คลังเรื่องเด่น
-
"กิเลส ขนาดเท่าเบญจขันธ์" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"กิเลส ขนาดเท่าเบญจขันธ์"
" .. "การภาวนาเพื่อความรู้ความฉลาด" จงค้นลงที่เบญจขันธ์ บ่อเกิดกิเลสตัณหา อยู่ที่ขันธ์ แดนพ้นทุกข์ก็อยู่ที่ขันธ์ "จะกำหนดทุกข์ก็ดี อนิจจังก็ดี อนัตตาก็ดี ในลักษณะใดก็ตาม จงกำหนดให้ประจักษ์ใจจริง ๆ สิ่งเหล่านี้มีอยู่ที่ขันธ์ทั้งนั้น"
ความทุกข์ ทุกข์ตลอดอวัยวะและตลอดกาล ไม่เที่ยงและอนัตตาก็เช่นเดียวกัน ประกาศอยู่ที่ขันธ์ทุกเวลาไม่มีว่างเว้น "เห็นความจริงจากขันธ์แล้ว หายเพลินหายโศก" กิเลสไม่กว้างไม่แคบ ไม่มากไม่น้อย "มีขนาดเท่าตัวหรือเท่าเบญจขันธ์เท่านั้น" .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
นิพพิทาญาณเป็นของดีมาก ควรที่จะรักษาไว้กับเราให้ได้มากที่สุด
อากาศที่เปลี่ยนแปลงจะว่าไปก็เป็นปกติธรรมดาของโลก แต่คราวนี้เป็นปกติธรรมดาที่ยาวนานเกินช่วงอายุของคน บางทีหลายชั่วอายุคนก็ยังไม่ได้พบ ก็เลยทำให้พวกเรารู้สึกว่าแปลก ก็คือสภาพภูมิอากาศในโลกของเรา มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอยู่ตลอดเวลา สถานที่บางแห่งทะเลทรายขยายตัวขึ้น หรือว่าขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ชั้นน้ำแข็งบางลง หดตัวเล็กลง มนุษย์เรามีอยู่อย่างเดียวก็คือต้องคล้อยตามธรรมชาติ
สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเล็กอยู่ บ้านเรือนผู้คนส่วนใหญ่แล้วปลูกบ้านใต้ถุนสูง พอถึงเวลาหน้าร้อนก็ทำงานอยู่ใต้ถุนบ้าน มีหลังคา มีพื้นเรือน กรองความร้อนสองชั้น พอถึงเวลาหน้าน้ำหลาก ก็ย้ายขึ้นชั้นบน เอาเรือลงจากคาน ถึงเวลาก็เดินทางด้วยการแจวเรือไป นั่นเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเราที่อยู่กันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า รู้ว่าถึงเวลาแล้วน้ำจะหลากมา
แล้วทุกคนก็อยากให้น้ำหลากด้วย เพราะอันดับแรกเลยก็คือเวลาน้ำหลากมา บรรดาโอชะหรือว่าปุ๋ยต่าง ๆ ก็มากับน้ำ โดยเฉพาะเกือบทุกบ้านจะขุดบ่อ เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง พอน้ำหลากมา ของแถมก็คือปลา จะลงไปตกคลั่กอยู่ในบ่อเอง เท่ากับว่ามีอาหารสำรองไว้กินได้ทั้งปี... -
"บุญตกแต่งร่างกายนี้ให้สมบูรณ์" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"บุญตกแต่งร่างกายนี้ให้สมบูรณ์"
" .. "ผู้ใดมีบุญหลาย บุญก็ตกแต่งร่างกายนี้ให้สมบูรณ์" ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความเจ็บไข้น้อย "ผู้ใดมีบาปหลายติดตัวมา บาปนั้นก็มาตกแต่งอวัยวะร่างกายนี้ให้ไม่สมบูรณ์" เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ เบียดเบียนหาความสบายได้ยาก
"บุญและบาปที่มาตกแต่ง ร่างกายนั้นมันไม่เที่ยง" ร่างกายนั้นมันจะเที่ยงมาแต่ไหน เราต้องสืบสาวหาต้นตอของการเกิดมาเป็นรูปเป็นนาม "อันนี้ล่ะต้องสืบสาวดูให้รู้ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า" อย่าไปเอาคำสอนผู้อื่นมาเป็นเครื่องวินิจฉัย
"เพราะคำสอนผู้อื่น นอกจากพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แล้ว ถือว่าเป็นความคิด ความเห็น ความรู้ ที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง"เพราะท่านเหล่านั้นยังไม่รู้จริง ไม่เห็นแจ้ง ยังละอาสวะกิเลสไม่ได้ "ท่านผู้ใดเป็นผู้ละอาสวะกิเลสได้ ท่านผู้นั้นแหละเป็นผู้รู้จริงเห็นจริงในชีวิตนี้ตามจริง" .. "
พระสุธรรมคณาจารย์
(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) -
บรรยายธรรมแก่ชมรมผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลเกาะช้าง จังหวัดตราด
บรรยายธรรมแก่ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลเกาะช้าง จังหวัดตราด
วันพุธที่ ๒๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๓๐ น.
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) ประธานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ บรรยายธรรมแก่ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลเกาะช้าง จังหวัดตราด
ณ ศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
"ผู้สร้างกิเลสคือใจ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
,
"ผู้สร้างกิเลสคือใจ"
" .. "อำนาจวาสนาเราสร้างอยู่ทุกวัน สร้างอยู่ที่ตัวของเรานี้" เราอย่าไปคิดว่า "อำนาจวาสนาอยู่ทางโน้นทางนี้" อยู่ทางใกล้ทางไกลเอื้อมไม่ถึงบ้างอะไรบ้าง เป็นความเข้าใจผิด "กิเลสมันได้วาสนามาจากไหน" มันถึงสร้างได้มากมายก่ายกองเต็มหัวใจเราจนหาทางเดินไม่ได้ มันมีวาสนามาจากไหน
"ก็ผู้สร้างกิเลสคือใจ" กิเลสจึงเกิดขึ้นมาได้ แล้วการแก้กิเลสไม่แก้ที่นี่ จะไปหาวาสนาที่ไหนมาแก้ มันไม่ทันกัน แก้ตรงนี้ "หนามยอกเอาหนามบ่ง" ถอดถอนหัวหนามออกมา "มันอยู่ที่ใจ" แก้ที่ตรงนี้ .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
สู้กามราคะ อวัยวะเพศหญิงลอยเต็มหน้าในนิมิต/ ประวัติหลวงพ่อชา สุภัทโท
สู้กามราคะ อวัยวะเพศหญิงลอยเต็มหน้าในนิมิต/ ประวัติหลวงพ่อชา สุภัทโท
***********
ที่มา https://www.youtube.com/@newofficialchannel7189 -
"หลวงตาฯ ลาโพธิญาณ" (หลวงปู่ลี กุสลธโร)
.
"หลวงตาฯ ลาโพธิญาณ"
" .. "คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ" ท่านมีความรู้แปลกพิสดารมากในเวลาภาวนา ท่านจะตามรู้ไปหมด ทั้งเรื่องที่เป็นอดีตที่ผ่านมา "และเรื่องที่ยังมาไม่ถึงได้อย่างแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อท่านพูดด้วยญาณหยั่งทราบจึงเป็นความเห็นที่แน่นอน" หลวงตาฯ เคยพูดถึงความรู้พิเศษของแม่ชีแก้วว่า ..
"แม่ชีแก้วนี้แกสำคัญอยู่นะ แกพูดอย่างนี้ พูดด้วยญาณหยั่งทราบ" แน่นอน ๆ อยู่ใคร ๆ เคยเป็นลูกมายังไง ๆ แกรู้หมดสมัยไหน ๆ แกย้อนพิจารณาหมดเช่น "ท่านสิงห์ทองนี้ รู้สึกว่าแกรักมากเลยนะ ผู้เฒ่าแม่แก้วนี่ว่าเคยผูกพันกันมานาน"
เรื่องนี้เราก็ไม่เคยพูดนะอย่างนี้นะ "เพราะมันเป็นเรื่องผ่านมาแล้ว ไม่ทราบพูดหาอะไร" ทีนี้เวลามันสัมผัส เราก็พูดบ้างมันนานแล้ว แล้วแก (แม่ชีแก้ว) ก็ถามว่า ..
เท่าที่พิจารณาดูนะ ที่มันรู้มา "ญาท่านนี่เคยปรารถนาพุทธภูมิมานะ แล้วทำไมถึงเลิกเสียล่ะใช่มั้ย" แกว่าอย่างนั้นนะ "เราก็ไม่ตอบเสียเลยล่ะกระทั่งบัดนี้ยังไม่ตอบเลยนะ" แกถามแบบสงสัยนะเราก็เฉยเลย แกก็จับคำอะไรเราไม่ได้นะ "เราก็ไม่เคยพูดที่ไหนว่าเราเคยปรารถนาพุทธภูมิมา เราก็ไม่เคยพูดที่ไหน"
แต่แกทำไมนำมาพูด ทั้ง ๆ... -
25671123Sat อายุวัฒนมงคล วิริยธโร80ปี36พรรษา วัดถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
25671123Sat อายุวัฒนมงคล วิริยธโร80ปี36พรรษา วัดถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ที่มา https://www.youtube.com/@Athinan58 -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
"วิชชาในสมาธิ" (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
.
"วิชชาในสมาธิ"
" .. "วิชชาในเรื่องสมาธิ" นั้นมีอยู่ ๒ แผนก ..
- เป็นไปกับด้วย "โลกีย์อย่างหนึ่ง"
- เป็นไปด้วย "โลกุตระอย่างหนึ่ง"
"วิชชาโลกีย์" คือติดความรู้ความเห็นของต้นเองนี้หนึ่ง ติดสิ่งทั้งหลายที่มาปรากฎให้เรารู้เราเห็นนี้อย่างหนึ่ง "วิชชาก็ดี สิ่งที่ให้เรารู้เราเห็น ด้วยอำนาจแห่งวิชชาก็ดี เป็นของจริงและของไม่จริงเจือปนอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น" แท้ของจริงในที่นี้เป็นส่วนสังขารธรรมทั้งสิ้น ขึ้นชื่อว่าสังขารแล้วย่อมไม่เที่ยงไม่มั่นคงถาวร
ฉะนั้นเมื่อต้องการโลกุตระต่อไป "ให้รวมสิ่งที่เรารู้เราเห็นทั้งหมดเข้ามาเป็นจุดอันเดียว คือ เอกัคคตารมณ์ ให้เห็นเป็นสภาพอันเดียวกันทั้งหมด" เอาวิชชาความรู้ทั้งหลายเหล่านั้นเข้ามารวมอยู่ในจุดอันนั้น จนรู้แจ้งเห็นจริงว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไปเป็นธรรมดา
แล้วอย่ายึดถือในสิ่งที่รู้ที่เห็นมาเป็นของของตน "อย่ายึดความรู้ความเห็นที่เกิดจากตนมาเป็นของของตน" ให้ปล่อยวางไปเสียตามสภาพ "ถ้าไปยึดอารมณ์ก็เท่ากับยึดทุกข์ ยึดความรู้ของตนจะเกิดเป็นเหตุแห่งทุกข์ คือสมุทัย"
ฉะนั้น "จิตที่นิ่งเป็นสมาธิแล้วเกิดวิชชา... -
สัพพัญญุตญาณนิทเทส | แสดงสัพพัญญุตญาณ | พุทธญาณ
สัพพัญญุตญาณนิทเทส | แสดงสัพพัญญุตญาณ | พุทธญาณ
---------------
อนุโมทนา และ ขอบคุณที่มา
มูลนิธิอุทยานธรรม
https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
วิบากกรรมของพระอรหันต์โลสกติสสเถระ เพราะเคยเบียดเบียนผู้อื่นด้วยความอิจฉาริษยา
วิบากกรรมของพระอรหันต์โลสกติสสเถระ
เพราะเคยเบียดเบียนผู้อื่นด้วยความอิจฉาริษยา
แม้บรรลุความเป็นพระอรหันต์แล้ว ขันธ์ห้าที่ครองก็ยังต้องรับวิบากกรรม
**********
ขอบคุณที่มา https://www.youtube.com/@dhammaiyak -
ญาณในมหากรุณาสมาบัติ/มหากรุณาญาณนิทเทส | พุทธญาณ
มหากรุณาญาณนิทเทส | แสดงญาณในมหากรุณาสมาบัติ | พุทธญาณ
ที่มา มูลนิธิอุทยานธรรม
https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
พระสารีบุตรเถระ/พระอัครสาวกรูปแรก/เรื่องราวตั้งแต่การตั้งความปรารถณาถึงปรินิพพาน
พระสารีบุตรเถระ...พระอัครสาวกรูปแรก
ขอบคุณที่มา https://www.youtube.com/@dhammaiyak -
ทำไมต้องสร้างวัดใหญ่โตด้วย / วัดพุทธพรหมยาน
ทำไมต้องสร้างวัดใหญ่โตด้วย
ที่มา https://www.youtube.com/@Watphutthaprommayan -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
ถ้าเรารักษาศีลครบโดยไม่รู้ตัวว่าศีลเราครบหรือเปล่า แล้วอานิสงส์จะได้ครบไหม ?
ถาม : ถ้าเรารักษาศีลครบโดยไม่รู้ตัวว่าศีลเราครบหรือเปล่า แล้วอานิสงส์จะได้ครบไหม ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจรักษาก็ได้ครบ แต่ถ้าเจตนาไม่มีในการงดเว้นนั้น บังเอิญว่าครบเองอย่างนั้นถือว่า เจตนา คือตัวกระทำไม่มี พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า “เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ” ต้องเจตนาถึงจะเป็นบุญ ถ้าตั้งเจตนาไว้ว่าจะรักษาแล้วหลงลืม แต่ว่าทำได้ครบก็ถือว่าเต็มอยู่
ถาม : ผมนึกถึงตอนนอนครับ หลับทุกคืนนี่ไม่ผิดศีลแน่เลย
ตอบ : ตั้งใจไว้ก่อนสิว่า ผมจะรักษาศีลตอนนอน เดี๋ยวได้ฝันว่าได้ฆ่ากันทั้งขบวน ..(หัวเราะ).. โดนแกล้งจนได้ คิดจะหากินวิธีง่ายใช่ไหม ?
ถาม : นึก ๆ แล้ว เออ..ถ้าหากไม่ได้ตั้งใจจะได้อานิสงส์หรือเปล่า จริง ๆ อานิสงส์เยอะมาก
ตอบ : ต้องตั้งใจเจตนา “เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ”
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
"ศีลข้อ ๕ แม้ไม่เจตนาละเมิดก็ผิด" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
ศีลข้อที่ ๕ นั้นน่ะ สุราเมรยฯ นั้น
ท่านกล่าวไว้ว่า ถึงไม่เจตนาก็เป็น
ไม่เจตนาที่จะดื่มแต่ว่ามันสะเพร่า
ขาดการพิจารณา เช่นอย่างว่า
เขาเทเหล้าใส่แก้วแล้วยื่นมาให้นี่
ตนไม่ได้พิจารณาไปสำคัญว่าเป็นน้ำธรรมดา
แล้วก็ดื่มเข้าไปอย่างนี้นะ
พอดื่มเข้าไปแล้วจึงรู้ว่าเป็นเหล้า
อย่างนี้ก็ไม่พ้นโทษ ก็เป็นโทษ
ดังนั้นถ้าผู้ฉลาด ผู้มีสตินี่
เขาส่งน้ำอะไรมาให้ใส่แก้วมา
เราก็ต้องพิสูจน์ดูซะก่อน ดมดูซะก่อน
มันก็รู้แหละ กลิ่นเหล้ามันเป็นยังไง
มันก็รู้ รู้แล้วมันก็ไม่ดื่ม มันเป็นอย่างนั้น
ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ข้อนี้นะ
เพราะเหตุว่า คนเรามันจะหาทางแก้ตัว
ถ้าใครเทเหล้าใส่แก้วแล้วส่งมาให้ไปดื่ม
ก็ .. โอ๊ะ .. เราไม่รู้ว่าเป็นเหล้า
เราได้ดื่มไปเสียแหล้วแหละ
อย่างนี้ก็นับว่า หาทางแก้ตัว
อันนั้นมันไม่พ้นโทษ
เพราะฉะนั้นเราต้องศึกษา
ให้รู้ให้เข้าใจละเอียดอันข้อศีลนี้นะ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
https://www.dhammathai.org/monktalk/dbview.php?No=543 -
วาจาเป็นทิพย์ / หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ)วัดท่าซุง
https://www.youtube.com/shorts/XiGkfVwpvso?feature=share
วาจาเป็นทิพย์ / หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ)วัดท่าซุง
ขอบคุณที่มา https://www.youtube.com/@Ssuwan1978 -
สัมมาวาจา เจรจาชอบ / พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
สัมมาวาจา เจรจาชอบ / พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
************
ที่มา https://www.youtube.com/@dhamma2022 -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ -
"ยาขนานใหม่" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
.
"ยาขนานใหม่"
" .. วันหนึ่ง หลวงพ่อสังเกตเห็น "พระเที่ยงฉันยาบางอย่างอยู่เป็นประจำ" จึงถามว่า ..
"ท่านเที่ยง ฉันยาพวกนี้นานแล้วหรือ"
"กระผมฉันมาหลายปีแล้วครับ"
"แล้วมันดีขึ้นไหม"
"พอทุเลาลงบ้างครับ"
ทลวงพ่อนิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วพูคขึ้นว่า ..
"เอ้อ .. ฉันยาพวกนี้ก็นานแล้ว ยังไม่เห็นว่ามันจะหาย สักที .. เอามันโยนทิ้งไปชะ แล้วมาฉันยาขนานใหม่กัน คือฉัน อาหารให้น้อย นอนให้น้อย และพูดให้น้อย แล้วทำความเพียร เดินจงกรมนั่งสมาธิให้มาก" ลองทำดูนะ ถ้ามันไม่หาย เราก็ยอมตายไปชะ .. "
"ใต้ร่มโพธิญาณ"
หลวงปู่ชา สุภัทโท
หน้า 4 ของ 416