่าว เจ้าที่เจ้าทาง และสิ่งศักสิทธิ์ ผู้คุ้มครองสถานที่

ปกติ ศาลเจ้า แบบจีน ที่ประตู เค้ามักจะสร้างเทพทวาร ไว้
เพื่อคุ้มครอง ป้องกัน ไม่ให้ วิญญาณ ชั่วร้าย ผ่านเข้ามา
แต่ที่ นี่ แปลก
สร้างเป็น รูป เสนาบดี คหบดี ( เป็นรูปเสนาบดี แบบจีน ยืนอยู่ สองข้าง ประตู

เพียงเดิน เฉียดผ่านเข้าไป เท่านั้นแหละ ..............
โอ้ แม่เจ้า ..................... โว้ย
ต้อนรับ กัน แรง จัง ทำเอา ซู่ซ่าไปทั้งตัว เรด้า ประจำตัว ทำงานทันที จี๊ดจ๊าด ไปหมด

ทำให้ เดิน ด้วยความระมัดระวัง คิดในใจ ว่า เดี๋ยวคง เจออะไรดีๆ บ้างละ

เรา เดินทะลุ ศาลเจ้าแห่งนี้ ไปก่อน ไว้ขากลับ ค่อยแวะ มาไหว้พระ
เดินตามทางไป มีช่องทะลุ ออกไปศาลเจ้าแม่กวนอิม ที่อยู่ติดกันได้
ระหว่าง เดิน รู้ สึกได้ว่า เหมือน ไปชนอะไร เข้า แต่เป็น พลังที่มองไม่เห็น
หันไปมอง โอ้ ในหลวง ของเรานั่นเอง ยกมือ ไหว้ งามๆ
พระบารมี ท่าน สูงส่ง ยิ่งนัก



เป็นภาพ ที่ เค้า คงติดไว้ ที่กระดาน บอร์ด เมื่อหลายปีก่อน งานเฉลิม ของพระองค์ ท่าน

ภาพนี้ ใคร มี ก็นำขึ้น มาบูชา เสีย จะติดบ้าน ติดรถ หรือ นำติดตัว ก็ดี
ขอ พระบารมี ท่าน ปกป้องคุ้มครองเรา เพื่อความเป็นศิริ มงคล

ขณะที่ พิมพ์ ไป โม้ ไปอยู่ นี่ ผม เอง นำภาพ ของ พระองค์ท่าน ขึ้นกระทู้ ยัง รู้สึก ถึง ความ เข้มข้น จากพลัง อันแรงกล้า

ขอถวายพระพร
ขอพระองค์ จงทรงพระเจริญ

 

เดินต่อออกมา อีกนิด ก็ ทะลุ ออกมาถึง ศาลเจ้าแม่กวนอิม

เป็นศาล เล็กๆ ไม่ใหญ่โต มากนัก
แต่มีผุ้คน เข้ามา กราบสักการะ กัน เนืองแน่น คงเป็นศาลเก่าแก่ แห่งหนึ่ง ของเมืองนี้ จึงเป็นที่รู้จัก เคารพ ของชาวบ้าน



มองจากด้านหน้า ศาล เจ้าแม่กวนอิม อยู่ตรงกลาง ห้องทางซ้ายขาว มีเทพวรูป จีน ออกไปแนว บู้ หน่อย
นิน่า เล่า พอเข้ามาถึง จึง รู้สึก ได้ ถึง พลัง ร้อนแบบ แดด จ้า เลยละ
ทั้งๆ ที่ วันนี้ แสงแดด อ่อนไม่แรง นัก
พอเดิน เข้าไปทาง ขวาก่อน แล้ว เดินวน ทะลุ ออกมาทางซ้าย
พบว่า ในห้องทั้งซ้าย ขวา เป็นเทพ นักรบ ทั้งน้าน.......
ฝ่ายบู้ ทั้งน้าน......
เป็นพลัง ของ เทพ คุ้มครอง ประจำ ศาลเจ้า นั่นเอง

แหะ แหะ.... มิน่าจึง ร้อนแรง นัก



ห้องกลาง เป็น แท่นบูชา ของเจ้าแม่กวนอิม

เข้ามาสักการะบูชา ท่าน
น่าแปลก ในศาลเจ้า แห่งนี้ บรรยกาศ รอบๆ เป็นพลังร้อนทั้งสิ้น
แต่ พอเข้ามาใน ศาลซึ่ง มีแท่นบูชา ของเจ้าแม่กวนอิม

กลับ เย็นสบาย หายเหนื่อย เย็น ดีจริงๆ
จึงนั่งพัก สัก ครู่
หลับตา ทำสมาธิ

รู้สึก ได้ว่า ที่นี่ ก็ เป็น หมอ รักษา คน เหมือนกัน อีกแล้วหรือ นี่

พอลืมตา ขึ้นมา ถามคน ข้างๆ ได้ ความว่า ที่นี่ เป็นที่นับถือ ของชาวบ้าน
คนไม่มีลูก มาขอลูก
คนค้าขาย ไม่ดี มาขอ โชค ขอลาภ ค้าขายดี เซ็งลี้ ฮ้อ......
คนป่วย ไม่สบาย รักษา ไม่หาย มา ขอยา กิน รักษาโรค

ออ...... เป็นอย่างนี้ เอง

 

ข้อความที่ ดาวทะเลทราย กล่าวไว้
ในวันนั้น ยาจริงยังไม่ได้ทำ (ด้วยรูสึกว่า สูตรยังไม่สมบูรณ์ ยังต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีก)
ใช้เพียงตั้งสูตรยาขึ้นมา แล้วดึงพลังยามาใช้เท่านั้น

ได้ใช้เวลาอีกเกือบสองอาทิตย์ ปรับสูตรยาอีกหลายครั้ง ทดลองอีกหลายรูปแบบ
วันนี้ยาเริ่มลงตัวแล้ว และเริ่มทำยาจริงขึ้นมาใช้

ประกาศ หาหนูตัวเป็นๆ ทดลองยา
หลังจากได้ใช้วิธี เสี่ยงทายและดึงจิต ดึงกายทิพย์ มาลองยาหลายๆๆๆๆหน

ปล. บูชาครูค่ายา ๑๓๘.-

 

พี่ดาว ผมผิดไปแล้ว พี่มังกร ข้าน้อยขออภัย rabbit_scary

ขอบคุณ ตัวกลมๆ ด้วยน๊า

ที่พูด ไม่ได้มีเจตนาร้าย

เคารพและ นับถือนะครับ

 

ไม่ต้อง คิดมาก คุณน้อง
เค้า ล้อ กันเล่น น่า
เคยบอก ไปแล้ว เป็นพี่ เป็นน้องกัน .... ไม่ ถือสา เรื่อง เล็กๆ น้อยๆ ......หรอกจ้า....

 

สวัสดี ครับ ท่าน อ.สุวิ ดีใจจัง อ.สุวิ มาแล้ว

ยา แก้ ลมเพลมพัด นี่ ดี นะ ทำขึ้นมา เถิดครับ
ยิ่ง สมัยนี้ คน โดน กัน ได้ง่ายๆ

จะได้ ทำบุญ ได้ ช่วย รักษาคน อีกด้วย สาธุ สาธุ

มีคน ฝากถาม มา ยา กินแล้ว ผิวพรรณ ผ่องใส ยาอะไรครับ

กับ ยา แก้ เบาหวาน .......ด้วย

แล้ว จะสั่งซื้อ ยา ของอาจารย์ ได้ อย่างไร
ช่วย บอก ด้วย นะครับ

 

ขอต้อนรับเรื่องเล่าคุณดาวทะเลทราบค่ะ

กราบเรียนคุณดาวทะเลทราย

ดีใจที่มีคนมาเล่าเรื่องอีกคน คุณชยา ก็กำลังจะไปบวชแล้ว เดี๋ยวกระทู้เหงา มีคุณดาวฯ มาเล่าต่อ ยินดีมากค่ะ จะติดตามอ่านต่อไป

และขออนุญาตแทรกเรื่องรูป ร.9 บางท่านอาจยังไม่ถึงขั้นจับพลังได้ ก็เลยจะมากราบขออธิบายเพิ่งเติม

รูปนี้เป็นตอนที่พระองค์ทรงยกมือขึ้นรับพร "ทรงพระเจริญ" จากประชาชน 60 ล้านคน ที่กำลังสรรเสริญพระองค์ท่าน เรื่องนี้ใครๆ ก็ทราบกันดีนะคะ

และเพราะพระองค์ยกพระหัตรับพร พรจึงอยู่ที่พระหัต 60 ล้านพร รวมเป็นหนึ่งที่จุดนั้น พระหัตท่านหันมาที่ประชาชน ประชาชนจึงได้รับพรนั้นกลับมา

อันนี้คือคำอธิบายที่ the third eyes เคยเขียนเอาไว้เมื่อประมาณปี 2549-50 ผ่านมา 2 ปี ใครที่เคยอ่าน ก็อาจจำได้ คนที่ไม่เคยอ่าน หรือยังไม่ถึงขั้นจับพลัง จะได้เข้าใจว่าทำไม คุณดาวฯ จึงได้รู้สึกอย่างไร ดิฉันว่าจะไม่เจอภาพนี้ไปอีกนาน เพราะมันหลายปีแล้ว เจอทีไรปวดเศรียเวียนเกล้าทุกที มองเต็มตาไม่ได้ ปวดมึน

แต่คุณดาวฯ ให้ข้อคิดที่ดีเลยค่ะ เอารูปนี้ไปติดในที่ๆ ต้องการความร่มเย็น ความเมตตาสูงๆ เช่น ห้องประชุม ห้องรับแขก ห้องที่คิดว่าอาจมีสิ่งชั่วร้าย ฯลฯ น่าจะดีจริงๆ ด้วย

กราบอนุโมทนา

 

ในเดือนสองเดือนที่ผ่านมาพบโรคประหลาดๆ อยู่มาก
พวกปวดๆในกล้ามเนื้อ ข้อกระดูก มาหา
พอเราจับๆนวดๆ ไอ้เจ้าความเจ็บปวดมันก็เปลี่ยนที่ จากแขนไปที่บ่า
พอเราจับมันทั้งบ่าทั้งแขน พวกก็หนีไปที่หลังบ้าง ตะโพกบ้าง ฯลฯ
เล่นเอาเถิดเจ้าล่อกันพักใหญ่

อีกอย่าง พวกมีอาการหนึ่งมาหา เอายาไปกินแก้อาการที่เป็น
พอกินยาได้ไม่ถึงวัน อาการเก่าหาย มีอาการอื่นโผล่ขึ้นมาแทน
แก้อย่างหนึ่ง ก็มีอีกอาการโผล่ขึ้นมา และเปลี่ยนหนีไปเรื่อยๆทุกวัน

มันจะเอายังไงกันวะ ชักเคืองแฮะ ไอ้พวกนี้...มันให้เราวิ่งตาม
แก่แล้ววิ่งตามไม่ค่อยไหว หวะ

นั่งคิดนอนนึกอยู่นานแสนนนนนานนนน หาทางออกไม่เจอ
นึกถามครูผู้เฒ่าอยู่ ก็ไม่ยัก มีคำตอบ

วันที่เพื่อนมาหา มาตั้งยารักษาโรคไต กัน
ท่านอ.ใหญ่ ท่านผู้เฒ่า ก็เมตตาแวะมาแจมด้วย ชั่วครู่ (แบบแวบๆผ่านมา และผ่านไป)
บอกยา แก้ลมเพลมพัดให้
ณ. วันนี้ยาตัวนี้ สมบูรณ์แล้ว(ในระดับหนึ่ง) และเริ่มทำยาจริงแล้ว

ตั้งชื่อยาว่า

"ยามิรู้อยู่"
สรรพคุณ
แก้อาการ ให้เล่าร้อน นอนนั่ง ไม่รู้อยู่
แก้ โรคอันหาเหตุมิได้
แก้ ลมเพลมพัดทั้งปวง

 

ยา กินแล้ว ผิวพรรณ ผ่องใส ยาอะไรครับ
ยาชื่อ ผลาธิกะ + กระชายทองนพคุณ

กับ ยา แก้ เบาหวาน .......ด้วย
ยาชื่อ ผลาธิกคุณ + กระชายทองนพคุณ + ปลูกเตโช (ดีขึ้นอย่างช้าๆ)

การติดต่อ ให้ติดต่อทาง PM

 

เฮ่ๆๆๆ ยาที่อาจารย์สุวิว่ามานั้น กำลังกินอยู่ค่ะู่ ตั้งแต่กินมานี่ 1เดือนหน้าตาเป่ง
(กลม)ปลั่ง ถ้าซัก 2เดือน ลูกผมไรผมก็ขึ้น ไม่กังวลกับการรวบผมตึงเท่าไหร่
เลือดดีแล้ว แต่วันโน้นดันกินเงาะเช้าเย็น ครั้งละเกือบกิโล เดือดร้อนรพ.
อดได้เลือด เพราะความดันขึ้น145 (แถมช่วงนั้นยาหมดเสียอีก)

โรคคุณไสย เพื่อนกับคุณแม่เพื่อน ที่อาจารย์เคยช่วยไล่เจ้าแมงป่อง กับพยาธิ
ในตัวไงคะ พอไล่มันออก เขาก็ส่งรอบใหม่มาค่ะ งั้นกลมจะแจ้งทาง pmนะคะ
หุๆ ต้องแอบเพิ่มอีกแพ็ค เผื่อพกติดตัวไปโน่นนี่

คุณnOOm เขียนแซวคุณพี่สองท่านเล่นๆน่ะค่ะ พี่ๆไม่ซีเรียสร้อก(แค่กัดฟัน อิอิ)

ขอบคุณคุณatitarnค่ะที่ช่วยขยายความ เรื่องรูปในหลวงนะคะ เป็นรูปที่มีทุกบ้าน

ขอขอบคุณอาจารย์ลาดกระบังเก่านะคะ เคสรถร้อนนั้นแ้ก้ไขจุดที่พี่บอก เมื่อวาน
ขับไปยิ้มไป ไม่พะวงกับเข็มความร้อนแล้ว เลยบอกเพื่อนว่า สงสัยจะผลบุญอีก
คราวโน้นบริจาคโลหิต เลือดข้นแล้วมาเจอ อ.สุวิ ได้ยารักษา แถมหน้าตา&ผมดีขึ้น
ส่วนคราวนี้รวบรวมเงินเพื่อนๆมาทำบุญกับอาจารย์สามตา มาเจอพี่ ที่ไปดูรถให้
เหมือนเส้นผมบังภูเขา ปัญหามาเป็นเดือนๆ ช่างหาไม่เจอ เซ็งทั้งช่างทั้งเจ้าของรถ
พอบอกช่างให้เปลี่ยนปั๊มน้ำปั๊บ เรียบร้อยเลย แกมัวแต่ไปดูระบบหม้อน้ำ วาล์วน้ำ แอร์

 

วันที่เฝ้าหน้าจอทีวี ชมพระราชพิธี

จำความรู้สึกตัวเองได้ดีเลย เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยกพระหัตถ์โบก

ขนลุกตั้งแต่ขาไปจนศีรษะเลย ยกมือท่วมหัวรับพรท่าน น้ำตาไหลพราก ดีใจเห็นในหลวงทรงพระเจริญ

ท่านเป็นพระมิ่งขวัญของชาวไทยจริงๆ ขอบคุณคุณอธิษฐานที่มาอธิบายพลังในพระบรมรูปองค์นี้ค่ะ

 

สาตุ๊ๆ..
มาแจมด้วยย
เสียดายเมื่อวานบุญไม่พอให้ไป เลยอดไปเลย
เดี๋ยวจะไปเองให้ได้เลยวัดคุ้งเนี่ยยย
มีข้างบนบอกคนข้างๆให้ไป 55+

 

พระทักษิณมิ่งมงคลนาคเอกคีรี
ตั้งเด่น อยู่บน ยอดเขา นาคเกิด
อยุ่ เลย จากวัดฉลอง ไป หน่อย เลี้ยวขวา ขึ้นไป บนเขา

พอ ไปถึง ฝน ตก ปรอยๆ ไม่ หนัก นัก พอไหว น่า นานๆจะได้ มาสักที บ่ ยั้น ดอก แค่นี้

พอจอดรถ ที่ลานจอดรถ ด้านหลัง องค์พระ เท่านั้นแหละ
ฝน ตก กระหน่ำ ลงไม่
เรา ก็ นั่ง รอ ฝน กันในรถ ฝนตก ๆ เปิดแอร์ ในรถ เย็น ฉ่ำ ออกจะ สบาย นั่งคุยกัน รอฝน ไปก่อน จน เกือบ ชั่วโมง ก็ยังไม่ หยุด

แต่ ที่ แน่ๆ ผมเอง รับ กระแส พลัง อันแรง จ้า ขององค์ พระ ได้
จน แขนซ้าย ที่ นั่ง ติด กระจก รถ ยังกับ นั่งตากแดด ร้อนๆ

พูดไป ใคร จะ ไปเชื่อ เจ้าน้องที่ นำทางให้ผม กับ คนขับรถ
มองหน้า ผม แบบ งง ๆ
อา ไร ว้า ฝนตก แถม เปิดแอร์ ในรถ ออกจะ เย็น จนหนาว
เสียด้วย ซ้ำไป
จึง ต้อง เอามือ ไป อัง ที่ ตัว เขา ทั้งสอง ให้ ดู ว่า ร้อน จริงๆ ขนาดไหน ............... หุ หุ หุ

จึงพอ เข้าใจ ได้ว่า พระพุทธรูป องค์ นี้
ผู้สร้าง คง มี เจตนา ให้ มี พลัง คุ้มครอง สูง มากๆ
ท่าน จึง มี พลัง ด้าน คุ้มครอง สูง เสียจน
.......................................ร้อน ฉ่า ออกมา เช่นนี้

สรุปว่า ก็ไม่ ลงไป สำรวจ ไว้มี โอกาส จะแวะไปอีกที

ลงจากเขามา ไม่ไกล ก็ถึง วัดฉลอง เข้าไปกราบ หลวงพ่อแช่ม กันดีกว่า






เข้ามา วัดฉลอง กราบ รูป หลวงพ่อแซ่ม
เย็นสบายใจ สบาย กาย หลัง จาก ที่ เจอ แต่ พลัง ร้อนๆ มา เกือบทั้งวัน

ภายในวัด นอกจาก มากราบรูปหล่อ หลวงพ่อแล้ว
ด้านหลัง ยังมี พระธาตุ ที่ สร้าง ขึ้นมาใหม่ เอาแบบมาจาก พระธาตุพนม

วิหาร ท่านเจ้าวัด ใครผ่านไป อย่าลืม แวะ เข้าไป กราบพระท่านเจ้าวัด
ยังมี รูปปั้น ตาขี้เหล็ก กับ รูปปั้น ท้าวกุเวน อีกด้วย

กุฏิ จำลอง ของ หลวงพ่อแช่ม มี รูป ปั้นหุ่นขี้ผึ้ง อีกด้วย

เดินกันจน ทั่ว และไม่ลืม ที่จะ จุดประทัด ถวาย หลวงพ่อ ก่อนกลับ